วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า จากการประชุม สมช.ในวันนี้ที่ประชุมพิจารณา 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ประการแรก การสูญเสียของกำลังพลของกองทัพไทย เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้
ประการที่ 2 การที่มีกับระเบิดในพื้นที่อธิปไตยของไทย ถือว่ามีผลกระทบต่ออธิปไตย และประการที่ 3 รัฐบาลจะปกป้องอธิปไตย ชีวิตของทหารไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รัฐบาลไทยจะระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมเพื่อสันติภาพและความมั่นคง (Joint Declaration) ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ลงนามร่วมกับ ฮุน มาเนต (Hun Manet) นายกฯ กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ไว้ก่อน ทุกข้อ และยุติการส่งคืนเชลยศึก 18 คนให้กับกัมพูชาทันที
ด้าน สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ท่าทีของไทยคือจะนำไปสู่สันติภาพต่อเมื่อมีการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมฯ โดยเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มีการละเมิดชัดเจน จึงต้องระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมฯ ฯ
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการฝ่ายเดียวก็จะทำ เช่น การเก็บกู้ระเบิดชายแดน และจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการประท้วงต่อไป โดยประท้วงไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาแล้ว และจากนี้จะประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังกัมพูชา ขณะเดียวกันจะประท้วงตามกรอบของสนธิสัญญาออตตาวา เรื่องการห้ามใช้ทุ่นระเบิด
นอกจากนี้ไทยจะชี้แจงไปยังสหรัฐอเมริกาและมาเลเซีย ที่เป็นสักขีพยานในการลงนามในปฏิญญาร่วมฯ ว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมฯ และจะชี้แจงไปยังประชาคมโลกถึงข้อเท็จจริงต่างๆ โดยจะประสานกับกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย และกองทัพบกต่อไป เพื่อให้ท่าทีมีความหนักแน่นและมีความชอบธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า หากจะให้มีการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมฯ ต่อไป ฝ่ายกัมพูชาจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยต้องมีการแสดงความเสียใจ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และกัมพูชาต้องกำหนดมาตรการไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
Tags: กัมพูชา, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการต่างประเทศ, สภาความมั่นคงแห่งชาติ




