ในวันที่โลกหมุนเร็ว ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ Gen Y-Z ที่เป็นพลังขับเคลื่อนตลาด ชาบูชิ แบรนด์ชาบูและซูชิที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 20 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์เก่าแก่มายับยั้งการเติบโต การปรับโฉมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนโลโก้ แต่เป็นการยกเครื่องกลยุทธ์ทั้งระบบ เพื่อเข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้อย่างยั่งยืน
ทำไมชาบูชิต้องรีเฟรชแบรนด์
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ชาบูชิประสบความสำเร็จในการสร้างการจดจำในฐานะผู้นำตลาด ด้วยคอนเซปต์สายพานที่แปลกใหม่ และจำนวนสาขาที่ครอบคลุมกว่า 190 สาขาทั่วประเทศ แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยคู่แข่งมากมาย แบรนด์ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำ ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มองหาแค่ร้านอาหาร แต่ต้องการความอร่อย ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่แปลกใหม่ การรีเฟรชแบรนด์จึงกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ชาบูชิต้องปรับตัว และกล้าที่จะเปลี่ยนไปพร้อมผู้บริโภค
กลยุทธ์ Emotional Experience พลิกโฉมให้แบรนด์ดูสดใหม่
หัวใจสำคัญของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้คือ การใช้กลยุทธ์ Emotional Experience โดยชาบูชิไม่ได้เน้นแค่การนำเสนอเมนูอาหาร แต่ลงลึกไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคภายใต้แนวคิด ‘รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด’ (Good Taste Great Time Never End) มาพัฒนาต่อยอดสู่ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงอารมณ์ ผ่าน 3 แกนหลัก
-
Quality – Shabushi All-Star Series เน้นย้ำคุณภาพวัตถุดิบและความคุ้มค่า เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจในทุกครั้งที่มาใช้บริการ
-
Creativity – Shabushi Sushi-Master Series สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
-
Great Moment (Engagement) สร้างประสบการณ์ด้วยบริการที่อบอุ่นและกิจกรรมในร้านที่สร้างโมเมนต์สนุกสนาน เพื่อให้ทุกมื้อไม่ใช่แค่การกิน แต่เป็นการสร้างความรู้สึกดีๆ ที่น่าจดจำ
เปิดตัว ‘สกาย-นานิ’ พรีเซนเตอร์คู่แรกของแบรนด์
การเปิดตัวพรีเซนเตอร์ถือเป็นจิกซอว์สำคัญ ที่ทำให้ชาบูชิเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง ทั้งคู่เป็นสัญลักษณ์ของความสดใส มิตรภาพ และพลังบวก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงแบรนด์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาหรือกระแส แต่เป็นการสื่อสารที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างดี ตามคอนเซปต์ของชาบูชิที่รวมชาบูและซูชิเข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของพรีเซนเตอร์
ทั้งนี้การเลือกใช้พรีเซนเตอร์คู่ไม่ใช่แค่การดึงดูดฐานแฟนคลับของเจ้าตัว แต่เป็นการสร้างความรู้สึกพิเศษ ความแปลกใหม่ให้ลูกค้าที่ติดตามกันมานาน และกลุ่มที่ไม่ใช่แฟนคลับของสกายและนานิ
เพื่อให้แคมเปญเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาบูชิวางแผนการสื่อสารแบบ 360 องศา ที่ครอบคลุมทุกช่องทางที่ Young Generation ใช้ ไม่ว่าจะเป็นงานแถลงข่าวแบบกึ่งแฟนมีต ภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ เพลงธีมพิเศษ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียและสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ชาบูชิกำลังสร้างคอนเทนต์ที่ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมการเสพสื่อของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
รีแบรนด์เพื่อโตในใจ ไม่ใช่แค่โตในตลาด
หากดูจากทิศทางของกลุ่มไทยเบฟภายใต้แผน PASSION 2030 จะพบว่า กลยุทธ์การรีเฟรชแบรนด์วันนี้ ไม่ใช่แค่การขยายสาขาหรือเพิ่มยอดขาย แต่คือการสร้าง Top of Mind หรือสร้างแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Gen ที่จะกลายเป็นกำลังซื้อหลักในอนาคต
แซม-ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ย้ำถึงความสำคัญของชาบูชิในฐานะแบรนด์ที่มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใหม่ สนุก และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเสมอ
ไม่เน้นแข่งในสงครามราคา แต่เน้นความคุ้มค่า
ผู้บริหารชาบูชิกล่าวว่า ท่ามกลางการแข่งขันเรื่องราคา ชาบูชิอาจไม่ได้ลงแข่งในสนามนั้น เพราะมองเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก ต้องการให้ลูกค้าได้ทานของดี สินค้ามีคุณภาพ ได้รับการบริการที่ดี และอาหารมีความหลากหลาย ทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญที่ย้ำว่า ชาบูชิเข้าใจดีกว่าการแข่งขันด้วยราคาเป็นเพียงกลยุทธ์ระยะสั้น และอาจบั่นทอนคุณค่าของแบรนด์ในระยะยาว
การรีเฟรชแบรนด์ชาบูชิถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจของแบรนด์ที่กล้าเปลี่ยนแปลง และเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยไม่ได้มองแค่การเติบโตทางธุรกิจ แต่มุ่งความสัมพันธ์ของแบรนด์กับผู้บริโภค ผ่านประสบการณ์ อารมณ์ และความเข้าใจร่วมกัน
Tags: Business, ชาบูชิ, Shabushi, Refresh brand, ธุรกิจ