สมาคมนักข่าวฯ ขอ บก.-ต้นสังกัด กำกับนักข่าวให้อยู่ในกรอบจริยธรรม แต่ยืนยันเป็นห่วง ‘เสรีภาพ’ สื่อ

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์​ 2567) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ กรณีนักข่าวสำนักข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาตอนหนึ่งว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยรับทราบและติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานกับสำนักข่าวประชาไทต้นสังกัดของนักข่าวดังกล่าว เพื่อยืนยันความชัดเจนว่าเป็นการปฏิบัติงานข่าวจริงตามที่บรรณาธิการต้นสังกัดรับรองให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันก็มีการประชุมหารือกับกรรมการสมาคมฯ นับตั้งแต่นักข่าวและช่างภาพถูกจับกุม

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ขอแสดงความกังวลถึงการตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมสนับสนุนการกระทำผิดในคดีอาญา” เป็นการบั่นทอนต่อสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าวทั้งในเหตุการณ์ที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบต่อสังคม ทำให้โอกาสในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการยุติธรรมจะมีความชัดเจนกับสังคม และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่

“นอกจากนี้ ในโอกาสของการพิสูจน์ในข้อกล่าวหาดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีท่าทีหลบหนีการต่อสู้คดีในชั้นศาล เพื่อความเป็นธรรม สมาคมนักข่าวฯ เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาสมควรจะได้รับสิทธิ และขอความกรุณาในชั้นศาล ในการพิจารณารับการประกันตัวชั่วคราว เพื่อออกมาสู้คดีแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ตามหลักของกระบวนการยุติธรรม และเพื่อพิสูจน์ว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการทำหน้าที่สื่อมวลชนภายใต้กรอบจริยธรรม หรือเป็นพฤติการณ์อื่นๆ ต่อไป”

แถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ยังระบุด้วยว่า หากสื่อมวลชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจภายใต้กรอบกฎหมาย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ มีช่องทางในการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายโดยเฉพาะด้านความช่วยเหลือในการจัดหาทนายความต่อสู้คดีตามกรอบความร่วมมือข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับสภาทนายความ 

อย่างไรก็ตาม ในวรรคสุดท้ายของแถลงการณ์ สมาคมนักข่าวฯ เรียกร้องให้กำกับดูแลภายในองค์กรของสื่อมวลชนให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานในกรอบจริยธรรมอย่างเคร่งครัด

“สุดท้ายขอเรียกร้องให้บรรณาธิการและต้นสังกัด กำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานข่าวทำงานอยู่ในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ กฎหมาย ยึดหลักการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน นำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน นำเสนอข่าวสารด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนรวมถึงสังคม ในการปกป้องสื่อมวลชนของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ว่านิ่งเฉย การดำเนินงานเป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งที่สื่อมวลชนถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพอย่างชัดเจน