วันนี้ (25 มีนาคม 2568) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากที่ รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายในประเด็น ‘ดีลแลกประเทศ ตระกูลชินวัตรได้อะไร’ โดยตั้งคำถามถึงการเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาตอบอภิปรายประเด็นนี้ว่า ไม่มีดีลลับ ทำตามกระบวนการตามรัฐมนตรีที่ต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ชี้รังสิมันต์ต้องการผลิตวาทกรรมให้ประชาชนเข้าใจผิด ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานส่งเรื่องให้องค์กรอิสระอย่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบต่อแล้ว
“สิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุดก็คือท่านรังสิมันต์ ท่านจบนิติศาสตร์ ท่านทราบหรือไม่ว่า ในกฎหมายราชทัณฑ์ คนที่เจ็บป่วยจะต้องไปส่งรักษาพยาบาล เขาให้ถือว่า สถานที่รักษาพยาบาลก็คือเรือนจำ ท่านไม่สะใจใช่ไหม ท่านต้องการจะให้ท่านถูกทรมานหรือไง เมื่อท่านเจ็บป่วย ท่านก็ไปอยู่ที่โรงพยาบาล”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวต่อว่า ในปัจจุบันมีนักโทษเกือบแสนรายที่ต้องออกมาพักข้างนอกเรือนจำ ซึ่งสถานที่เหล่านี้ถือเป็นสถานที่ควบคุมไม่ต่างจากเรือนจำ
“กฎกระทรวงก็ยังเขียนว่า เป็นที่ควบคุมพิเศษซึ่งเป็นสิทธิของโรงพยาบาลจะจัด แล้วที่สำคัญถ้าท่านเกิดหนีจากที่ควบคุม ท่านก็เหมือนหนีจากเรือนจำ ท่านก็บอกว่าไม่มีสักวันเดียวที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณติดคุก ท่านต้องการวาทะกรรมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดใช่ไหม การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของคน ท่านเข้าใจว่าเป็นอภิสิทธิ์”
พันตำรวจเอกทวีกล่าวต่อว่า เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนไว้ก็ต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเจ้าพนักงานกระทำชอบไม่ชอบ วันนี้ได้มอบอำนาจให้สำนักงาน ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว
“ในรัฐธรรมนูญหมวดหน้าที่แห่งรัฐได้บัญญัติว่า ให้รัฐมนตรีคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ วันนี้ท่านต้องมาเข้าใจว่า การที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่กฎหมายได้เขียนว่าเป็นเรือนจำแล้วถูกควบคุม แต่ท่านบอกไม่ถูกควบคุม ท่านทำตัวใหญ่กว่ากฎหมายใช่ไหม” พันตำรวจเอกทวีตั้งคำถาม