1.
“หยุดนะ นี่คือการปล้น!”
ชอว์น นิวแมน (Shawn Newman) ถึงกับต้องมนต์เสน่ห์ เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่งเข้ามาพบเธอ เพื่อขอคำปรึกษาในฐานะลูกความ และให้ทนายความสาวทำเรื่องจัดการคัดค้านเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องการจะบุกรื้อบ้านต้นไม้ของเขา
สิ่งที่เธอเห็นในตัวหนุ่มรายนี้ ทำเอาหญิงสาวถึงกับปลาบปลื้ม เพราะอีกฝ่ายหุ่นดี มีเสน่ห์ และรูปร่างฟิตเหมือนนักกีฬาเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพูดคุยเรื่องคดี นิวแมนจึงยื่นหนังสือคัดค้านการรื้อบ้านต้นไม้ที่ลูกความเธอสร้างด้วยตัวเอง บนเนื้อที่กว่า 19 เอเคอร์ หรือราว 48 ไร่ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าอีกฝ่ายมีทนายความเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาจึงล้มเลิกปฏิบัติการนี้ เพราะไม่อยากมีปัญหาถูกฟ้องร้องในภายหลัง
การให้คำปรึกษาเพียงเล็กน้อย ทำให้หญิงสาวประทับใจในตัวลูกความ ที่ยิ้มง่าย ผมสีดำขลับ และรูปร่างแข็งแรงเข้าอย่างจัง
“เขาเหมือนดารามากๆ”
สุดท้ายทั้งสองจึงออกเดตกัน
“เขาเป็นคนที่ไม่หยาบคาย นิสัยโอเค เป็นคนน่าสนใจ ถ้าเห็นเขาที่ถนน แม้ไม่ได้โกนหนวดมา 2-3 วัน ชายคนนี้ก็ยังดูดี แถมหุ่นดีอีกด้วย”
กระนั้น ทั้งสองก็ไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์ เพราะชายหนุ่มมักจะเดินทางไปทั่ว ไม่ค่อยอยู่กับที่เท่าไร แถมยังซ่อนเร้นชีวิตส่วนตัวไว้ด้วย
นั่นทำให้หญิงสาวไม่อาจรู้จักตัวตนของเขาอย่างถ่องแท้ ไม่อาจเข้าใจเขาได้มากกว่านี้ และนั่นจึงเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ไม่เกิดการนัดเดตครั้งต่อไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงจบสิ้นลงแค่นั้น
หากเธอเริ่มคุยคบหากับเขาลึกซึ้งมากกว่านี้ บางทีทุกอย่างอาจไม่จบลงที่เหตุสลดก็เป็นได้
แต่อดีตไม่มีคำว่าถ้า ทุกอย่างจึงดำเนินต่อไป
พอถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 1996 สถานีโทรทัศน์ก็รายงานข่าวการเสียชีวิตของชายคนหนึ่ง นิวแมนถึงกับช็อก เมื่อผู้ประกาศเผยชื่อผู้เสียชีวิตและพฤติกรรมทั้งหมดของเขา
นี่อาจเป็นโลกอีกใบที่เขาเก็บซ่อนไว้ เป็นความลับที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า อดีตลูกความ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่เธอ (เคย) หลงเสน่ห์
มีอีกด้านเป็นนักปล้นธนาคารมือฉมัง เจ้าของฉายาสุดเซ็กซี่
‘จอมโจรฮอลลีวูด’
2.
ช่วงก่อนเที่ยงของวันที่ 25 มิถุนายน 1992 ณ เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ชาย 2 คน ถืออาวุธปืนเข้าไปในธนาคาร โดยกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุรายหนึ่ง ใส่จมูกปลอมและแต่งหน้าแบบเข้มเหมือนนักแสดงละครเวที เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจเจ้าหน้าที่อย่างมาก
พยานเล่าว่า พลันที่พวกเขาเดินเข้ามา ชายที่ใส่จมูกปลอมก็ตะโกนอย่างดุดันว่า “หยุดนะ นี่คือการปล้น” จากนั้นก็ตามด้วยน้ำเสียงรุนแรงราวกับพี่ว้ากหรือครูฝึกในกองทัพ ยิ่งพวกเขาโชว์อาวุธปืนโบกไปมาอย่างเอาจริงเอาจัง ยิ่งทำให้คนในธนาคารต่างศิโรราบ
แต่ชายที่แต่งหน้าไม่ได้หวังเอาทรัพย์สินของลูกค้า แต่เดินเข้าไปหาผู้จัดการสาขาธนาคาร พร้อมสั่งให้มอบเงินสดจากตู้เซฟมาให้หมด โดยย้ำด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า
“อย่าใส่เงินที่ทำสัญลักษณ์ไว้ให้ตำรวจติดตามลงไปในถุงเด็ดขาด”
แม้จะมีท่าทางดุดัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ เพราะเมื่อได้เงิน คนร้ายก็เอายัดใส่ถุงแล้วเดินออกไป ถือเป็นการปล้นที่รวดเร็วและประสบความสำเร็จ โจรทั้ง 2 คน ได้เงินไป 1.9 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ
ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคมปีเดียวกัน หรือราว 1 เดือนกว่าหลังการปล้นธนาคาร ผู้ก่อเหตุคนเดิมก็ควงปืนปล้นธนาคารแห่งเดิม แล้วกวาดเงินไปเบาะๆ 8,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการก่อเหตุเหมือนกับครั้งแรกเป๊ะ
การปล้นครั้งที่ 2 ทำให้ตำรวจและเอฟบีไอเข้ามาตรวจสอบ โดยวิธีการตะคอกใส่ลูกค้าพนักงานธนาคารนี่เอง ทำให้พวกเขาตั้งสมญานามผู้ก่อเหตุว่า ‘จอมโจรนักว้าก’
หลังจากนั้น 4 ปีผ่านไป ดูเหมือนโจรว้ากรายนี้จะก่อเหตุปล้นธนาคารในรัฐวอชิงตันเพิ่มอีกถึง 15 ครั้งด้วยกัน ทุกคราประสบความสำเร็จ ไม่มีใครบาดเจ็บ การลงมือไร้การไล่ล่า เจ้าหน้าที่ไม่มีเบาะแส ไม่อาจเค้นหาตัวผู้ต้องสงสัยได้เลย แม้จะคุ้นเคยกับการก่อเหตุของชายคนนี้แค่ไหน
ทางการทำได้เพียงคว้าน้ำเหลวเท่านั้น
ถึงเจ้าหน้าที่เช็กวงจรปิดและสอบสวนพยานจนรู้ว่า โจรคนนี้จะแต่งหน้าเข้มๆ เหมือนนักแสดงละครเวที มีสไตล์ของตัวเองทุกครั้งที่ก่อเหตุ จนเอฟบีไอเริ่มเปลี่ยนชื่อจาก จอมโจรนักว้าก เป็น ‘ไอ้ดาราดังฮอลลีวูด’ ซึ่งพอรู้ไปถึงหูสื่อ ก็นำไปสู่การตั้งชื่ออาชญากรคนนี้ว่า ‘จอมโจรฮอลลีวูด’ ทันที
เอฟบีไอตรวจสอบรูปแบบการปล้นแล้วดูจำนวนเงินที่ได้ไป คาดว่าจอมโจรฮอลลีวูดน่าจะใช้เงินอยู่ประมาณเดือนละ 2 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ หากเขาใช้หมดเมื่อไรก็จะออกมาอาละวาดก่อเหตุอีกครั้ง แต่กระนั้น แม้วางกำลังซุ่มดูก็ไม่มีใครจับตัวเขาได้ รู้อีกทีก็สายไปเสียแล้ว
ธนาคารโดนปล้นเรียบร้อย
แม้สมาคมธนาคารแห่งรัฐวอชิงตันเสนอรางวัลนำจับ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ สำหรับเบาะแส แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ทางการไม่รู้ว่าชายคนนี้ชื่ออะไร คือใคร ก่อเหตุไปทำไม และหนีรอดได้อย่างไร
แต่เจ้าหน้าที่ก็หวังว่า สักวันชายคนนี้จะพลาดด้วยความย่ามใจ หรือเพราะอยากได้เงินมากขึ้น และจะทำให้ตำรวจอาจจับเขาได้สักที
ดังสัจธรรมระหว่างเจ้าหน้าที่กับอาชญากร ฝ่ายหนึ่งทำงานพลาดได้ทุกเวลา แต่ขอทำงานได้สมบูรณ์แค่ครั้งเดียวก็ปิดงานได้
ขณะที่อีกฝ่ายต้องทำงานอย่างเนี้ยบทุกครา หากพลาดในวันไหน ก็อาจโดนจับได้
ความจริงตรงนี้ ฉายภาพจอมโจรฮอลลีวูดได้เป็นอย่างดี
เพราะพอถึงเวลา 17.41 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 1996
หรือ 4 ปี 5 เดือน 3 วัน หลังจากการก่อเหตุครั้งแรก
ในที่สุด มันก็มาถึง
วันที่จอมโจรฮอลลีวูดพลาดท่าจนได้
3.
การปล้นธนาคารในวันนั้นใช้เวลาแค่ 4 นาที ผู้ก่อเหตุสั่งให้ทุกคนหมอบ อย่าลุกออกมา ครั้งนี้กวาดเงินไป 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่แล้วเขาก็ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้น เพราะขณะเดินออกมาจะขึ้นรถ คนร้ายไม่ได้สังเกตเห็นว่า มีลูกค้าของธนาคารคนหนึ่งไม่ยอมนอนนิ่งกับพื้น แต่วิ่งออกมาทันแล้วเห็นรถตู้คันหนึ่งขับออกไป จึงรีบแจ้งตำรวจและบอกรูปลักษณ์ยานพาหนะทันที
ความกล้าของพลเมืองดีคนนี้ คาดว่าอาจเป็นเพราะจอมโจรฮอลลีวูดไม่เคยยิงหรือทำร้ายใครขณะลงมือ เมื่อสื่อทำข่าวเจาะลึกประเด็นนี้จึงทำให้มีคนกล้า อยากท้าทายคำตะคอกของอาชญากร และนำไปสู่เบาะแสสำคัญในรอบหลายปีเลยทีเดียว
เจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมพร้อมและรอคอยจอมโจรฮอลลีวูดมายาวนาน พลันได้รับเบาะแสก็รีบนำกำลังออกมาล่าทันที แต่ด้วยสภาพอากาศในวันนั้นที่มีลมแรง ฝนตกหนัก แถมการจราจรติดขัด สายตรวจจึงขับรถไปผิดทิศทาง ขณะที่คนร้ายก็เปลี่ยนพาหนะหลบหนีเป็นรถตู้อีกคันเรียบร้อยแล้ว
แต่ดูเหมือนฟ้าดินจะเป็นใจ เพราะแม้ทางการจะมั่วซั่วแค่ไหน แต่อยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่ก็เจอรถตู้ของจอมโจรฮอลลีวูดแบบพอดิบพอดี
ทั้งนี้ตำรวจได้รับแจ้งให้มองหารถตู้อยู่ก่อนแล้ว จึงสงสัยรถลักษณะนี้ทุกคัน เป็นความผิดพลาดที่ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนรถตู้มาใช้รถตู้อีกคัน แทนที่จะใช้รถแบบอื่น คาดว่าเพราะความย่ามใจ จึงตัดสินใจพลาดอย่างนี้
ทางการเห็นรถตู้จึงแจ้งวิทยุสื่อสารเพื่อขอตรวจสอบ ขณะนั้นพวกเขาสังเกตเห็นไฟฉายส่องที่หลังรถ ซึ่งเป็นจังหวะที่ทีมงานของจอมโจรฮอลลีวูดกำลังค้นอุปกรณ์ติดตามจากธนบัตรที่ปล้นมา
จุดนี้เองยิ่งทำให้ตำรวจเห็นว่ารถคันนี้มีพิรุธ จึงสั่งให้หยุด และนั่นจึงนำไปสู่เหตุการณ์ระทึกในรอบหลายปีของจอมโจรฮอลลีวูด เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขาลั่นไกสาดกระสุนออกมา เพื่อเปิดทางหนี
พอเจอดังนั้นทางการจึงรีบถอยร่น ตั้งหลัก ก่อนยิงตอบโต้อย่างดุเดือดเลือดพล่าน แม้รถตู้ของคนร้ายขับเข้าไปในย่านชุมชน แต่ตำรวจก็ไม่ล่าถอย ยังระดมกำลังขับตามแบบระทึกขวัญ โดยมีเสียงปืนดังตอบโต้มา พร้อมกับห่ากระสุนของตำรวจสวนกลับไป จนรถไปจอดแน่นิ่งหน้าบ้านหลังหนึ่ง
เจ้าหน้าที่บุกเข้าเปิดประตูรถ พบชาย 2 รายถูกยิงบาดเจ็บ โดยยึดอาวุธสงคราม อุปกรณ์ดักฟังวิทยุตำรวจ พร้อมเงินสดนับล้านที่ได้จากการปล้น
เมื่อคุยกับ 2 คนร้ายที่มีแผลฉกรรจ์จากคมกระสุนตำรวจ พวกเขาก็รู้แล้วว่า จอมโจรฮอลลีวูดเป็นใคร กินเวลาไม่นานชื่อนามสกุลจริงของาอาชญากรที่เอฟบีไอตามหามากว่า 4 ปีก็ปรากฏขึ้น
หลังจากมีการให้ข้อมูลแก่สื่อ ในที่สุดทุกคนก็รู้แล้วว่า โจรปล้นธนาคารมือฉมัง มีนามเรียกขานว่า
วิลเลียม สก็อตต์ สเคอร์ล็อก (William Scott Scurlock)
4.
วิลเลียมเกิดในครอบครัวเคร่งศาสนา เขามีพี่สาว 2 คน และน้องสาว 1 คน พ่อเป็นบาทหลวง ส่วนแม่เป็นครู ทั้งสองละเลยเด็กหนุ่มคนนี้ จนขาดการอบรมสั่งสอน แยกสิ่งที่ผิดกับถูกไม่ออก เพราะไม่ได้รับการเอาใจใส่ตั้งแต่วัยเยาว์
แม้วิลเลียมมีเสน่ห์ หน้าตาดี แต่เขาไม่เคยถูกฝึกให้มีความรับผิดชอบใดๆ เลย เมื่อโตเป็นวัยรุ่น เขาก็ย้ายไปฮาวาย และแอบปลูกกัญชาในไร่เจ้านายจนโดนไล่ออก หันเหไปเรียนวิทยาลัย เพื่อเรียนรู้วิธีทำยาบ้า จนมีเงินซื้อที่ดินและปลูกบ้านต้นไม้สุดงดงาม ที่ทำเอาหลายคนหลงใหลและอยากย้ายมาอยู่ด้วย
อย่างไรก็ดี ในปี 1990 สายส่งของวิลเลียมโดนยิงตาย นั่นทำให้ชายหนุ่มเข้าใจในโลกแห่งยาเสพติดว่ามันอันตรายแค่ไหน จึงวางมือจากยาเสพติด หาอาชีพอื่นทำ และเพราะตัวเขาไม่เคยทำงานจริงจังแบบถูกกฎหมายสักครั้ง เมื่อเงินจากธุรกิจยาอยู่ได้อีกแค่ 1 ปี วิลเลียมก็เริ่มสนใจในการปล้นธนาคาร ซึ่งชายหนุ่มเล็งเห็นว่า เป็นอาชีพที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มรูปงามเห็นว่า มันเป็นการผจญภัย ลงทุนไม่มาก ได้ผลตอบแทนสูง จึงจูงใจเพื่อนที่เคยค้ายาให้มาร่วมกันออกปล้นแทน
เมื่อครั้งแรกประสบความสำเร็จ ครั้งต่อมาก็ให้ผลเยี่ยมยอด จึงนำไปสู่การปล้นอีกหลายครั้งด้วยกัน
และนั่นกรุยทางให้วิลเลียมกลายเป็นจอมโจรฮอลลีวูด ที่ก่อเหตุปล้นธนาคารไป 17 แห่ง กวาดเงินไปถึง 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนจะถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 1996 วิลเลียมลอยนวลจากเงื้อมมือกฎหมาย แบบไม่มีใครจับกุมตัวได้
แต่สุดท้ายเวลาของเขาก็มาถึงจุดจบ
จนได้
5.
แม้วิลเลียมจะหนีออกจากรถตู้ได้หวุดหวิด แต่เจ้าหน้าที่ก็วางกำลังปิดเมืองล่าอย่างเข้มข้น ทางการเคาะประตูตามบ้าน เพราะหวั่นเกรงว่าจอมโจรฮอลลีวูดจะบุกเข้าไปในบ้านแล้วจับคนเป็นตัวประกัน แต่ชายที่ปล้นธนาคารโดยไม่ทำร้ายใครไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน
ตลอดทั้งคืนวันที่ 27 พฤศจิกายน 1996 ท่ามกลางลมแรง เจ้าหน้าที่ไม่พบตัววิลเลียมเลย จนกระทั่งเวลาบ่าย 2 ของอีกวัน มีพยานแจ้งว่า ที่กระท่อมเล็กๆ หลังบ้านของเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรถตู้คนร้าย มีความผิดปกติขึ้น
กล่าวคือทุกครั้งกลอนประตูของกระท่อมจะมีสายยูล็อกอยู่ข้างนอก บัดนี้กลับหลุดออก และประตูล็อกกลอนจากข้างในแทน นั่นหมายความว่ามีคนอยู่ข้างในนั้น เมื่อพลเมืองดีแอบดูที่หน้าต่าง ก็เห็นชายรูปร่างเหมือนวิลเลียมนอนหลับอยู่
พยานจึงรีบแจ้งตำรวจทันที ภายในไม่กี่นาทีเจ้าหน้าที่ก็เข้าล้อมกระท่อมนี้ไว้ แม้จะมีความพยายามงัดประตู แต่ทางการก็ล่าถอยเพราะมีเสียงปืนดังขึ้น นั่นทำให้ต้องสาดกระสุนหลวงเข้าไปในนั้นถึง 30 นัดด้วยกัน
เจ้าหน้าที่วางแนวป้องกันหลายชั้น เพื่อไม่ให้จอมโจรฮอลลีวูดหลุดรอดไปได้อีก ทีมเจรจาของเอฟบีไอถูกพาตัวเข้ามา แต่ชายที่อยู่ในนั้นก็ไม่จำนนมอบตัว ในที่สุดพอถึงเวลา 6 โมงเย็น เจ้าหน้าที่ก็ยิงแก๊สน้ำตาเข้าไป แล้วก็รอ แต่เมื่อไม่มีการออกมามอบตัว ก็เลยสาดกระสุนไปอีกชุด
จนกระทั่งเวลา 1 ทุ่ม 40 นาที ชุดปฏิบัติการจึงบุกเข้าไปภายในกระท่อม
ก่อนจะพบร่างวิลเลียมนอนนิ่งไร้ลมหายใจ โดยถือปืนขนาด 9 มม.ไว้ข้างตัว
สุดท้ายจอมโจรฮอลลีวูดก็เลือกจะจบชีวิตด้วยวิธีการยิงตัวตาย ไม่ยอมโดนตำรวจจับเป็น
ปิดฉากการล่าระทึก และลอยนวลมายาวนานหลายปี
6.
จากการชันสูตรพบว่า วิลเลียมโดนกระสุนตำรวจเข้าหลายนัด แต่ไม่ถึงกับสาหัส แผลปลิดชีพ จึงเกิดจากการลั่นไกเข้าที่หัวด้วยตัวเอง
ความตายของจอมโจรฮอลลีวูดสร้างความเสียดายให้กับทางการมาก เพราะพวกเขาอยากจับเป็นอาชญากรสมองเพชรนี้ให้ได้ เอฟบีไอก็อยากจะสอบปากคำ หามูลเหตุแรงจูงใจ และอยากรู้ว่าเขาใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ทำไมถึงลอยนวลได้ขนาดนั้น แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว
เมื่อข่าวการเสียชีวิตของวิลเลียมปรากฏออกไป เพื่อนๆ ที่รู้จักโดยเฉพาะนิวแมนต่างถึงกับช็อก เพราะไม่คิดว่าจุดจบจะลงเอยเป็นโศกนาฏกรรมแบบนี้
และดังที่บอกไว้ในตอนแรกว่า หากนิวแมนตัดสินใจคบหากับวิลเลียม บางทีเหตุการณ์นี้อาจไม่จบลง ณ กระท่อมเล็กๆ ก็เป็นได้
แต่อย่างที่บอก อดีตไม่มีคำว่าถ้า และสายน้ำมิเคยไหลย้อนกลับ นิวแมนจึงพานพบกับวิลเลียมและผ่านพ้นไปแบบไม่หวนกลับคืน
กว่าจะรู้อะไรทุกอย่างก็จบสิ้นลงตามลมหายใจของจอมโจรฮอลลีวูดเรียบร้อยแล้ว ส่วนบ้านต้นไม้อันใหญ่โต พอไร้คนดูแลก็เสื่อมโทรมพังลงมาในระยะเวลาแค่ 1 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ นิวแมนไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อถึงความรู้สึกหลังการเสียชีวิตของวิลเลียมเลย แต่หากเธออยากจะพูดหรือเผยความในใจ มันคงจะใกล้เคียงกับคำให้สัมภาษณ์ของญาติจอมโจรฮอลลีวูด ที่บอกกับนักข่าวหลังเกิดเรื่องใหม่ๆ ซึ่งเชื่อได้ว่า ทนายความสาวน่าจะมีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า
“เขาเป็นคนสุภาพ รักสงบ ดังนั้นจึงทุกคนจึงงงว่า ทำไมชายคนนี้ถึงเดินเข้าสู่โลกแห่งอาชญากร
“นี่จึงเป็นคำถามที่ไม่เคยมีใครเข้าใจและตอบมันได้เลย”
Tags: ปล้นธนาคาร, โจรกรรม, จอมโจรฮอลลีวูด, อาชญากรรม, Haunted History