1
“ผมเพิ่งฆ่าพ่อตายครับ”
จาร์เรตต์ พี. แอมโบ (Jarrett P. Ambeau) เป็นทนายความคดีอาญา เขาเพิ่งออกจากกองทัพบกในปี 2017 ผ่านมาได้ 2 ปี อดีตทหารก็พบกับเหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
หน้าที่ของแอมโบตามกฎหมายมีอย่างเดียวคือ ‘ช่วยลูกความให้พ้นจากคุก’
นี่คือคุณสมบัติสำคัญของทนายความที่ดี
แต่คดีที่เขารับทำนี้เป็นเรื่องใหญ่ หลักฐานชัดแจ้งทุกอย่างชัดเจน ลูกความเป็นฆาตกรที่ยิงพ่อตัวเองตาย แถมยังโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจสารภาพทุกอย่าง
การว่าความคดีนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปลายทางของลูกความซึ่งเป็นเด็กหนุ่มวัยแค่ 17 ปีน่าจะจบที่เรือนจำ หากเป็นสมัยก่อนก็อาจถูกประหารชีวิตไปแล้ว
ทุกอย่างดูมืดหม่น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาช่องสู้คดี ยิ่งตรวจสอบรายละเอียดหลักฐานทุกอย่าง เพื่อจะหาความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ แต่ดูเหมือนทุกอย่างลงตัว ตำรวจคุมตัวลูกความอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีหลักฐานพร้อมเอาผิด
ปลายทางไม่เห็นแสงสว่าง มีแต่ความมืดมน
ใครเลยจะเชื่อว่า ห่างจากจุดเกิดเหตุหลายร้อยกิโลเมตร พลันที่หญิงสาวเห็นข่าวดังกล่าว แล้วพบภาพผู้ต้องหาถูกควบคุมตัว เธอก็สั่นสะท้าน 11 ปีที่ผันผ่าน ช่วงเวลาที่รอคอยยาวนาน ในที่สุดก็พบน้องชายคนละพ่อที่หายตัวไป
นี่กลายเป็นข้อมูลสำคัญ เมื่อเธอเผยแพร่เรื่องราวทุกอย่างผ่านเฟซบุ๊ก มีการแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว ข้อมูลนี้ไปถึงมือแอมโบ และกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะช่วยให้ลูกความของเขาพ้นผิด
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดลึกเข้าไปเรื่อยๆ ก็พบความจริงสุดสยองซ่อนอยู่เบื้องหลังความจริงตรงนี้มากมาย จนกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่แอมโบจะต้องช่วยเด็กคนนี้ให้ได้
ทั้งในฐานะพ่อของลูก 6 คน และในฐานะประชาชน
“ผมจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้ ติดคุกโดยเด็ดขาด”
2
วันที่ 3 มิถุนายน 2019 ตำรวจแห่งรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งจากปลายสาย ของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี ชื่อ แอนโทนี เทมเพลต (Anthony Templet)
“ผมเพิ่งฆ่าพ่อตายครับ”
นักสืบ สายตรวจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รุดไปที่บ้านหลังดังกล่าวทันที พวกเขาพบร่าง เบิร์ต เทมเพลต (Burt Templet) วัย 53 ปี นอนจมกองเลือด ลมหายใจรวยริน อยู่ในห้องน้ำของบ้าน พวกเขาพบว่า ชายชราถูกยิงหลายนัด ตามแขน หน้าอก และหัว อาการสาหัส เจ้าหน้าที่พาตัวไปโรงพยาบาล เพื่อยื้อวิญญาณจากมัจจุราช แต่ดังที่สำนวนข่าวอาชญากรรมไทยชอบใช้ ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตำรวจจึงคุมตัวลูกชายของเบิร์ตวัย 17 ปีทันที หลังสอบปากคำเขาบอกว่า ได้ทะเลาะกับพ่อ ก่อนใช้ปืนยิงใส่พ่อบังเกิดเกล้า แล้วโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ระหว่างนั้นแอนโทนีก็คายคำรับสารภาพอย่างละเอียด เขาบอกว่าถูกพ่อทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ วันเกิดเหตุ เขามีปากเสียงกับพ่ออย่างรุนแรง จนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย
“ตอนนั้นผมกลัวว่าพ่อจะฆ่าผม เลยหยิบปืนแล้วยิงออกไป 3 นัด”
นำไปสู่การฆาตกรรมในทันที
อัยการแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ถือเป็นโทษหนักที่รุนแรงอย่างมาก แม้ผู้เสียชีวิตซ้อมลูก แต่ไม่ใช่เหตุผลที่ลูกหรือใครก็ตามจะเอาความคับแค้นใจตรงนี้มาฆ่าคนได้
เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในกระบวนการยุติธรรมเบาใจ หลักฐานมันชัดแจ้ง ดีเอ็นเอของแอนโทนีปรากฏไปทั่วอาวุธปืน
พวกเขาสามารถลากตัวเด็กคนนี้ขึ้นศาลได้แน่ และมีโอกาสที่จะถูกตัดสินลงโทษอย่างรุนแรง
ระหว่างนั้นแอมโบในฐานะทนายความของแอนโทนีทำงานอย่างหนัก เพื่อจะช่วยให้หนุ่มน้อยรอดจากตาราง ซึ่งคาดว่าเขาจะต้องติดคุกนานกว่า 40 ปี
ทนายความครุ่นคิด พอค้นประวัติของแอนโทนี เขาก็พบเรื่องฉงน เด็กคนนี้ไม่มีประวัติการศึกษา ไม่มีทางการแพทย์
“ทุกอย่างที่พบ เหมือนเขาไม่มีตัวตนเลย”
เมื่อตรวจที่เกิดเหตุบ้านพักของครอบครัวนี้ เขาเห็นกล้องวงจรปิดติดไปทั่ว แม้เด็กหนุ่มจะทำงานเป็นพยาบาลท้องถิ่น แต่ทุกอย่างในชีวิตเหมือนพ่อจะตามติดเขาทุกฝีก้าว ราวกับอยากจะให้ลูกอยู่ด้วยกันไปตลอด และกีดกันเด็กคนนี้จากสังคมภายนอก
หัวหน้างานของแอนโทนีบอกว่า พฤติกรรมและชีวิตของเด็กคนนี้ เหมือนเขาถูกลักพาตัวมาเลย
ความเอะใจตรงนี้ ทำให้แอมโบตัดสินใจติดต่อกับหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นพี่สาวต่างพ่อ ซึ่งอยู่ที่รัฐเท็กซัส แล้วเขาก็พบเรื่องราวสุดช็อก
เพราะหญิงสาวบอกว่า แอนโทนีคือน้องชายที่หายตัวไปนาน 11 ปี หลังพ่อแท้ๆ ลักพาตัวน้องไป ที่ผ่านมาแม่ก็พยายามหาตัวลูก พยายามแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่มีข้อมูลความคืบหน้าอะไรเลย ทุกคนพยายามภาวนาว่าเด็กจะยังมีชีวิตอยู่
หญิงสาวบอกว่า เบิร์ตเป็นพ่อที่แย่ เคยทำร้ายร่างกายแม่เธออยู่เป็นประจำ จากนั้นขณะที่แอนโทนีอายุได้เพียง 5 ปี เขาก็ถูกลักพาตัวหายไปจากบ้านตลอดกาล ไม่มีใครรู้ว่าเด็กกับพ่อหายไปไหน
“เหมือนเขาถูกดูดหายไปในหลุมดำ”
แอมโบนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลอย่างละเอียดรอบคอบ และทำให้เขาพบวิธีการสู้คดีอย่างชัดเจน ทุกอย่างอยู่ในคำรับสารภาพนี่เอง
ทนายความเข้าพบแอนโทนี แล้วแจ้งว่า แม่แท้ๆ ของเขายังมีชีวิตอยู่ และยินดีอย่างยิ่งที่จะได้พบลูก ข้อมูลนี้ทำให้เด็กหนุ่มตาลุกวาว
“แม่ยังมีชีวิตอยู่เหรอ”
จากนั้นทุกอย่างก็ปรากฏออกมาว่า พ่อกดดันกักขังและทำร้ายร่างกายเขาอยู่เป็นประจำ จนถึงจุดหนึ่ง เขากลัวว่าตัวเองจะถูกฆ่า นั่นทำให้เด็กน้อยต้องหยิบปืน เพื่อขีดชะตาชีวิตขึ้นมาใหม่
เพราะมันเหลืออดและเกินทน จนแอนโทนีต้องลุกขึ้นสู้จากสารพัดอย่างที่พ่อมอบให้อย่างโหดร้าย แม้จะแลกมาด้วยความตายของอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มวัย 17 ปีก็ยอมทำ
เมื่อเรื่องราวปรากฏในสื่อ ความจริงก็ชี้นำสังคม มันไม่ใช่ลูกฆ่าพ่อ ปิตุฆาตอย่างโหดร้าย แต่กลายว่า เบิร์ตเป็นปีศาจร้ายสุดอันตราย บางทีเขาก็สมควรแล้วที่จะต้องมีจุดจบแบบนี้
ทีแรกศาลตั้งวงเงินประกันแอนโทนีสูงถึงแสนดอลลาร์สหรัฐฯ แต่พอพบว่า เขาถูกพ่อลักพาตัว ถูกกักขัง ถูกซ้อม ถูกละเมิดทางกายและจิตใจ จึงลดค่าประกันตัวเหลือแค่ 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นทำให้แอมโบยื่นทรัพย์ประกันตัวได้ โดยมีข้อแม้ว่า แอนโทนีจะต้องใส่กำไลอีเอ็ม ต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูจิตใจ
หลังจากถูกจับกุมนานกว่า 6 เดือน
แอนโทนีก็ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง
3
แอมโบเตรียมสู้คดีในชั้นศาล โดยแย้งว่าเด็กหนุ่มยิงพ่อตาย เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ดีฝั่งอัยการแย้งว่า จากคำรับสารภาพของแอนโทนี เด็กหนุ่มทำร้ายร่างกายพ่อตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายบอกให้หยุด ฆาตกรก็ไม่หยุด แถมเบิร์ตยังเมาหนักจนไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามได้
กระนั้นอัยการและเจ้าหน้าที่รัฐก็ครุ่นคิด หากจะตั้งข้อหาหนักอย่างฆ่าคนตายโดยเจตนาต่อเด็กที่เป็นเหยื่อความรุนแรงของพ่อตัวเอง หากต้องขึ้นศาล หากต้องเผชิญกับลูกขุน โอกาสที่พวกเขาจะชนะคดีก็ฉิวเฉียด
แถมที่จริงแล้ว ผลของคำตัดสินนี้ไม่มีประโยชน์อะไรต่อทางการเลย เพราะหากเด็กติดคุก เจ้าหน้าที่จะต้องถูกประณามว่า เหี้ยมโหดใจดำ ไม่สนใจความจริงรอบด้าน มุ่งแต่จะจับคนยัดคุก โดยไม่สนใจว่า อีกฝ่ายมีความหลังที่เจ็บปวดเลวร้ายมาเพียงใด
และหากแพ้คดี ก็จะถูกสมน้ำหน้าจากคนในสังคมด้วย
เมื่อคำนึงอย่างถี่ถ้วน พร้อมกับกระแสสังคมที่โหมกระหน่ำ ยิ่งเจอสื่อนำเสนอข่าว พร้อมข้อมูลเบิร์ตทำร้ายร่างกายลูก ปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดอัยการและแอมโบจึงนัดคุยแนวทางของคดี
ในที่สุดหลังจากพูดคุยกันอย่างยาวนาน ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาก็ถูกยกเลิกไป แต่การก่อเหตุของแอนโทนียังถือว่ามีความผิดอยู่
ทางอัยการแจ้งว่า เด็กหนุ่มวัย 17 ปีจะถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่ได้เจตนาแทน เพราะคำนึงว่า ตอนเกิดเหตุเขาหยิบปืนเพื่อจะหยุดยั้งพ่อไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยไม่ได้หวังผลที่จะฆ่าถึงแก่ชีวิต เพราะมีข้อเท็จจริงคือ เบิร์ตยังไม่ตาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบ ก่อนพาตัวไปรักษาโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิต
การลดข้อหาลงทำให้โทษของแอนโทนีเบาลงเหลือแค่คุมประพฤติเพียง 4 ปีเท่านั้น ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องเป็นนักโทษ โดยระหว่างนั้นเด็กหนุ่มจะได้รับการบำบัด พูดคุย เพื่อสร้างชีวิตใหม่
ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและแอมโบต่างเห็นว่า นี่คือทางแก้ปัญหาที่ดีสุดแล้ว
เมื่อเด็กหนุ่มตกลง ทุกอย่างก็ปิดคดีได้
ทนายความออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “นี่คือชัยชนะของเรา”
4
การคุมประพฤติแอนโทนีนั้นใช้เวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น โดยให้หักจากช่วงเวลาที่เขาโดนจับติดคุก ก่อนได้รับการประกันตัวคือ 6 เดือน
กินเวลาไม่นาน เด็กหนุ่มก็พ้นมลทิน ออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างปุถุชนทั่วไป
ปัจจุบันนี้แอนโทนีกำลังเรียน ม.ปลาย เพื่อเอาวุฒิ ม.6 พร้อมกับเข้ารับการปรึกษา เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ หลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มาทั้งชีวิต
หากเจ้าหน้าที่ประเมินว่า สภาพจิตเขาเป็นปกติเมื่อไร ข้อมูลอาชญากรรมก็จะถูกลบไป ทำให้เจ้าตัวสามารถทำงานได้เหมือนเสรีชน
เรื่องราวของแอนโทนีสร้างเป็นสารคดี ถูกเล่าขานและนำเสนอผ่านสื่อมากมาย ชี้ให้เห็นความล้มเหลวของสังคม ที่ไม่อาจปกป้องเด็กน้อยที่ถูกพ่อลักพาตัวไป และกักขังราวกับติดคุก ตั้งแต่เด็กจนโต
อย่างไรก็ดีมันก็ยังสะท้อนอีกด้านของกระบวนการยุติธรรม ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้ตั้งข้อหา ดำเนินคดีอย่างรุนแรง โดยไม่สนใจความจริงเบื้องหลังนั้น
ความดีความชอบทั้งหมดก็ไม่พ้นทนายความแอมโบที่ว่าความอย่างละเอียด หาข้อมูลแบบครบถ้วน จนในที่สุดเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเอง
คือช่วยลูกความพ้นคุกและได้รับชีวิตใหม่
แอมโบบอกกับสื่อว่า ช่วงเวลาที่เขาทำคดีนี้มีโอกาสได้เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มวัย 17 ปี เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุด ที่จะทำให้แอนโทนีได้รับความยุติธรรม
และเขาก็ทำได้
มันเป็นความภาคภูมิใจของทนายความ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่แห่งกระบวนการกฎหมาย และมอบความเป็นธรรมให้กับแอนโทนี
“เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ช่วยเด็กคนนี้”
ทุกวันนี้แอมโบยังคงเป็นทนายความ เขายังคงรับว่าความให้กับลูกความที่เดือดร้อนจากกฎหมายและบ้านเมือง
ที่สำคัญเจ้าตัวยังเฝ้าติดตาม ให้คำปรึกษา และสนิทสนมกับแอนโทนีเหมือนเดิม
เด็กหนุ่มบอกว่า ทุกวันนี้เขาตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ
สิ่งนี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับแอมโบอย่างมาก
“ผมอยากเห็นเขาประสบความสำเร็จ และตั้งใจว่าจะขออยู่เคียงข้างเขาไปตลอดกาล”
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.womenshealthmag.com/life/a40899569/jarrett-ambeau-now-i-just-killed-my-dad/
Tags: ฆาตกรรม, Haunted History, ฆาตกร, ลูกฆ่าพ่อ, ปิตุฆาต