Sound Healing การบำบัดด้วยเสียงที่สงบถึงหัวใจ สร้างพื้นที่ปลอดภัยในหัวใจที่ใครๆ ก็ทำได้

‘วึ่งๆ….วิ้ง…’

เสียงของขันหิมาลายัน (Himalayan Singing Bowls) ก้องกังวานในพื้นที่ Urban Healing Space สตูดิโอใจกลางกรุงเทพฯ ของ รัฐกานต์ หาเรือนกิจ อดีตพนักงานที่ทุ่มเทจนตัวเป็นเกลียวไม่มีแม้กระทั่งวันหยุด มอบชีวิตให้งานจนเกิดความเครียดสะสมในร่างกายมากจนเกินไป จนกระทั่งวันหนึ่งประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน ตั้งแต่นั้นเธอจึงค้นพบว่า การทำงานที่หนักเกินไปและหวังว่า งาน สังคม และเงินจะเติมเต็มความสุขข้างในได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง ขณะเดียวกันเธอก็ยังเรียนรู้อีกว่า หากข้างในตัวเองไม่เป็นสุข ย่อมไม่สามารถโอบอุ้มผู้คนรอบข้างได้ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และเริ่มหาวิธีเยียวยาบาดแผลทางร่างกายและจิตใจ จนสามารถกลับมารักและดูแลตัวเอง และพลิกบทบาทสู่การเป็นนักบำบัดความสุขมืออาชีพ

รัฐกานต์จึงเปลี่ยนห้องแถวชั้น 5 บนถนนสุขุมวิทให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยของใครหลายคน ด้วยการใช้เสียงในรูปแบบต่างๆ เพื่อเปลี่ยนจากความเครียดสู่โลกแห่งความสงบ หลีกหนีจากความวุ่นวาย สร้างความสุขจากภายในร่างกายด้วยเสียงที่แตกต่างกันออกไป

‘เมื่อความเครียดเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้’

ความเครียดเกิดจากการทำงานของสมองที่ทำให้เราต้องนึกถึงหรือกังวลในบางสิ่ง เพื่อกระตุ้นปฏิกริยาทั้งทางร่างกายและสมอง ให้หลั่งสารเคมีมากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์รอบข้างที่กำลังเกิดขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การทำงานเพื่อต่อสู้กับเดดไลน์ส่งงาน ยิ่งใกล้เวลาส่งงานสมองยิ่งพรั่งพรูความคิดจนสามารถทำงานจบได้ หรือ อาจเป็นความกังวลที่เกิดขึ้นกับงานจนต้องทำทุกสิ่งให้เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วก่อนถึงวันส่งมอบงาน เป็นต้น

แน่นอนว่าเมื่อมีข้อดี ย่อมมีข้อเสียเช่นกัน หากความเครียดสะสมในปริมาณมากเกินไป ย่อมส่งผลให้สมองและร่างกายต้องทำงานอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ร่างกายเกิดความบอบช้ำ ซ้ำร้ายยังเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นอนไม่หลับ โรคหัวใจมีมากขึ้น ความดันโลหิตสูง หรือแม้กระทั่งโรคซึมเศร้า

ทั้งนี้ ยิ่งใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ การเผชิญหน้าความเครียดยิ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หากใครขับรถไปทำงานในช่วงเช้าเร่งรีบที่แสนวุ่นวายคงรู้ดีว่า การขับรถในเมืองใหญ่ไม่ต่างจากการผจญภัยเลยทีเดียว

ดังนั้นหลายคนที่มักเผชิญความเครียดอยู่เสมอ จึงต้องมีวิธีเยียวยาจิตใจในรูปแบบที่ต่างกันออกไป เช่น หลายคนใช้การออกกำลังกาย บ้างก็ออกไปร้องเพลงสังสรรค์เจอเพื่อนฝูง หรือบางคนอาจชอบการอยู่กับธรรมชาติ ป่า เขาทะเล หลายคนต่างหาพื้นที่ปลอดภัย (Safe Space) ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเยียวยาร่างกายและจิตใจ อีกทั้งเติมเต็มความสุข

Urban Healing Space พื้นที่สตูดิโอใจกลางกรุงเทพฯ ที่ขอเป็นพื้นที่ปลอดภัย ดูแลร่างกายและจิตใจด้วยเสียงอันแสนสงบพร้อมการดูแลจากนักบำบัดความสุขมืออาชีพ

การบำบัดด้วยเสียงและคลื่นเสียง (Sound Healing)

การทำบำบัดด้วยเสียงและคลื่นเสียง นั้นเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้เกิดเสียง (Sound vibration) ในคลื่นและย่านความถี่ที่แตกต่างกันด้วยเครื่องกำเนิดอุปกรณ์เสียง อาทิ ขันหิมาลายัน คริสตัลโบวล์ กลอง หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้เกิดเสียงและคลื่นสั่นสะเทือนเข้าไปกระทบกับร่างกาย ช่วยให้เกิดความสงบ ผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ระบบไร้ท่อ และเป็นการนวดเบาๆ ด้วยคลื่นเสียงที่เข้าไปกระทบกับร่างกาย

ในแต่ละการบำบัดจะใช้เครื่องกำเนิดเสียงที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากแต่ละคนต่างมีความเครียดและต้องการการบำบัดในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยบางคนอาจต้องการให้กระตุ้นภาวะสมาธิ ด้วยการใช้คลื่นแบบ Beta (การสั่นสะเทือนในช่วงความถี่ 13-30 HZ) ซึ่งเป็นคลื่นที่ทำให้มีสมาธิจดจ่อมากขึ้น หรือบางคนต้องการบำบัดในการลดความเครียดสะสม ด้วยการใช้คลื่นที่มีความถี่สูงขึ้นในระดับ Theta (การสั่นสะเทือนอยู่ที่ 4-8 Hz) เพื่อเข้าสู่สภาวะที่ลึกขึ้น ผ่อนคลาย สบายตัว และลดความตึงเครียดจากร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน

Urban Healing Space การเยียวร่างกายที่ส่งผลถึงหัวใจ

เสียงจากเครื่องกำเนิดเสียงชนิดต่างๆ ขับกล่อมบรรเลงออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ประสานกันเป็นท่วงทำนองที่ทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย ยึดหน่วงจิตใจที่รู้สึกสงบไม่ให้ฟุ่งซ่าน สมาธิอยู่กับตัวเอง เพียงชั่วขณะเดียว 1 ชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

Urban Healing Space เน้นการทำกิจกรรมเยียวยาผ่านศาสตร์การบำบัดโดยใช้เสียง ทั้งการนำขันหิมาลายันมาตีให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเพื่อดูว่าส่วนใดของร่างกายเริ่มมีปัญหาก็จะส่งสัญญาณเตือนเบาๆ กลับมา อีกทั้งยังมีการนอนปิดตาทำสมาธิจาการฟังเสียงต่างๆ ให้ได้รับรู้ถึงภาวะจิตใจของตนเอง และรับรู้ได้ถึงการเยียวยาจากภายใน เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ ความคิด ดังนั้นหากพูดว่าเป็นการเยียวยาทางร่างกายแต่ส่งผลถึงหัวใจก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีการบำบัดด้วย เรกิ (Reiki) การนำคลื่นความถี่สูงมาบำบัดและปรับกับใช้กับร่างกายเพื่อให้จิตใจเข้าสู่สภาวะสมดุล ทั้งทางอารมณ์ ความคิด และขับความรู้สึกด้านลบออกจากจิตใจ โดยเหมาะสมกับผู้ที่เผชิญความเครียดเป็นประจำ และโยคะ (Yoga) เป็นการเข้าถึงอารมณ์ตัวเองผ่านท่าทางและการทำสมาธิแบบโยคะและการกำหนดลมหายใจ เพื่อทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกัน

หัวใจหลักของการเยียวยาคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในหัวใจที่ใครๆ ก็ทำได้

ความคาดหวังของสตูดิโอแห่งนี้คือ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับทุกคน เน้นการเข้าถึงจิตใจ และจิตวิญญาณที่แท้จริงเพื่อให้ทุกคนเติบโตไปเจอตัวตนที่ปลอดภัย และก้าวข้ามความเครียดในรูปแบบต่างๆ

“อย่างน้อยๆ ตั้งใจว่า เราจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและมอบความรู้ไปไกลกว่าคำว่า การรู้สึกดี คือ การเปลี่ยนแปลง แต่ต้องส่งมอบความรู้สึกที่ดีต่อตัวเองและให้ผู้อื่นเช่นกัน”

“อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า Evervyone is a healer เราคือผู้เยียวยาหัวใจตัวเองที่ดีที่สุด เน้นความเข้าใจตัวเองจากภายในและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน”