สิ่งที่คาดว่าคือคำตอบเบื้องหลังการลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) อดีตประธานาธิบดีคนที่ 35 ได้รับการเปิดเผยบางส่วนต่อสาธารณชนเป็นที่เรียบร้อย เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า เขาจะเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตผู้นำสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม 2025 ก่อนจะสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งเมื่อวานนี้ (18 มีนาคม 2025) บนเวทีสุนทรพจน์ที่ศูนย์เคนเนดี (Kennedy Center) ด้วยการบอกว่า เขาจะปล่อยเอกสารลับเบื้องหลังการลอบสังหาร JFK ภายใน 24 ชั่วโมง ต่อให้ใครพยายามบอกว่า สหรัฐฯ จะย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ก็ตาม

แม้ในหน้าสื่อยังไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเอกสารอย่างฉับพลันทันด่วน เนื่องจากจำนวนข้อมูลที่มากถึง 8 หมื่นหน้า อีกทั้งหอจดหมายเหตุแห่งสหรัฐฯ ยังคงปล่อยเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผ่านการดัดแปลงให้เป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและนักประวัติศาสตร์เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาทั้งหมด แต่ The Momentum ขอสรุปรายละเอียด ไทม์ไลน์ และเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเอกสารปมลอบสังหารอดีตผู้นำสหรัฐฯ เพื่อให้เข้าใจง่ายต่อการติดตามดังต่อไปนี้

1. การเปิดเผยเอกสารดังกล่าวเกิดขึ้นจากคำสั่งประธานาธิบดีหมายเลข 14176 ในเดือนมกราคม 2025 มีผลทำให้ ทูลซี แกบบาร์ด (Tulsi Gabbard) ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง ต้องจัดทำแผนการปล่อยเอกสารลับของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้แค่เผยปมการลอบสังหาร JFK เท่านั้น แต่ยังมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ 2 บุคคลสำคัญอย่าง มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King Jr) และโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี (Robert F. Kennedy) โดยคาดว่า จะมีการเปิดเผยหลังเผยแพร่เอกสาร JFK

2. อ้างอิงตามเว็บไซต์หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ เอกสารทั้งหมดของคดี JFK มีสูงสุดถึง 6 ล้านหน้า หลังในปี 1992 สภาคองเกรสผ่านกฎหมายเพื่อรวบรวมเอกสารจากสำนักหอจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติ ในชื่อ President John F. Kennedy Assassination Records Collection ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของรัฐบาลกลางและเอกสารจากหน่วยงานท้องถิ่นไว้ในที่เดียว คือ ห้องเก็บเอกสารที่เมืองคอลเลจพาร์ก รัฐแมรีแลนด์ 

3. จากการผ่านกฎหมายในปี 1992 มีการกำหนดให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยเนื้อหาในเอกสารทั้งหมดในอีก 25 ปีข้างหน้า เว้นแต่ประธานาธิบดีจะปกปิดเนื้อหาบางส่วนที่อาจเป็น ‘ภัย’ ต่อความมั่นคงของชาติ 

4. เอกสารส่วนใหญ่เก็บรวบรวมโดยหน่วยงานที่มีชื่อว่า Church Committee ทำหน้าที่สอบสวนหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ รวมถึงปมลอบสังหาร JFK และลูเธอร์ คิง จูเนียร์ในปี 1975-1976 แต่บทสรุปยังเป็นความลับอยู่ว่า พวกเขาพบอะไรบ้างในการสืบสาวเบื้องหลัง 2 คดีข้างต้น 

5. เพราะเอกสารส่วนใหญ่ได้รับจาก Church Committee นั่นหมายความว่า ยังมีเอกสารที่อยู่ในภาคส่วนอื่นๆ หากในอนาคตมีการเปิดเผยหรือบริจาคให้หอจดหมายเหตุฯ ข้อเท็จจริงถึงเบื้องหลังคดี JFK ก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น

6. หลักฐานของคดี JFK ในสำนักจดหมายเหตุสหรัฐฯ ไม่ได้มีแค่เอกสาร แต่ยังรวมถึงวัตถุพยานที่เกี่ยวข้อง เช่น ถุงเท้าที่ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald) ผู้ลอบสังหาร JFK สวมตอนที่ แจ็ก รูบี (Jack Ruby) ลอบสังหารผู้ต้องหารายนี้, ชุดสีชมพูเปื้อนเลือดของ แจ็กเกอลีน เคนเนดี โอนาสซิส (Jacqueline Kennedy Onassis) รวมถึงกระสุนและเศษถนนในวันเกิดเหตุ

7. หากย้อนไปกลับในปี 2017 ทรัมป์พยายามเปิดเผยเอกสารในคดีราว 2,819 หน้า แต่ผ่านการตรวจสอบและดัดแปลงเนื้อหาจาก CIA และ FBI เป็นระยะเวลา 6 เดือนเต็ม โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งที่ถูกเปิดเผย คือบันทึกของ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ (Edgar Hoover) เจ้าหน้าที่ FBI ที่แสดงความกังวลบางอย่างในสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการที่ชาวอเมริกันไม่ยอมรับข้อสรุปการคดีการลอบสังหารที่ได้รับการยืนยันจากรัฐ, ท่าทีของสหภาพโซเวียต หรือการที่ออสวอลด์ติดต่อกับสถานทูตคิวบาในกรุงเม็กซิโกซิตี หรือส่งจดหมายหาสถานทูตโซเวียตในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ว่า อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับชาตินั้นๆ ซับซ้อนยิ่งขึ้น 

8. จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ ทักเกอร์ คาร์ลสัน (Tucker Carlson) นักวิเคราะห์การเมืองฝ่ายขวาและคนใกล้ตัวทรัมป์อ้างว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียใจมากที่ให้ CIA และ FBI เข้ามามีบทบาทในการปล่อยเอกสารดังกล่าว พร้อมกับย้ำว่า ทรัมป์จะพยายามปล่อยเอกสารทั้งหมดเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวอเมริกัน

9. ในปี 2021 ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับ New Yorks Times ว่า เขาไม่ได้สนใจเอกสารลับของ JFK เท่าไรนัก แต่เหตุผลที่เขาอยากเปิดเผย เพราะคิดว่ามันเหมาะสมที่จะทำ และต้องการให้ผู้คนที่สงสัยว่ามีความลับอะไรในนั้นลงมือตรวจสอบด้วยตนเอง 

10. น่าสนใจว่า ในช่วงปี 2017-2023 มีเพียงเอกสาร 4 ฉบับที่ถูกปล่อยมา โดย โจ ไบเดน (Joe Biden) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการยืนยันครั้งสุดท้าย ซึ่ง New Yorks Times เผยว่า เอกสารส่วนหนึ่งราว 5,000 ฉบับ ยังคงถูกเก็บไว้ หลังมีความลับที่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรอง ข้อมูลส่วนตัวของคณะลูกขุน และการจัดทำภาษี

11. อีกข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 FBI เปิดเผยว่า กำลังย้ายเอกสารราว 2,400 ฉบับไปที่หอสมุดแห่งชาติ โดยอ้างอิงว่า เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดี แต่ไม่มีใครทราบว่าเอกสารดังกล่าวคืออะไร 

12. สำหรับการเปิดเผยเอกสารครั้งนี้ในปี 2025 ทรัมป์อ้างว่า เขารู้เนื้อหาบางส่วน แต่ไม่ได้ข้อสรุป โดยข้อมูลราว 8 หมื่นหน้า หรือเอกสาร 1,123 ฉบับนี้ จะไม่มีการแก้ไขใดๆ แต่จากการตรวจสอบในเว็บไซต์สำนักจดหมายเหตุสหรัฐฯ พบว่า เนื้อหาบางอย่างถูกปกปิดไว้ โดย The Momentum พบเอกสารบางฉบับที่มีการขีดฆ่าด้วยเส้นสีดำ ขณะที่ New Yorks Times รายงานว่า มีเอกสารบางอย่างที่เข้าถึงไม่ได้

13. เนื้อหาในเอกสารครั้งนี้ประกอบด้วยรายงานที่เขียนด้วยมือและเครื่องพิมพ์ดีด ขณะที่รายละเอียดอย่างตัวอักษรเลือนลาง และอ่านได้ยากมาก โดยจากการตรวจสอบของทีมข่าว The Momentum ในเวลา 11 นาฬิกาตามเวลาประเทศไทยพบว่า เอกสารยังคงถูกอัปโหลดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ 

14. เบื้องต้นนักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่า ข้อมูลที่ได้จากเอกสารชุดนี้อาจไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า ออสวอลด์เป็นผู้สังหาร JFK โดย ทิม นาฟตาลี (Tim Naftali) ศาสตราจารย์วุฒิคุณจาก International and Public Affairs แห่ง Columbia University แสดงความเห็นว่า สาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องเก็บเอกสารเป็นความลับทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปมการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี แต่เป็นข้อกังวลด้านความละเอียดอ่อนถึงการทำงาน CIA 

15. จากการตรวจข้อมูลของ The Momentum พบเอกสารบางส่วนมีรายละเอียดปฏิบัติการในช่วงสงครามเย็น เช่น การที่สหรัฐฯ ใช้สำนักข่าววิทยุเสียงอเมริกา (Voice of America: VOA) โฆษณาชวนเชื่อประเทศลาตินอเมริกา ผ่านการถ่ายทอดสภาพความเป็นอยู่ประเทศคอมมิวนิสต์อย่างคิวบา เยอรมนีตะวันออก และจีน อีกทั้งยังปรากฏเนื้อหาปฏิบัติตอบโต้กลุ่มต่อต้านสหรัฐฯ ในคิวบาอีกด้วย

16. ขณะเดียวกันมีรายงานวงในจากสภาความมั่นคงสหรัฐฯ ว่า เอกสารลับดังกล่าวยังรวมถึงเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ JFK อีกทั้งเจ้าหน้าที่บางรายแสดงความกังวลถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง เช่น หมายเลขประกันสังคมของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ทันทีที่ทรัมป์ประกาศออกไป สภาความมั่นคงต้องเรียกประชุมด่วน เพื่อตรวจสอบว่า เอกสารไหนควรได้รับการแก้ไขบ้าง

17. กล่าวโดยสรุปว่า เอกสารชุดนี้มีประโยชน์กว่าการสืบสาวเบื้องหลังการเสียชีวิตของ JFK หรือผู้นำทางการเมืองคนอื่นๆ แต่ข้อมูลบางอย่างยังสะท้อนถึงการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1960-1970 ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างประเทศในช่วงสงครามเย็น 

อ้างอิง:

https://www.archives.gov/research/jfk

https://www.npr.org/2025/03/18/g-s1-54434/jfk-kennedy-assassination-files-classified-documents

https://www.nytimes.com/2025/03/17/us/politics/jfk-files-trump.html

https://www.archives.gov/research/jfk/release-2023

https://www.archives.gov/research/jfk/release-2025

https://www.nytimes.com/2025/03/18/us/kennedy-assassination-files-history.html

https://www.archives.gov/files/research/jfk/releases/2025/0318/202-10002-10124.pdf

https://www.aljazeera.com/news/2025/3/18/trump-says-he-will-release-eight-thousand-pages-of-jfk-files-on-tuesday

https://www.nytimes.com/live/2025/03/18/us/jfk-mlk-rfk-assassination-files#here-are-some-tantalizing-details-revealed-in-a-2017-document-release

https://www.reuters.com/world/us/trump-says-he-will-quickly-release-jfk-robert-kennedy-mlk-assassination-files-2025-01-19/

https://www.nytimes.com/2025/03/18/us/politics/national-security-officials-jfk-documents.html

Tags: , , , , , , ,