Live by Night ดีนะ แต่ยืดเยื้อ และยึดติดต้นฉบับนิยายมากไปหน่อย

การใช้ชีวิตอยู่เหนือกฎหมาย ด้วยมือหนึ่งที่คีบซิการ์ ค่อยๆ สูดควัน แล้วอมไว้ในปาก ดื่มด่ำกลิ่นใบยาสูบ ก่อนจะค่อยๆ พ่นควันออกมา กับอีกมือหนึ่งที่ซ่อนปืนไว้ใต้เสื้อสูทสั่งตัดที่เรียบหรู ในท่าทีที่ระแวดระวัง

ความเป็นลูกผู้ชาย การได้โลมเล้านารีที่ไม่ซ้ำหน้า การใช้ชีวิตอยู่บนความรุนแรง ใช้กำลังขู่กรรโชก ต่อสู้ด้วยปืน และใช้ชีวิตบนความเสี่ยงที่ไม่รู้ว่าจะได้อยู่เพื่อเห็นวันพรุ่งนี้หรือไม่ คือรสนิยมความเป็นชาย และเป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์แนวแก๊งสเตอร์ที่สร้างความหลงใหลให้กับผู้ชมมาช้านาน

Live by Night (2017) คือภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ที่กำกับและแสดงโดย เบน แอฟเฟล็ก (Gone Baby Gone – 2007, The Town – 2010 และ Argo – 2012) โดยทำมาจากนิยายแนวแก๊งสเตอร์ของ เดนิส เลเฮน (Dennis Lehane) ที่เล่าถึงบรรยากาศของช่วงเวลาปี 1926 ที่เหล่าบรรดาองค์กรอาชญากรรมได้เฟื่องฟูเหนือความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าเหล้าเถื่อน ยาสูบซิการ์ การปล้นธนาคาร และตำรวจกับนักการเมืองที่คอร์รัปชัน ในทางกลับกัน ยุคสมัยนั้นยังเป็นยุคที่ศาสนาและสามัญสำนึกในจิตใจมนุษย์นั้นกำลังสั่นคลอน เพราะไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางที่พอดีได้ ระหว่างความคลั่งศาสนาอย่างสุดขั้ว กับการจมดิ่งสู่ความโลภของจิตใจมนุษย์ที่ต่ำตม จนทำให้มองไม่เห็นอนาคต

เบน แอฟเฟล็ก ได้พยายามเล่าและเก็บรายละเอียดของนิยายต้นฉบับนี้ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของประเด็นเนื้อเรื่อง ฉาก การแต่งกาย และบรรยากาศในยุคนั้น ซึ่งในส่วนของโปรดักชันนี้ เขาสามารถทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น พวกรถยนต์ต่างๆ ที่ใช้ในยุคสมัยก่อน อาวุธปืน และตึกรามบ้านช่อง ทุกอย่างทำออกมาได้ดี อีกทั้งยังมีความสวยงามและความเนี้ยบของเสื้อผ้าที่ตัวละครสวมใส่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มาคู่กันกับเหล่าสุภาพบุรุษแก๊งสเตอร์ ที่ต้องมาพร้อมกับเสื้อสูทที่ดูดี และทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Untouchables (1987) ที่เคยมี Giorgio Armani มาดูแลด้านเสื้อผ้าในภาพยนตร์ให้

แต่ใน Live by Night กลับมีปัญหาในส่วนของบทเต็มไปหมด ด้วยความที่ เบน แอฟเฟล็ก พยายามจะเก็บรายละเอียดในเนื้อเรื่องต่างๆ จากนิยายต้นฉบับมากจนเกินไป จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีประเด็นปมเนื้อเรื่องหลายปมที่ยืดเยื้อและดูไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆ ที่หลายฉากที่มีการยิงสู้หรือการปะทะกันนั้นทำออกมาได้ดี ดุเดือด และดุดัน แต่ในส่วนของประเด็นทางศาสนา หรือแม้แต่รายละเอียดของการ self-made (การไต่เต้าสู่ความสำเร็จ) ของตัวละครนั้น กลับถูกใส่เข้ามาเยอะไป จนทำให้รู้สึกว่า อารมณ์ความน่าตื่นเต้น และความน่าติดตามนั้นขาดตอน และทำให้หนังไม่น่าสนใจ

นอกจากนี้ตัวละครหลายตัว หรือแม้แต่หัวหน้าของแก๊งสเตอร์ยังขาดความน่าเกรงขาม หรือความน่าเคารพ จนทำให้คนดูรู้สึกไม่เชื่อ ว่านี่คือบุคคลเหนือกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่ ที่อยู่เหนือตัวละครเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้

อย่างไรก็ดี อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า Live by Night นั้นมีจุดอ่อนเพียงแค่การพยายามใส่รายละเอียดจากนิยายต้นฉบับที่มีมากจนเกินไป จนทำให้อรรถรสการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ดูไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทำออกมาเพื่อดูรวดเดียวจบ และทำให้รู้สึกถึงความยืดเยื้อ พร้อมกับทิศทางของภาพยนตร์ไม่ชัดเจน แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ส่วนอื่นๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก แม้ว่าอาจจะไม่ดีเทียบเท่ากับ Argo ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ไปถึง 3 รางวัล แต่ก็ถือว่าเป็นฝีมือการกำกับของ เบน แอฟเฟล็ก ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ และยังพอที่จะทำให้เรามีความหวังว่าเขาจะสามารถกำกับโปรเจกต์ภาพยนตร์ The Batman (ในอนาคต) ออกมาได้ดีอย่างแน่นอน