KOI Restaurant ความฟินที่แท้ทรูของอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น

          KOI ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ที่มีจุดเริ่มต้นที่แคลิฟอร์เนีย ก่อนจะประสบความสำเร็จ จนขยายสาขาไปทั่วสหรัฐอเมริกาทั้งที่นิวยอร์ก ลาสเวกัส และตามด้วยเอเชียที่อาบู ดาบีและกรุงเทพฯ ในซอยสุขุมวิท 20

          เอกลักษณ์ของ KOI คือการผสมผสานความเรียบง่ายของอาหารญี่ปุ่นแท้ มาทำให้ร่วมสมัยในแบบอเมริกา จนหน้าตาของอาหารดูผิวเผินเหมือนอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่เลือกใช้วัตถุดิบที่หลากหลายทำให้อาหารดูมีความซับซ้อนและรายละเอียดอย่างมาก

          ความนิยมในกรุงเทพฯ จนต้องเปิดสาขาสองที่ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์ ที่เปิดรับวิวเมือง โดยบรรยากาศภายในร้านให้ความเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยวัสดุไม้กลิ่นอายของแดนอาทิตย์อุทัย ขณะที่เบาะหนังช่วยเพิ่มหรูหรา

          คอนเซ็ปต์หลักของร้านคือความเป็นญี่ปุ่นตามแนวคิดลัทธิเซน (Zen) มีการตกแต่งตามหลักฮวงจุ้ยด้วยบ่อปลา เมื่อหันหน้าออกไปชมทิวทัศน์ภายนอกจากชั้น 39 ที่มีเหล่าตึกสูงๆ เรียงรายอยู่เหมือนกับภูเขา อีกทั้งชื่อร้าน KOI ที่อ่านว่า คอย แปลว่าความรักหรือปลาคาร์ปก็ได้

Midnight Train to Sathorn

The Cognac Addicted

          อาหารของที่นี่เป็นอาหารญี่ปุ่นสไตล์แคลิฟอร์เนีย ก่อนจะได้ลองเมนูอาหาร ทางร้านให้ลองชิมค็อกเทลขึ้นชื่อ แก้วแรกคือ Midnight Train to Sathorn (มีเหล้าจิน, แอปริคอต, น้ำเกรปฟรุต, เลมอนและไซรัป ให้ความรู้สึกสดชื่นหอมแอปริคอตและเกรปฟรุตเป็นหลัก มีกลิ่นเลมอนอยู่บางๆ) และอีกแก้วที่ได้ลองคือ The Cognac Addicted (เหล้าคอนยัค, ไซรัปกลิ่นซีตรัส, เกรนาดีน – Grenadine, พีชบิตเตอร์ – Peach Bitters) แก้วนี้เหมาะกับผู้ที่รักในเหล้าคอนยัคมากๆ

Koi Crispy Rice

          จากนั้นอาหารเรียกน้ำย่อยกินง่ายก็อยู่ตรงไหน Koi Crispy Rice ที่นำข้าวมาปั้นให้แบนพอคำเคลือบด้วยซอสพอนสึ (ซอสรสชาติเปรี้ยวเค็มแบบญี่ปุ่น) นำไปทอดให้กรอบโดยใช้ไฟแรง และเอามาจี่อีกครั้ง ตกแต่งด้วยเนื้อทูน่าหรือเนื้อแซลมอนสับผสมกับสไปซี่มาโย (มาโยคือมายองเนส) และไข่กุ้งเอบิโกะทำให้เวลาเคี้ยวแล้วมีกรุบๆ มีพริกสดเม็กซิกันฝานเพิ่มรสเผ็ดนิดๆ

Creamy White Shrimp Tempura

          จานต่อมาเป็น Creamy White Shrimp Tempura ดูภายนอกเหมือนไม่มีอะไรแปลกใหม่คล้ายกับกุ้งชุบแป้งทอดทั่วไป แต่แป้งเทมปุระหนากำลังดี มีความกรอบแม้จะเคลือบด้วยมายองเนสงา รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย โรยหน้าด้วยพริกญี่ปุ่นและหอมเจียวซอยชิ้นบางเฉียบ

Gelano Roll

          เชฟไม่ปล่อยให้ปากว่าง เสิร์ฟต่อด้วยเมนู Gelano Roll ที่หน้าตาเหมือนแคลิฟอร์เนียโรลล์ แต่วัตถุดิบที่เชฟเลือกใช้นั้นแตกต่าง โดยไส้ด้านในเป็นสไปซี่ทูน่าสอดไส้แตงกวา ด้านนอกเป็นปลาทูน่าอัลบาคอร์ โรยหน้าด้วยใบผักโขมทอดกรอบและพริกชี้ฟ้าแดงของไทย ราดซอสพอนสึ นับเป็นจานที่ผสานหลายวัฒนธรรม ทั้งญี่ปุ่น อเมริกาและไทย

Miso Bronzed Black Cod

          พอถึงอาหารจานหลักจานแรกสำหรับคนชอบปลาคือ Miso Bronzed Black Cod ใช้ปลาค็อดซึ่งเป็นปลาทะเลที่เนื้อจะมีไขมันแทรกอยู่ เชฟนำเนื้อปลาไปแช่ในมิโสะที่เลือกอย่างดีแล้วค่อยนำไปอบและราดซอสมิโสะอีกครั้ง ตกแต่งด้วยบ๊วยญี่ปุ่นดองรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เพิ่มรสชาติด้วยขิงดองและใบงาทอดกรอบ

Grilled New Zealand Lamb Chop

          จานต่อมาเป็นเนื้อแกะจากนิวซีแลนด์ Grilled New Zealand Lamb Chop ซี่โครงแกะย่างกำลังสุกพอดี ราดซอสอิชิมิ เคียงด้วยสลัดเลบานอน (สลัดสไตล์เลบานอน เป็นข้าวคูสคูส, มะเขือเทศและน้ำสลัด รสชาติเปรี้ยวอมหวานคล้ายๆ ซัลซ่า) ช่วยให้รสชาติของเนื้อแกะอร่อยและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น

Chocolate Soufflé

          ส่วนของหวานเป็น Chocolate Soufflé ตัวช็อกโกแลตซูฟเฟล่ทำจากดาร์กช็อกโกแลตกับไข่ขาว ไม่มีแป้งเป็นส่วนผสม ทำให้เนื้อขนมเนียนนุ่ม ไม่หวานมากเกินไป ส่วนไอศครีมทำจากไวต์ช็อกโกแลตแทนวานิลลาทานคู่กับอัลมอนด์ครัมเบิ้ล

Gemini’s Matcha Cheese

          ปิดท้ายของหวานอีกเมนู Gemini’s Matcha Cheese ชีสเค้กทรงลูกบอลกลมเคลือบด้วยไวต์ช็อกโกแลตสีแดง ด้านในลูกบอลเป็นชีสเค้กชาเขียวเข้มข้น เวลาทานแนะนำให้ทานชีสเค้กชาเขียวด้านในและชีสเค้กด้านนอกเพื่อรสชาติที่ครบถ้วนในคำเดียว เพิ่มความกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์ครัมเบิ้ลที่โรยแต่งไว้รอบๆ จาน

          อยากลองลิ้มรสอาหารแบบผสมผสานที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือเชฟชาวญี่ปุ่นพร้อมชมวิวใจกลางเมืองแบบนี้ได้ที่ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เปิดเวลา 18.00-01.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์เปิดเวลา 18.00-02.00 น. โทร. 0-2036-8899