วันนี้ (16 ตุลาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ตอบคำถามตอนหนึ่งแถลงข่าวตอนหนึ่ง หลังมีผู้สื่อข่าวถามถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีการห้ามไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงว่า ที่มีการวิจารณ์กันมากๆ ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่บอกว่าไม่ให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนโดยตรง โดยที่คำร้องไม่ได้มีการถามนั้น คำตอบคือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ชัดว่า ศาลมีคำวินิจฉัยได้
ทั้งนี้บวรศักดิ์ได้อ่านมาตรา 74 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ระบุว่า “ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ คําวินิจฉัยของศาล หากมีความจําเป็นจะต้องบังคับให้เป็นไปตามคําวินิจฉัย ให้ศาลมีอํานาจกําหนดคําบังคับให้เป็นไปตามคําวินิจฉัยของศาลไว้ในคําวินิจฉัยนั้น โดยศาลอาจกําหนดให้มีผลไปในอนาคตขณะใดขณะหนึ่งหลังวันอ่าน คําวินิจฉัย หรืออาจกําหนดเงื่อนไขหรือมาตรการในการบังคับอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้ตามความจําเป็นหรือสมควร ตามความเป็นธรรมแห่งกรณี” ด้วยเหตุนี้แทนที่จะอ่านแล้วมีผลทันที อาจมีผลไปอีก 1 ปี
“ถามว่าศาลเคยออกอย่างนี้ไหม เคยหลายเรื่อง เพราะถ้าศาลวินิจฉัยและมีผลอย่างนั้นเลยก็จะเกิดปัญหา เช่น ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า ‘กฎหมายทำแท้ง’ ขัดรัฐธรรมนูญ ลองนึกภาพดู ถ้าวินิจฉัยตรงวันนี้แล้วขัดรัฐธรรมนูญวันนี้ ทุกคนทำแท้งกันเสรีเลย เพราะฉะนั้นศาลจึงวินิจฉัยว่าให้มีผลในอีกหนึ่งปีข้างหน้า เพื่อให้รัฐบาลไปแก้กฎหมายเสีย แล้วศาลก็บอกว่าเป็นการชี้แนวทาง แล้วถ้ารัฐบาลทำตามนี้ก็เซฟ”
สำหรับกฎหมายดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า กฎหมายอาญาเรื่องทำแท้ง มีเพียงการคุ้มครองแต่ชีวิตเด็ก ไม่ได้ให้ความสำคัญแก้เนื้อตัวร่างกาย ซึ่งเป็นเสรีภาพของมารดา แล้วสมควรที่จะเขียน ศาลจึงบอกว่า ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 ทำแท้งได้ สัปดาห์ที่ 12 ถึงเท่าไร ห้ามทำแท้ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้วินิจฉัย แล้วยังมีคดีอื่นๆ อีก ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนี้ หากอยากรู้จะส่งเลขคำวินิจฉัยไปให้
“ถ้าอย่างนั้นที่ศาลวินิจฉัยว่า ให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงไม่ได้ ก็เป็นไปตามมาตรา 74 และทางปฏิบัติของศาลรัฐธรรมนูญไทย และถ้าคุณไปดู ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญไทยอย่างเดียว ศาลรัฐธรรมนูญต่างประเทศ ของเยอรมัน ของที่อื่น ก็ทำอย่างนี้
“เพราะการที่บอกว่ากฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ หรือการกระทำใด ขัดรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่มี Indicator ว่า ผู้เกี่ยวข้องควรทำอย่างไรให้ถูก ไปทำแล้วผิดอีกที มาถึงศาลอีกทีก็เสียเวลาและกระทบ สร้างความเสียหาย เพราะฉะนั้นที่ไปวิจารณ์ศาลกันว่า ศาลตัดสินเกินคำขอ หลักห้ามตัดสินเกินคำขอที่เรียกว่า Ultra Petita ในภาษาละติน ใช้ในกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา ซึ่งเป็นเรื่องบุคคล แต่จะไปใช้ในกฎหมายมหาชนไม่ได้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญไปวินิจฉัยว่า ทำไมอดีตรักษาการนายกฯ อดีตรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แม้พ้นตำแหน่งไปแล้ว ศาลก็จะวินิจฉัยให้เพราะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ”
บวรศักดิ์ยังระบุอีกด้วยว่า กรณีดังกล่าว ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญศาลเดียว ศาลปกครองสูงสุดก็เป็นอย่างนี้ โดยถือเป็นหลักของกฎหมายมหาชน ที่เป็นกฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่คุ้มครองสิทธิของบุคคลเพียงบุคคลเดียว เป็นเรื่องสาธารณะ จึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
Tags: รัฐธรรมนูญ, ศาลรัฐธรรมนูญ, สสร., บวรศักดิ์