วันนี้ (16 มิถุนายน 2568) ที่บ้านพิษณุโลก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำแถลงผลหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง โดยระบุว่า ในที่ประชุมจัดตั้ง Team Thailand คณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่มี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้นำทีมสังเกตการณ์ข้อมูลข่าวสารทั้งหมด รวมทั้งการดำเนินการต่างๆ
แพทองธารกล่าวยืนยันว่า ประเทศไทย ‘ไม่ยอมรับ’ อำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) หรือศาลโลก ทั้งนี้มีการตั้งทีมทำงานเพื่อพิจารณาว่าจะปกป้องประเทศและตั้งรับอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษากฎหมายและประวัติความเป็นมาเรียบร้อยหมดแล้ว
แพทองธารยังกล่าวต่อว่า ตนพูดคุยกับ ฮุน มาเนต (Hun Manet) นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเห็นตรงกันว่า ต้องการเห็น ‘สันติภาพ’ เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้ง
“ดิฉันพยายามคุยให้อยู่ในกรอบทวิภาคีที่เป็นกรอบการพูดคุยระหว่างประเทศ เราต้องมีกรอบความเข้าใจร่วมกัน เพื่อให้เป็นไปตามกลไกระหว่างประเทศ การสื่อสารทางทางโซเชียลฯ ที่นอกกรอบเป็นการสื่อสารที่ไม่ Professional ทำให้เกิดความวุ่นวายในการจัดการ ทั้งสิ่งที่คุยกันหลังไมค์และการคุยกันแบบทางการ ดิฉันคิดว่า การสื่อสารแบบนี้ทำให้เกิดผลลบกับทั้ง 2 ประเทศ”
ขณะกรณีที่นายกฯ กัมพูชาแถลงขู่จะปิดด่านชายแดนทั้งหมด หากไทยไม่เปิดด่านตามปกติ แพทองธารระบุว่า ยืนยันว่าไทยไม่ได้ปิดด่านชายแดน เพียงแต่กำหนดเวลาการเปิด-ปิด เนื่องจากฝ่ายกัมพูชานำอาวุธหนักออกมา หากเกิดอุบัติเหตุจะทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนทั้งไทยและกัมพูชาเป็นจำนวนมาก
“สิ่งที่เราอาจจะทำน้อยกว่า คือการสื่อสารสาธารณะ เพราะเราเคารพในการเจรจาระหว่างประเทศ เราเคารพกรอบทวิภาคี เราให้เกียรติทั้ง 2 ประเทศว่า สิ่งที่คุยควรเป็นทางการและอยู่ในกรอบทวิภาคี ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ทุกประเทศต้องยึดเป็นสำคัญ
“แต่ถ้ามีการสื่อสารที่ไม่ Official ออกมามากมาย เราก็ต้องบอกจุดยืนว่า เรา ‘ไม่เคยยั่วยุ’ หรือพูดเพื่อให้เกิดการปะทะใดๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” แพทองธารกล่าว