วันนี้ (13 มิถุนายน 2025) อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน มุ่งเป้าไปที่ฐานทัพทหาร ศูนย์พัฒนานิวเคลียร์ และเป้าหมายอีก 10 แห่ง คร่าชีวิตทหารและนักวิทยาศาสตร์ในกรุงเตหะราน โดยอ้างว่า เป็นการโจมตีเพื่อป้องกันตนเอง (Preemptive Strike) หลังองค์การระหว่างประเทศชี้ว่า อิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ ซึ่งเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ต่ออิสราเอลและตะวันออกกลาง
ทั้งนี้อิสราเอลเปิดปฏิบัติทางทหาร Rising Lion ในช่วงเช้าตรู่ตามเวลาประเทศไทย ปรากฏภาพการโจมตีบนหน้าสื่อคือ ประกายไฟบนท้องฟ้า พร้อมกับเสียงระเบิดในกรุงเตหะราน ขณะที่สำนักข่าว Al Jazeera เปิดเผยภาพซากรถและอาคารบ้านเรือนจากการถูกทำลาย โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามรายงาน ได้แก่
1. กรุงเตหะรานและฐานทัพโดยรอบ
2. เมืองนาตันซ์ (Natanz) แหล่งพัฒนาแร่ยูเรเนียมที่ใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
3. เมืองตาบริซ (Tabriz) โดยมีรายงานเหตุระเบิด 3 จุดคือ ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ และฐานทัพทหาร 2 จุด
4. เมืองอิสฟาฮาน (Isfahan)
5. เมืองอารัก (Arak)
6. เมืองเคอร์มันชาห์ (Kermanshah)
เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แถลงการณ์เปิดเผยรายละเอียดว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการโจมตีเพื่อป้องกันตนเอง พร้อมย้ำว่า อิสราเอลจะเดินหน้าโจมตีต่อไป จนกว่าจะกำจัดภัยคุกคามนี้ได้สำเร็จ โดยมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (State of Emergency) สั่งปิดโรงเรียน ห้ามรวมตัวและปฏิบัติงานที่ไม่จำเป็น ซึ่งคาดว่า เป็นมาตรการรับมือการโต้ตอบของอิหร่าน
สำหรับรายละเอียดของการโจมตี สถานีวิทยุทหารอิสราเอลเผยว่า เป็นการโจมตีทางอากาศและใช้หน่วยมอสซาด (Mossad) ปฏิบัติการลับโจมตีภายในอิหร่าน ขณะที่กองทัพยืนยันว่า ได้ใช้เครื่องบินโจมตีเป้าหมายมากกว่า 10 ลำ ซึ่งปัจจุบัน The New York Times รายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นระลอกที่ 3 ของวันนี้ พบอิสราเอลเดินหน้าทำลายเรดาร์และระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน
เป็นไปได้ว่า การโจมตีครั้งนี้มาจากความหวาดระแวงของอิสราเอลต่อภัยคุกคามนิวเคลียร์ โดยแหล่งข่าวอิสราเอลที่ไม่เปิดเผยตัวตนให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่า ทางการค้นพบข้อมูลลับว่า อิหร่านกำลังแอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีวัสดุและวิทยาการล้ำมากพอที่ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ 15 ลูกภายในไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตาม อายะตุลลอฮ์ อาลี โคไมนี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ออกประณามการโจมตีครั้งนี้ว่า น่าเจ็บปวดและขมขื่น โดยออกแถลงการณ์ว่า ระบอบไซออนิสต์ได้สร้างอาชญากรรมครั้งใหญ่ให้กับประเทศ ทำให้นายทหารระดับสูงและนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเสียชีวิต และอิหร่านจะตอบโต้การโจมตีครั้งนี้ให้สาสม
เบื้องต้นมีการเปิดเผยรายชื่อของผู้เสียชีวิต ได้แก่ โมฮัมหมัด เมห์ดี เตห์รานจี (Mohammad Mehdi Tehranchi) และเฟเรย์ดูน อับบาซี (Fereydoun Abbasi) นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจ ถูกโจมตีในบ้าน รวมถึง พลเอก ฮุสเซน ซาลามี (Hossein Salami) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (Islamic Revolutionary Guard Corps) ขณะที่มีพลเรือนถูกสังหาร 12 ราย
ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานว่า อิหร่านตอบโต้ด้วยการส่งโดรน 100 ลำโจมตี ขณะที่อิสราเอลกำลังสกัดกั้น พร้อมประเมินว่า เตหะรานจะตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนใส่ประชาชนในเร็วๆ นี้
ขณะที่สหรัฐอเมริกานำโดย มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า อเมริกาไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ หากแต่อิสราเอลแจ้งให้ทราบว่า ต้องโจมตีอิหร่านเพื่อป้องกันตนเอง (Self-defense) ก่อนจะย้ำว่า อิหร่านไม่ควรโจมตีบุคคลหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
“หน้าที่หลักของเราคือ การปกป้องกองกำลังอเมริกันในภูมิภาค” รูบิโอตอบคำถามสื่อ เมื่อถูกถามว่า สหรัฐฯ จะเข้าไปมีบทบาทปกป้องอิสราเอลอย่าง โจ ไบเดน (Joe Biden) อดีตผู้นำสหรัฐฯ ทำในปีที่ผ่านมาหรือไม่
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการโจมตีว่า การโจมตีครั้งนี้จะทำลายโอกาสการเจรจาทางการทูต สอดคล้องกับคำพูดของเขาเมื่อวานนี้ว่า ตะวันออกกลางกำลังสุ่มเสี่ยงจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ พร้อมมีคำสั่งให้อพยพบุคคลากรออกจากภูมิภาคทันที
ปัจจุบันยังคงมีทหารอเมริกัน 4 หมื่นนาย ประจำการอยู่ที่อ่าวเปอร์เซียและพื้นที่หลายแห่งในตะวันออกกลาง โดยอ้างว่า เป็นคุ้มครองความมั่นคงของภูมิภาคและอิสราเอล โดยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่น เรือบรรทุกเครื่องบิน คาร์ล วินสัน (Carl Vinson) และเครื่องบิน F-35 ในทะเลอาหรับ
ก่อนหน้านี้เนทันยาฮูเสนอให้ทรัมป์ ‘โจมตี’ โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังมีรายงานว่า อิหร่านกำลังพัฒนาแร่ยูเรเนียม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาอาวุธร้ายแรง ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ตัดสินใจแก้ไขปัญหาทางการทูต แต่ทางการเตหะรานปฏิเสธที่จะยุติการพัฒนาแร่ดังกล่าว แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาที่เหลือก็ตาม ซึ่งคาดว่า การเจรจาครั้งใหม่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ในประเทศโอมาน
อ้างอิง
– https://www.nytimes.com/2025/06/12/world/middleeast/israel-iran-strikes.html
– https://www.nytimes.com/2025/06/12/world/middleeast/israel-iran-conflict-history.html
– https://edition.cnn.com/2025/06/12/middleeast/israel-iran-strikes-intl-hnk
Tags: อิสราเอล, ตะวันออกกลาง, Middle East, Preemptive strike, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, โดนัลด์ ทรัมป์, ทรัมป์, นิวเคลียร์
