สำหรับคนที่ชอบทานอาหารมื้อสาย (Brunch) คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน Roast ซึ่งเป็นร้านแรกๆ ที่เริ่มเทรนด์ดังกล่าวในกรุงเทพฯ และใครที่เป็นคอกาแฟคงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน Roots  และเจ้าของทั้งสองร้านอย่างเต้-วรัตต์ วิจิตรวาทการ ก็มีร้านใหม่ชื่อว่า Ocken ใจกลางสาทร 

          หลายคนสงสัยว่า Ocken มีความหมายว่าอะไร เป็นการผสมคำระหว่าง ปลาหมึก (Octopus) และไก่ (Chicken) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารจานแรกที่ได้ทำขึ้นในช่วงที่จะเปิดร้านนี้ขึ้นมา

          ร้าน Ocken ผสมผสานวัฒนธรรมการทานจากหลายประเทศเข้าด้วยกันพร้อมบรรยากาศที่ฉีกขนบสองร้านก่อนหน้านี้ สังเกตได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้และกระเบื้องสีโทนเข้มได้ถูกเลือกเข้ามาแทนที่ไม้สีโทนอ่อนแบบสแกนดิเนเวียที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน Roast หรือ Roots และองค์ประกอบหลักอย่างครัวแบบเปิดที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางร้าน ได้รับการออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายจอโรงหนัง ทำให้รู้สึกว่าการทานอาหารที่ร้าน Ocken เหมือนได้มานั่งชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง

          อาหารผ่านการออกแบบโดยเชฟจอห์นนี ลูย์ ส่วนหนึ่งคือการยกระดับอาหารแบบคอมฟอร์ดฟู้ดจากร้าน Roast มาเป็นลักษณะอาหารแบบไฟน์ไดน์นิ่ง ผ่านขั้นตอนการทำที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความพิถีพิถันในการปรุงมากขึ้น รวมถึงมีการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศที่ไม่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย เช่น ฮาริซซ่า (พริกของตะวันออกกลาง) หรือซอเรล (Sorrel) ผักรสเปรี้ยว

          เมนูของร้านได้รับการออกแบบให้เป็นอาหาร 5 คอร์ส ประกอบด้วยอาหารทานเล่น อาหารเรียกน้ำย่อย พาสต้า อาหารจานหลัก และของหวาน แต่ไม่จำเป็นต้องสั่งอาหารเรียงให้ครบทุกคอร์สแบบร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งทั่วไป คุณสามารถเริ่มมื้ออาหารด้วยอาหารทานเล่นอย่าง Fried Barron Point Oyster  (ราคา 300 บาทต่อ 2 ชิ้น และ 850 บาทต่อ 6 ชิ้น) หอยนางรม Barron Point จากมลรัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ นำมาทอดกรอบ เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนด้วยซอสพริกและวาซาบิ เสิร์ฟพร้อมพริกดองและครีมผักชี

Fried Barron Point Oyster  

          Mini Cubano Sandwich (ราคา 220 บาท) แซนวิชแบบคิวบาสอดไส้หมูที่มีรสสัมผัสนุ่มจากการตุ๋น เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติด้วยชีสกรูว์แยร์ เติมความเผ็ดเล็กน้อยด้วยพริกฮาลาพิโน่หรือพริกเม็กซิกัน ส่วนพุงของปลาแซลมอนที่มีความนุ่มและมันนำมาทำเป็นโรว์แซลมอนในแบบฉบับของ Ocken ที่มีชื่อเมนูว่า Salmon Belly Hand Roll (ราคา 420 บาท) โดยผสมกับมายองเนสข้าวคั่ว ห่อด้วยสาหร่ายญี่ปุ่นและมันฝรั่งทอดกรอบอีกชั้นหนึ่ง และตกแต่งด้วยไข่ปลาแซลมอน นับว่าเป็นจานที่ให้ความหลากหลายของรสชาติและรสสัมผัสเป็นอย่างดี

Mini Cubano Sandwich

Salmon Belly Hand Roll

Beef Tartare

          Beef Tartare (ราคา 420 บาท) เนื้อดิบหรือบีฟทาทาร์แบบฝรั่งเศสได้รับการตีความใหม่ให้มีรสชาติเข้มข้นขึ้นด้วยมายองเนสที่มีรสจัดจ้านจากเครื่องเทศและไส้กรอกเอ็นดูย่า(Nduja) ของอิตาลี เสิร์ฟพร้อมเห็ดหอมและมันฝรั่งทอดกรอบเพื่อเพิ่มรสสัมผัสที่แตกต่าง อีกจานที่น่าสนใจคือ Cold Capellini พาสต้าเส้นเล็กอย่างคาเปลินี่ถูกนำมาเสิร์ฟในรูปแบบของหมี่เย็นแบบเอเชีย เพิ่มความสดชื่นด้วยซอสซูกินีและน้ำมะเขือเทศที่นำไปกรองจนใส เพิ่มรสชาติแบบอิตาลีด้วยบูราต้าชีสและพาร์มาแฮมทอดกรอบที่เพิ่มความมันและความเค็มให้อาหารจานนี้กลมกล่อมยิ่งขึ้น (450 บาท)

Cold Capellini

Lamb Rack

          สำหรับอาหารจานหลักที่พลาดไม่ได้คือ Lamb Rack (ราคา 850 บาท) ซี่โครงแกะย่างกลิ่นอายตะวันออกกลางด้วยโยเกิร์ตที่นำไปผสมกับพริกฮาริซซ่าที่ให้ความเผ็ดและความเปรี้ยวเข้ากับเนื้อแกะได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยของหวาน Sathorn Mess (ราคา 320 บาท) ซึ่งผสมผสานเค้กช็อกโกแลตและเค้กเจนัวส์ (Genoise) รสชาเขียว เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมชาเขียวและสตรอว์เบอร์รี่และผักซอเรลที่เพิ่มรสเปรี้ยวเล็กน้อย

Sathorn Mess

Fact Box

Ocken ชั้น 1 อาคาร Bhiraj Tower  ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 โทร. 08-2091-6174

Tags: , , , ,