หากนึกถึงวงการมอเตอร์ สปอร์ต เราคงคุ้นเคยกับนักแข่งผู้ชายที่ชื่นชอบความเร็วลงฟาดฟันกันในสนามแข่งเพื่อเข้าเส้นชัยแล้วไปยืนบนโพเดียมรับถ้วยรางวัล น้อยมากที่เราจะเห็นนักแข่งหญิงหาญกล้าลงไปท้าความเร็วแข่งกับผู้ชาย โดยเฉพาะการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ แถมเอาชนะผู้ชายจนขึ้นไปยืนรับถ้วยรางวัลบนโพเดียมมาแล้ว

เธอคือ มุกข์ลดา สารพืช สาวนักบิดวัย 24 ปี เจ้าของหมายเลข 44 สังกัดทีม เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ดีกรีแชมป์เอเชียในรายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง (Asia Road Racing) รุ่นเอเชีย ดรีมคัพ (Asia Dream Cup) ในปี 2015 ขณะที่ผลงานล่าสุดเธอคว้าแชมป์รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ในรายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง  2018 ในสนามแรกที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

เธอกลายเป็นดาวเด่นในวงการจักรยานยนต์ทางเรียบของเมืองไทย แต่กว่าจะมีความสำเร็จอย่างวันนี้ก็ใช่ว่าได้มาโดยง่าย เพราะเธอเป็นผู้หญิงเพียงหนี่งเดียวของวงการที่ต้องต่อสู้กับคำสบประมาท และต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจมากกว่าปกติในการพิสูจน์ให้เห็นว่า เธอมีความสามารถไม่แพ้ใคร

ความหลงใหลในเรื่องความเร็วเกิดขึ้นตอนไหน

ก็ตั้งแต่เราเริ่มรู้จักรถนาโนไบค์หรือรถไฟฟ้า ตอนอายุ 11-12 ขวบ มีเพื่อนมาบอกว่า มีรถไฟฟ้ามาเปิดอยู่ที่โลตัสแถวบ้าน พอเลิกเรียนก็ชวนกันไปเล่น พอเราได้ไปสัมผัส ก็รู้สึกมันมีความท้าทายอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องฝึกฝนทักษะหลายๆ อย่าง เลยคิดว่าเป็นกีฬาที่เราชอบ ทำให้เราหลงใหลเรื่องความเร็วมานับแต่นั้น

หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนชวนไปลงแข่งนาโนไบค์ เพราะคงเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนผู้ชาย และคงเป็นสีสันของการแข่งขัน เราก็ขี่นาโบไบค์อยู่ 4 ปี หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่วงการมอเตอร์ไซค์แบบจริงจังตอนอายุ 14 ปี ได้เข้าร่วมทีมฮอนด้า ช. เจริญยนต์ ซึ่งทำให้เรามีโอกาสได้ลงแข่งขันในรายการ Asia Road Racing Thailand และได้มาอยู่ทีมจนเราได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในทีมฮอนด้าช.เจริญยนต์ ทีม A.P. Honda Racing Thailand ถึงปัจจุบันนี้

ต้องปรับตัวและฝึกฝนทักษะอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม

แน่นอนว่าสิ่งที่แตกต่างอย่างแรกคือเรื่องของความเร็ว สอง พลังงานต่างกัน คือรถแบตเตอร์รี่ขี่ไปแล้วแบตหมดก็ต้องชาร์จ รถน้ำมันก็ใช้แหล่งพลังงานคนละรูปแบบ แต่เรื่องของทักษะ เรามีติดตัวมาตั้งแต่นาโนไบค์ ก่อนที่จะมาขี่มอเตอร์ไซค์ก็ฝึกฝนมาบ้าง พอปรับรุ่นของรถที่ใช้ในการแข่งขันจริง ก็มาเรียนกับ Honda Racing School กว่าจะก้าวเข้ามาแข่งขันได้ทุกวันนี้ ต้องมีพื้นฐานมาก่อน

ชัยชนะที่ภูมิใจที่สุดที่เคยได้มา

ความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดที่เคยได้รับคือรายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง ในปี 2015 เราคว้าแชมป์รุ่นเอเชีย ดรีมคัพ ที่เป็นถ้วยประจำปีมาครองได้ เรารู้สึกภูมิใจมาก เพราะเป็นรายการที่มีนักแข่งทั่วเอเชียลงแข่งกัน แล้วเราก็คว้ารางวัลมาได้ ส่วนตัวคิดว่ามันยากมากที่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้

สิ่งสำคัญที่ทำให้นักแข่งผู้หญิงสามารถชนะได้คืออะไร

อาจเป็นเพราะว่าเรามีใจสู้ ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งหญิงหรือชาย มีเป้าหมายเหมือนกันคือชัยชนะ เราไม่ได้เสียเปรียบในเรื่องของหัวใจอยู่แล้ว เพราะเราเต็มที่กับทุกการแข่งขันที่ได้ลง อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ถ้ามัวแต่มานั่งคิดว่าการเป็นผู้หญิงจะต้องแพ้ผู้ชาย มันก็แพ้ตั้งแต่ต้น ถ้ายังไม่ทันลงมือทำเลยเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะแพ้ มุกข์คิดว่ามุกข์ต้องทำให้ได้

เจอปัญหาและอุปสรรคของการเป็นนักแข่งผู้หญิงที่ต้องแข่งกับผู้ชายบ้างไหม

ไม่นะคะ มุกข์คิดว่าไม่มีอุปสรรคในการต้องลงแข่งกับผู้ชาย ถ้าเราชนะมันก็เหมือนเป็นรางวัลให้กับตัวเอง เพราะทุกคนมองว่าเราเป็นผู้หญิง จะชนะผู้ชายได้อย่างไร แต่ถ้าเราชนะได้ ก็เป็นก้าวแรกที่เรารู้สึกว่าทำได้ เราอยากจะทำให้เต็มที่ที่สุดมากกว่า

อุปสรรค ถ้าจะมี ก็เป็นเรื่องความแตกต่างกันของแต่ละสนามแข่ง บางทีเราเซตไม่ดี เพราะแต่ละสนามมีความต่างกัน เราก็ต้องเรียนรู้ให้ดีว่าสนามที่เราจะแข่งมีอะไรเป็นอุปสรรคสำหรับเราบ้าง และทำอย่างไรให้เราสามารถขับรถได้เร็วที่สุด

แล้วข้อดีของการเป็นนักแข่งผู้หญิงล่ะ

คนอาจถูกมองว่าเป็นผู้หญิงจะสู้เขาได้ไหม เราจะประสบความสำเร็จไหม ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งคือ เวลาเราชนะ เราจะรู้สึกว่าเราสามารถทำได้ และชนะคำสบประมาทที่ว่าผู้หญิงจะชนะผู้ชายได้อย่างไร ก็เป็นแรงผลักดันให้เราอยากจะพัฒนาตัวเองมากขึ้น

คำสบประมาทที่แรงที่สุดที่เคยเจอ

ก็คงจะเป็นประมาณว่า สู้ผู้ชายไม่ได้หรอก ยังไงก็สู้ไม่ได้ เพราะผู้ชายมีพละกำลังมากกว่า มีแรงฟิตซ้อมมากกว่า แต่ใครจะไปรู้ว่าเวลาที่ซ้อม เราซ้อมเหมือนผู้ชาย ทำให้เวลาลงแข่ง เราไม่ได้รู้สึกกลัว เราแค่อยากได้รับชัยชนะเท่านั้น

เวลาขึ้นไปอยู่บนอานมอเตอร์ไซค์ มีความกลัวไหม แล้วจัดการกับมันอย่างไร

มีความกลัวไหม ไม่มีค่ะ เราคิดทุกครั้งว่าจะทำอย่างไรให้ได้ชัยชนะ ให้กับทั้งทีม ตัวเรา และแฟนๆ ที่ติดตามเรา คิดทุกครั้งว่าจะต่อสู้กับคู่แข่งและอุปสรรคได้อย่างไร

พลังด้านลบหรือคำสบประมาทมันสามารถกลับมาเป็นพลังให้เราได้อย่างไร

เหมือนเวลาเราทำอะไรแล้วถูกสบประมาทว่าทำไม่ได้ แต่พอเราทำได้ เรารู้สึกเหมือนว่าสามารถลบคำสบประมาทนั้นได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้เรามีพลังสู้ต่อ มีความมานะที่อยากจะทำให้ดีกว่าเดิม

คุณคิดอะไรเวลาอยู่ในสนามแข่ง

ทุกอย่าง พอเราจับรถ ปิดหมวกเนี่ย มีการแข่งสิบรอบ เราต้องคิดแล้วว่ารอบนี้เราจะทำอย่างไร เวลาเปลี่ยนรอบแข่ง จิตใจของนักแข่งจะรู้โดยตัวเองว่าอีกกี่รอบ เราจะทำเท่าที่ทำได้ แล้วจะทำได้ไหม เช่นเหลืออีก 2 รอบ จะทำอย่างไรให้เราติด 3 อันดับแรกให้ได้ ทำอย่างไรไม่ให้คู่แข่งไม่แซงเราขึ้นไป มันคือความคิดที่นักแข่งทุกคนต้องคิด  

ฟังเหมือนว่ากำลังแข่งขันกับตัวเอง

ใช่ค่ะ การแข่งขันส่วนใหญ่คือ เราต้องแข่งกับตัวเอง และพารถของเราไปสู่เส้นชัยให้ได้ อยู่กับตัวเองและความคิดทุกอย่างที่ทำลงไป สมาธิจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ

ก่อนแข่งแต่ละรายการมีการฝึกซ้อมหรือเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ทาง A.P. Honda Racing Thailand  ให้พี่ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ มาเป็นโค้ชให้ 2 ปีแล้ว พี่ฟิล์มก็ได้ฝึกทักษะให้กับน้องๆ พอสมควร มุกข์ก็ได้รับมาเยอะ ทั้งในแง่มุมการขับขี่ ความคิด เขาจะฝึกซ้อมให้กับทุกคน อย่างเราเองเวลาฝึกซ้อมก็ต้องทำเหมือนที่นักแข่งผู้ชายทำ ไม่มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอะไรทั้งสิ้น

ยิ่งช่วงก่อนแข่ง จะมีตารางการฝึกซ้อมให้กับนักแข่ง อาจเป็นการซ้อมในสนามซ้อมของเราเอง ทางฮอนด้าก็จะมีรถมาให้เราซ้อม แล้วพี่ฟิล์มก็จะมีตารางมาให้เราฝึกเหมือนกัน รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มีทั้งการวิ่ง ว่ายน้ำ และเล่นเวท แต่เราอาจจะเน้นไปที่เล่นเวทเพื่อให้ได้พละกำลังและการสร้างกล้ามเนื้อ เพราะว่าการขับรถแข่งต้องใช้พละกำลังในการคุมรถ การเข้าโค้ง การสไลด์ต่างๆ

มีเทคนิคส่วนตัวเวลาขี่ในสนามแข่งไหม

จริงๆ มุกข์มองไม่ออกว่าสไตล์ของมุกข์เป็นแบบไหน นักแข่งแต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่การขับขี่ การเข้าโค้ง อาจจะมีการเข้าโค้งนี้เร็วกว่าคู่แข่ง หรือช้ากว่า ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว อย่างทีเราเข้าโค้งแคบ แต่คู่แข่งอาจเข้าไลน์ที่กว้างกว่า มันมีข้อแตกต่างของนักแข่งแต่ละคนอยู่ เวลาดูของคนอื่นก็อยากนำมาปรับใช้บ้าง เช่น ดูรายการแข่งของ Moto GP เราก็อยากทำได้อย่าง Marc Marquez ทำไมเขาถึงสไลด์เข้าได้อย่างเร็ว เราก็นำมาปรับให้เข้ากับเรา

มีนักแข่งที่เป็นต้นแบบไหม

ก็คงเป็นพี่ฟิล์ม-รัฐภาคย์ เพราะกว่าเขาจะมาถึงวันนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมาเยอะ เขาเริ่มไปแข่งต่างประเทศตั้งแต่อายุ 14 ปี ต้องทำทุกอย่างคนเดียว ดูแลตัวเอง ฝึกซ้อม คือต้องมีวินัยในตัวเองสูงมาก เขาต้องผ่านอุปสรรค ความทุกข์ และความสุข ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้มุกข์อยากเอาชนะให้ได้ เพราะพี่เขามีความมานะมาก เรื่องราวของเขามันตอกย้ำว่านักแข่งมันต้องผ่านจุดนี้จริงๆ ผ่านการฝึกซ้อม ผ่านการใช้ชีวิตคนเดียว ฝึกความอดทน

อุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดที่เคยเจอมา

ก่อนแข่งรายการหนึ่ง เรารู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นรายการที่เราฝันจะลงแข่ง แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ตอนซ้อมทุกอย่างเป็นไปได้ดี แต่พอซ้อมวันสุดท้ายเกิดผิดพลาด รถเราเสียหลัก เนื่องจากลมค่อนข้างแรง เกิดอุบัติเหตุจนเราต้องเข้ารับการผ่าตัด เหมือนดับฝันของเราไปเลย แต่เป็นสิ่งที่เราให้เราเรียนรู้ว่าการจะก้าวไปอีกระดับหนึ่งต้องท้อแท้ไม่ได้ ความเจ็บปวดมันก็แค่ส่วนหนึ่งในชีวิต เราต้องพยายามที่จะลืมมันแล้วกลับมาสู้ใหม่

ทุกครั้งที่ล้มแล้วมันเจ็บ บอกตัวเองอย่างไรให้กลับมาได้

แน่นอน เวลาเราเจ็บ เราจะรู้สึกว่าเราไม่อยากเจ็บ เราท้อ เพราะกว่าจะหายก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่พอเรารักษาตัวให้มันดีขึ้น กลับไปฝึกซ้อม มันกลายเป็นแรงบันดาลใจที่เราอยากจะก้าวผ่านไปให้ได้ ไม่ว่าจะเราจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม

นักแข่งที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไร

นักแข่งที่ดีก็ต้องมีระเบียบวินัย การฝึกซ้อมและการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะรถแข่งมีความเร็วสูง ถ้าร่างกายเราไม่แข็งแรง เราอาจจะรู้สึกเหนื่อยได้ง่าย แล้วจะเกิดอุบัติเหตุแน่นอน เราจะเป็นนักกีฬาที่ดีไม่ได้เลย

สมมติสนามแรกเข้าเส้นชัยได้ที่หนึ่ง สนามต่อมาอาจจะล้มเหลว คุณมีวิธีการจัดการความผิดหวังนั้น และกลับมาเข้าเส้นชัยในสนามต่อไปอย่างไร

มุกข์จะดูวิดีโอที่เราแข่งไป แล้วเอาข้อบกพร่องนั้นไปปรับให้สนามต่อไปดีขึ้น เราต้องเอามาพิจารณาว่าเป็นเพราะอะไรทำไมพอถึงตรงนี้ทำให้บรรลุไม่ได้ ทุกการแข่งขันเราจะย้อนกลับมาดูตลอด เพราะนักแข่งไม่ได้มีวันที่ดีเสมอไป ถ้าปีนี้เราไม่ดี ปีหน้าก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม แล้วพอเราทำได้ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมทั้งสภาพจิตใจและสภาพแวดล้อม เหมือนรถน้ำมันหมด ยังไงก็ไม่ไปถึงปลายทาง แต่ถ้าน้ำมันเต็มถัง เรามั่นใจ ยังไงก็ไปถึงฝันแน่นอน

ความรู้สึกตอนเข้าเส้นชัยเป็นอย่างไร

ตอนขับขี่ เรารู้อย่างเดียวเลยคืออยากเดินขึ้นโพเดียม เราแค่อยากทำให้มันดีที่สุด พอเข้าเส้นชัยเราก็จะงงๆ ว่านี่เข้าที่หนึ่งเหรอ ทุกอย่างมันไวมาก

เป้าหมายในอนาคตของการเป็นนักแข่งจักรยานยนต์ทางเรียบ

ถ้าเป้าหมายปีนี้คือการเป็นแชมป์รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง 2018 รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี  ซึ่งเป็นรายการระดับเอเชีย ถ้าเราเป็นแชมป์ได้ ส่วนระยะยาว ถ้ามีโอกาสและเรามีผลงานที่ดีก็อยากจะขยับขึ้นไปอีกระดับ แต่คงต้องรอโอกาสจากทางทีมด้วย

สุดท้ายฝากถึงกับคนที่ติดกับข้อจำกัดของตัวเองหน่อย

ไม่ว่าจะเป็นกีฬาไหนๆ ก็ต้องมีอุปสรรคอยู่เสมอ ให้เราคิดว่าลองทำก่อน แล้วถ้าทำได้ เราจะไม่มองมันเป็นอุปสรรคเลย เราเชื่อว่าทุกคนมีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่จะเอามันออกมาใช้ตอนไหนเท่านั้นเอง ถ้าผ่านคำสบประมาทและอุปสรรคมาได้ นั่นคือความสำเร็จของเรา

 

Tags: , ,