การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการ์ตูนที่มีเซ็กซ์เป็นองค์ประกอบหลัก แต่เน้นไปที่ความเป็นไปของชีวิตเสียมากกว่า หลายครั้งที่ซีรีส์คนแสดงนำประเด็นเหล่านี้มาบอกเล่าอยู่เสมอ แต่เมื่อนำมาเล่าในภาพที่ต่างออกไปอย่างเช่นในการ์ตูน บางทีก็ให้ความรู้สึกที่ขมขื่นกว่าแบบแปลกๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องครอบครัว

เมื่อเติบโตขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้นตามมา หลายคนมีพ่อแม่ต้องดูแล มีคนรักต้องเอาใจใส่ มีลูกต้องเลี้ยงดู เราไม่อาจหวังว่าจะใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบเด็กๆ ได้อีกแล้ว แต่ในอีกมุม เราทุกคนยังมีความเป็นเด็กอยู่เสมอในที่ใดที่หนึ่งของหัวใจ

ลองพักตัวเองด้วยการ์ตูนแนวผู้ใหญ่ดูบ้าง แม้บางเรื่องอาจทำให้คุณต้องครุ่นคิดมากขึ้นก็ตาม

Aggretsuko

ตัวละครสาวแพนด้าแดงแสนน่ารักที่ได้รับการปล่อยตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2016 จากค่ายซานริโอ ดูเผินๆ เธอออกจะสดใส ยิ้มละมุน และดูท่าทางเข้ากับคนได้ แต่ทั้งหมดนั้นอาจเป็นแค่เพียงด้านหนึ่งของเธอเท่านั้น เพราะเมื่อไรที่เธอได้จับไมค์ พลังอีกด้านก็จะเปิดเผยออกมา

Aggretsuko แอนิเมชันที่ชาวออฟฟิศจะต้องเทใจให้ เพราะตัวละครทั้งหมดนั้นอยู่ในวัยทำงาน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก Hello Kitty, My Melody, Keroppi และอื่นๆ อีกมากมาย

เรตสึโกะ สาวโสดวัย 25 ปี ราศีพิจิก เลือดกรุ๊ปเอ ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทแห่งหนึ่ง เธอคือพนักงานเงินเดือนเต็มรูปแบบ อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ตัวคนเดียว ในกรุงโตเกียว  ทุกเช้าต้องเบียดเสียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้า เข้างานตรงเวลา เลิกงานดึกดื่นในบางวัน เรตสึโกะทำงานภายใต้ความกดดันจากหัวหน้า แต่เธอก็ต้องอดทนไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนจ้องจับผิดเพิ่มขึ้น

เมื่อถึงเวลาหลังเลิกงาน สิ่งเดียวที่จะปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดได้ก็คือการไปคาราโอเกะ! กดหมายเลขเพลงโปรดที่ชื่นชอบ และเกรี้ยวกราดทุกอย่างออกมาด้วยบทเพลงเดธเมทัล!!

ภายใต้ความน่ารักและความน่าเอ็นดูของเรตสึโกะ Aggretsuko ยังแสดงให้เห็นถึงชีวิตมนุษย์เงินเดือนอันน่าเศร้าที่ผู้คนส่วนใหญ่สัมผัสมันอยู่ทุกวัน รวมถึงความอนุรักษ์นิยมในสังคม ความไม่เท่าเทียมทางเพศ ความคาดหวังต่อเพศหญิง วัฒนธรรมและมารยาทในสังคมที่บางทีก็ย้อนกลับมาทำร้ายเราทั้งหมด

ตัวละครอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มีทั้งเจ้านายน่ารังเกียจ เพื่อนรวมงานขี้ประจบ รุ่นพี่ที่ทำงานในอุดมคติ เพื่อนเม้ามอย และป้าขี้นินทา แต่อย่างไร ทุกคนก็มีความเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ กันทั้งนั้น เราก็แค่ต้องการสิ่งพื้นฐานที่ควรจะมี

Rick and Morty

แอนิเมชันแนวบันเทิง-วิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาที่เต็มไปด้วยความวายป่วงไม่รู้จบ และไร้ซึ่งจุดสิ้นสุดของจักรวาล Rick and Morty

แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่เด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะซีซั่น 3 ที่ทำเรตติ้งไปสูงที่สุดของช่อง Adult Swim และหลายคนก็ตั้งตาคอยซีซั่น 4 อย่างกระหายว่าจะพบกับเรื่องราวใดอีกบ้าง

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Rick and Morty ยังทำให้เกิดความวุ่นวายในโลกแห่งความจริงด้วยกระแสเสฉวน ซอส ของแมคโดนัลด์ที่เลิกผลิตไปนานแล้ว บรรดาแฟนการ์ตูนแห่กันไปที่ร้านเพื่อจะซื้อ เมื่อพบว่าไม่มีก็ถึงขั้นประท้วงกันเลยทีเดียว

การผจญภัยทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจาก ‘ริค ซานเชส’ นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องและพ่วงมาด้วยการเป็นแอลกอฮอลิก เขาเป็นคุณตาของ ‘มอร์ตี สมิธ’ เด็กชายสุดเนิร์ด ไม่สู้คน มีปัญหาในการเข้าสังคม แต่จิตใจดี

ทั้งสองเริ่มท่องจักรวาลไปด้วยกัน เพราะความเอาแต่ใจของริคล้วนๆ พวกเขาไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านและมิติอื่น ดาวอื่น จนเหมือนว่าจักรวาลนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ความเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดดูจะเกิดขึ้นได้ที่นี่ วิทยาศาสตร์ก้าวล้ำจนขั้นสุดของสุด ซึ่งมันทำให้ Rick and Morty ทั้งบ้าบอ สนุก สะใจ และปู้ยี่ปู้ยำทุกอย่างเข้ามารวมกัน เสียดสีวงการวิทยาศาสตร์ ล้อไปกับเหตุการณ์โลก รวมถึงวัฒนธรรม ศาสนา การเมือง เพศสภาพ  

ริคเปรียบเสมือนผู้มีอำนาจทุกอย่าง เขาอยู่เหนือทุกสิ่งทั้งปวง การกระทำของเขามันทั้งแย่ แต่ขณะเดียวกันมันก็สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของหลายอย่าง ในความไร้เหตุไร้ผล ตรรกะที่ไร้ทิศทาง มันก็ยังมีความดีงามในแบบของมัน

จัสตินและแดน ผู้สร้างเปิดเผยว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ Back to the Future สองตัวละครหลักล้อไปกับ ดร.เอ็มเมต บราวน์ และมาร์ตี แม็กฟลาย ส่วนคาแรกเตอร์หลักนั้นเป็นส่วนผสมระหว่างวิทยาศาสตร์ ผนวกเข้ากับ The Simpsons และ Futurama

Bojack Horseman

แอนิเมชันดราม่าคอมเมดี้สำหรับผู้ใหญ่ ออกฉายครั้งแรกในปี 2014 จนตอนนี้เรื่องราวดำเนินมาจนจะถึงซีซั่น 5 แล้ว โดยซีซั่น 5 มีกำหนดออกอากาศในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

ในช่วงแรกของซีซั่น 1 แอนิเมชั่นเรื่องนี้มีคำวิจารณ์ที่กำกึ่งระหว่างดีกับแย่ แต่ในช่วงครึ่งหลัง ความคิดเห็นก็เป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น จนต่อๆ มาก็ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม

เรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ฮอลลีวูด ที่ที่โลกใบนี้มีมนุษย์กับสัตว์อาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งสัตว์ทั้งหมดนั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากมนุษย์เท่าไร และโบแจ๊ค ฮอร์สแมน ก็คือมนุษย์ม้า เขาเคยเป็นดาราชื่อดังจากการแสดงละครเรื่อง Horsin’ Around

โบแจ๊คใช้ชีวิตหรูหราไปกับชื่อเสียง รุ่งโรจน์อยู่ในแสงไฟ และสำคัญตัวว่ามันจะยังคงทนตลอดไป แต่เมื่อเวลาผ่าน เขาก็เริ่มตกอับลงเรื่อยๆ ไร้งานไร้เงิน เขาวางแผนว่าจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งด้วยการออกหนังสืออัตชีวประวัติตัวเอง แต่ก็ไม่เคยลงมือเขียนมันจริงๆ จังๆ เสียที และเมื่อเขาทำไม่ได้ โบแจ๊คจึงต้องหานักเขียนเงามาทำงานแทน นั่นทำให้เขาได้พบกับไดแอน พวกเขาต้องใช้เวลาและทำงานร่วมกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

Bojack Horseman เสียดสีโลกของดาราทั้งหลาย ล้อเลียนวัฒนธรรมป็อป ตบหน้าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ พูดถึงความโสมมของมนุษย์ต่างๆ นานาอย่างการใช้ยา การทรยศหักหลัง ความสัมพันธ์ และความล้มเหลว มันสะท้อนถึงการใช้ชีวิตและวิธีการรับมือของคนๆ หนึ่ง แล้วพุ่งเป้าคำถามนั้นกลับมาหาเรา ว่าถ้าอยากให้ชีวิตเป็นแบบไหน เราก็จงใช้มันแบบนั้น

Big Mouth

เรื่องเพศคือสิ่งที่ควรพูดและสอนอย่างถูกต้องในโรงเรียน เพราะปัจจุบันยังมีเรื่องราวทั้งเล็กใหญ่อีกมากที่กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด เมื่อมีเรื่องสงสัยแต่ไม่มีคำตอบหรือกล้าพอที่จะถาม เพราะสังคมบอกว่าเพศศึกษาเป็นเรื่องน่าอาย คนส่วนใหญ่จึงไปหาคำตอบจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งให้คำตอบถูกบ้างผิดบ้าง

Big Mouth จึงเป็นแอนิเมชันที่แทบจะสร้างมาเพื่อการนี้ เนื้อหากล่าวถึงเพศศึกษาอย่างไม่ยัดเยียด ซ้ำยังให้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน เมื่อเด็กๆ เริ่มโตและก้าวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น พวกเขาต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมนและร่างกายอย่างเห็นได้ชัด เราควรบอกเขาว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ มันมีวิธีการจัดการที่ถูกต้องอยู่ ไม่ว่าสำหรับเรื่องอะไร

เนื้อหาของมันจึงพุ่งไปที่ชีวิตเด็กมัธยมต้นที่ร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามวัย พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศศึกษา มีความต้องการทางเพศ และชอบริลองสิ่งใหม่ๆ โดยหลายครั้งตัวละครจะพบกับมอนสเตอร์ฮอร์โมน มอริซและคอนนี่ เป็นตัวคอยให้คำปรึกษา แต่บางครั้งก็ยุยงเสียอย่างนั้น

การ์ตูนมีความทะเล้นตามประสา พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงเรื่องสำคัญหลายอย่าง อาทิ ผลเสียของการหมกหมุ่นทางเพศ การมีประจำเดือนของผู้หญิง การปฏิเสธเซ็กซ์เมื่อตนไม่พร้อม การป้องกันเรื่องท้องไม่พร้อม การเรียนรู้ร่างกายตัวเอง ความหลากหลายทางเพศ และยังสอดแทรกประเด็นอื่นๆ เช่นเรื่องเพื่อนหรือครอบครัวเข้าไปด้วย

F is for Family

F is for Family ผลงานสร้างสรรค์โดยไมเคิล ไพรส์ กับบิล เบอร์ นักแสดงและพิธีกรชาวอเมริกัน ผู้มีอารมณ์ขันเป็นอาวุธ ออกอากาศครั้งแรกในปี 2015 แล้วตามมาด้วยซีซั่น 2 ในปี 2017 และปลายปีนี้ในเดือนพฤศจิกายนก็มีกำหนดการออกอากาศของซีซั่น 3

การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็กเลยแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นการ์ตูนสะท้อนชีวิตที่ผู้ใหญ่ควรดูเสียมากกว่า เราจะได้เห็นครอบครัวที่ล่มสลาย ปัญหาชีวิตคู่ การปกครองเด็กๆ การรับมือลูกๆ ปัญหาส่วนตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาส่วนรวมภายในบ้าน และสารพัดปัญหาที่ครอบครัวหนึ่งๆ จะมีได้ มันทั้งขมขื่นและชวนอนาถใจ แต่มันก็สะท้อนคำว่าครอบครัวออกมาได้อย่างครอบคลุมในทุกด้าน

เรื่องราวเริ่มขึ้นในปี 1973 ครอบครัวเมอร์ฟี่ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คน แต่ละคนต่างมีปัญหาชีวิตของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่

เริ่มต้นด้วย แฟรงค์ หัวหน้าครอบครัว เกรี้ยวกราด ปากร้าย และมักหยาบคายใส่ลูกชายคนโตเสมอ เด็กๆ ในบ้านจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะทำให้พ่อของพวกเขาหัวเสียให้ได้มากที่สุด แฟรงค์เป็นทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานในสายการบิน  

ซูซาน ภรรยาของแฟรงค์ ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน คอยปรนนิบัติสามี เลี้ยงและอบรมลูกๆ มีชีวิตอยู่อย่างแม่บ้านที่น่าเศร้า

เควิน ลูกชายคนโต ชอบเพลงร็อค ติดบุหรี่ ท่าทางอมทุกข์ เพราะแบกรับความกดดันมาจากพ่อของเขา บิล ลูกชายคนรอง ตัวเล็ก ขี้อาย ชอบโดนรังแก ไม่ค่อยสู้คนเท่าไร และคนสุดท้าย มอรีน ลูกสาวคนเล็ก ที่แฟรงค์รักมากที่สุดในบรรดาลูกๆ และมักเรียกเธอว่าเจ้าหญิง

ครอบครัวนี้เป็นส่วนผสมตามความเป็นจริงบนโลก ครอบครัวที่มีทั้งความรักและความชัง แล้วไหนจะเรื่องที่รายล้อมชีวิตแต่ละคนอีก อาทิ เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน สังคม หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ โรงเรียน และอื่นๆ ความวุ่นวายชวนปวดหัวถูกรวมเอาไว้ที่นี่หมดแล้วใน F is for Family

Tags: , ,