เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตา ‘กร วรรณไพโรจน์’ ในฐานะสมาชิกวง PROXIE กลุ่มศิลปินที่รันวงการ T-pop อยู่ในนาทีนี้ และหลายคนรู้ว่าเขากำลังศึกษาอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จนเป็นศิลปินที่ขึ้นชื่อเรื่องการแบ่งเวลาระหว่างเรียนกับทำงานได้เป็นอย่างดี

ความเก่งรอบด้านของศิลปินวัย 22 ปีคนนี้ ทำให้พ่อแม่หลายบ้านอยากมีลูกเป็นกร PROXIE และในวันนี้ยังมีเรื่องให้ผู้ใหญ่ชื่นชมอีกครั้ง เพราะกรได้มีอีพีอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเองอย่าง From the room where I stay’ ที่เพิ่งออกมาให้ได้ฟังครบทุกเพลงเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ความพิเศษของอีพีอัลบั้มแรกคือ เนื้อเพลงมาจากปลายปากกาของกร รวมถึงทำนองที่กรแต่ง ซึ่งทั้ง 6 เพลง ได้โปรดิวเซอร์และศิลปินเบอร์ใหญ่มาโปรดิวซ์เพลงให้ ทั้ง เมื่อย Scrubb (ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ), ปกป้อง จิตดี, เอ๊ะ ละอองฟอง (พงศ์จักร พิษฐานพร), แมน ละอองฟอง (ตนุภพ โนทยานนท์), คอปเตอร์ copterxmurf (วิศรุต เล้าเจริญชัย), แกน The Jukks (สรุยศ คงมี) และแมว The Jukks (ชยานนท์ เครือเอี่ยม) 

ทั้งนี้ยังมีศิลปิน T-pop มาร่วมสร้างสีสันในเพลงอย่าง Benzkhaokhwan (เบนซ์-ข้าวขวัญ กฤษณโสภา) และจั๋ง PERSES (วิกร บูรณภิญโญ)

“จริงๆ กรชอบเขียนเพลงอยู่แล้วในอีพีอัลบั้มนี้ก็จะมีหลายๆ เพลงที่มีเดโมมาจากกรจริงๆ เอามาจากโทรศัพท์ส่งให้โปรดิวเซอร์เลย ตอนแรกคิดว่าจะมี 5 เพลง แต่ว่าเพลงสุดท้ายเรารู้สึกว่า เราอยากจะมีเพลงที่เอามาปิดอัลบั้มที่ชิลๆ ไพเราะให้คนฟังฟังแล้วรู้สึกดี” กรกล่าวในงาน Sound Session ฉลองเปิดตัวอัลบั้ม

และกรเล่าถึงที่มาของชื่ออีพีอัลบั้ม From the room where I stay ว่า เกี่ยวข้องกับชื่อคอนเสิร์ตเดี่ยว ‘gorn’s ROOM CONCERT’ 

“ชื่ออัลบั้มมาหลังจากที่เราตั้งชื่อคอนเสิร์ตแล้ว ชื่อ Gorn’s room ก็รู้สึกว่า อีพีอัลบั้มนี้มันจะมีเพลงหลากหลายแนวที่กรชอบจริงๆ พยายามใส่รสนิยม ความเป็นตัวเองเข้าไป ซึ่งความเป็นตัวเองก็คือ ห้องนอนของเรา ที่มีทุกอย่างอยู่ในนั้นครบ ก็เลยเป็นชื่อ From the room where I stay” 

ภายในงาน Sound Session กรยังเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และเบื้องหลังของแต่ละเพลง รวมถึงเชิญเหล่าโปรดิวเซอร์และศิลปินมาร่วมแบ่งปันโมเมนต์ประทับใจ พร้อมฟังเพลงในอัลบั้มไปด้วยกัน

  1. ลอง (Reputation)

เพลงแรกของอัลบั้มเป็นเพลงฟังสบาย กรกล่าวว่า เป็นเพลงที่กำหนดอารมณ์ของอัลบั้มนี้ โดยได้เมื่อย Scrubb กับปกป้องมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ซึ่งเป็นเพลงที่กล่าวถึงตัวตนของกรเอง ที่อยากให้คนลองเข้ามาทำความรู้จักก่อนตัดสินจากภายนอก

“เพลงนี้เนื้อร้องและทำนองมาจากกร ไม่ได้แต่งออกมาแก้ต่าง แต่บางทีคนเขาอาจจะมองเราจากภายนอก แล้วตัดสินเราไปก่อนที่เขาจะรู้จักเรา ตอนที่เราแต่งตอนแรก เราแต่งด้วยกีตาร์โปร่ง จะมีความบอสซาโนวา แล้วก็ได้เพลงพี่เมื่อยและพี่ปกป้องมาโปรดิวซ์ให้ก็เลยเป็นสไตล์ที่ทุกคนได้ฟังกัน” กรเล่าถึงเพลงแรก

  1. คิดถึงอีกแล้ว (kt eek laew)

“เป็นพี่เมื่อยกับพี่ปกป้อง และเนื้อร้องทำนองก็เป็นกรเหมือนเดิม เพลงมีความหวานๆ เนื้อหาตรงไปตรงมา เกร็ดที่อยากจะเล่าคือ ตอนเริ่มเพลงจะมีเสียงกดโทรศัพท์ จริงๆ แล้วคือพี่เมื่อยถือโทรศัพท์เข้าไปในห้องอัดแล้วกด การทำอัลบั้มนี้จะมีอะไรแบบนี้เยอะ แล้วเรารู้สึกสนุกกับมันมาก” กรเล่า

กรเล่าต่อว่า เขาฟังเพลงของ Scrubb มานาน เมื่อได้เมื่อยมาโปรดิวซ์ให้ถึง 2 เพลง จึงเป็นเรื่องที่เขาประทับใจไม่น้อย

“เราฟัง Scrubb มาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว ชอบสไตล์เพลง และอยากร่วมงานด้วย แล้วพี่เมื่อยก็เคยบอกเราว่า เขาไม่เคยโปรดิวซ์ให้ใครมาก่อน แต่ทุกวันนี้ก็มีเพลงกับพี่เมื่อย 2 เพลงแล้ว ก็ดีใจมากๆ”

  1. ถ้าฉันทนไม่ไหว (Temptation)

เพลงช้าในอัลบั้ม ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินกรร้องเพลงแนวนี้บ่อยนัก และแน่นอนว่าทำนองกับเนื้อเพลงก็มาจากมุมมองของกร

“เพลงนี้แต่งไว้แล้วรู้สึกว่าเป็นเพลงช้าที่ป็อปดี เนื้อหาเข้าใจง่าย ก็พยายามนึกถึงโปรดิวเซอร์ที่จะมาทำดนตรีให้เราว่า ใครจะเหมาะที่สุด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่คอปเตอร์ copterxmurf คุยกันแล้วพี่เขาเข้าใจภาพมันออกมาดีมาก แล้วเกลามันออกมาให้ฟังขึ้นมาก”

ในขณะที่คอปเตอร์ copterxmurf โปรดิวเซอร์ของเพลงกล่าวว่า “รู้สึกว่าเป็นเพลงที่พร้อมจะแมส” 

  1. ไม่เต็ม (MAI TEM)

ในบรรดาเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม ไม่เต็ม (MAI TEM) อาจมีคำร้องและท่วงทำนองแหวกแนวออกไปกว่าเพลงอื่น ทว่าฟังแล้วทำให้นึกถึงเพลงเด็กแนวกับวงดนตรีอินดี้อย่าง The Jukks เพราะได้แมวกับแกน สอง สมาชิกวงมาร่วมแต่งเนื้อร้องกับทำนองในเพลงนี้

แนวทางของวง The Jukks และเพลงแนวพังก์ร็อกกับการาจร็อกเป็นอีกแนวที่กรชอบ จึงได้ร่วมแต่งเนื้อเพลงกับแมว The Jukks 

“เพลงพังก์มันจะมีความไม่เพอร์เฟกต์ มีความขี้แพ้อะไรอยู่ในนั้น ตอนเราคุยเรื่องเนื้อหากับพี่แมวว่า เราจะเล่าอะไรในเพลงนี้ เพราะพี่แมวมองกรจากภายนอกอาจจะไม่ได้ดูลูซเซอร์ขนาดนั้นด้วยซ้ำ พี่แมวก็เลยได้ทำคีย์เวิร์ดหนึ่งขึ้นมาคือ ไม่เต็ม ก็จะเล่าถึงสิ่งของนอกกายว่า เราจะเป็นเศรษฐี เราจะมีนาฬิกาปาเต๊ะ (Patek Philippe) สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราต้องการอย่างเดียวคือเธอที่มาเติมเต็มเรา” กรเล่า 

ในส่วนของแกน นักร้องนำ The Jukks ได้เข้ามามีส่วนร่วมในพาร์ตดนตรี

“เราเข้ามาช่วยหลังจากที่กรกับแมวได้ไปนั่งแต่งเพลงกันมาแล้ว เหมือนเป็นคนมาเคลือบดนตรีให้เป็นตามโจทย์ ในแบบที่มีกลิ่นอายของอัลเทอร์เนทีฟพังก์ เป็นความป็อปแบบที่เราเข้าใจกัน แล้วก็มีโอกาสให้เพิ่มเนื้อร้องด้วยนิดหน่อย” แกนกล่าว

ทั้งนี้แมวยังได้ชื่นชมศิลปินรุ่นน้องที่เขาได้ร่วมงานว่า เป็นบุคคลที่มีอนาคตไกล

  1. Don’t be shy

เป็นอีกเพลงที่คอปเตอร์ copterxmurf รับบทบาทเป็นโปรดิวเซอร์ 

“ได้โจทย์มาจากกรว่า อยากได้เพลงอาร์แอนด์บี ฮิปฮอปแบบยุค 2000 แล้ว Don’t be shy ก็ลอยมา” คอปเตอร์เล่า

ความพิเศษของเพลงนี้คือมีศิลปิน T-pop ร่วมฟีเจอริงด้วยถึง 2 คน คือ จั๋ง PERSES ในท่อนแร็พ และ Benzkhaokhwan หรือ เบนซ์ ข้าวขวัญ ที่มาร่วมคอรัสในท่อนฮุก โดยเธอพูดถึงความประทับใจในเพลงนี้ด้วยเช่นกัน

“ด้วยอารมณ์ของเพลงเรารู้สึกว่า มันขี้เล่น มันมีความเซ็กซี่อยู่ในเพลงด้วย ตอนเราฟังเพลงนี้ครั้งนี้เราก็รู้สึกชอบมากๆ เลย” เบนซ์เล่า

  1. ถ้าไม่เป็นการรบกวน demo

เพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ถือว่าเป็นโบนัสแทร็ก (ฺBonus Track) การทำงานของเพลงนี้เป็นการอัดดนตรีแบบเทกเดียว โดยได้แมน ละอองฟองมาเป็นผู้เล่นเปียโนในเพลง รวมไปถึงเอ๊ะ ละอองฟองที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้ในเพลงนี้ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นคุณครูของกร และได้เห็นพัฒนาการของกรมาตั้งแต่อายุ 16 ปี

ภาพรวมของอีพีอัลบั้ม From the room where I stay คือมุมมองในการเขียนเนื้อร้องกับรสนิยมทางดนตรีของกรที่ผสมผสานเข้ากับสไตล์ของโปรดิวเซอร์ แต่ละเพลงจะมีกลิ่นอายของโปรดิวเซอร์แต่ละคนซ่อนอยู่ในเพลงนั้น ซึ่งล้วนเป็นแนวทางที่กรชื่นชอบ

นอกจากมีอีพีอัลบั้มเดี่ยวแล้ว ในวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 กรยังมีคอนเสิร์ตเดี่ยว gorn’s ROOM CONCERT ที่ Centerpoint Entertainment ซึ่งจำหน่ายบัตรหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพ: bROTHERS MUSIC

Tags: , , , , , , ,