ภาพลักษณ์ในสายตาของคนนอกต่อนักดนตรีร็อก หลายคนนึกถึง ‘เหล้า เบียร์ และบุหรี่’ ที่ดูจะเป็นสิ่งของประดับกาย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากีต้าร์ เบส ไมค์ หรือไม้กลองของกลุ่มนักดนตรีแนวนี้ จนบรรดาผู้ปกครองต้องคอยให้คำแนะนำแก่บุตรหลานไม่ให้คล้อยตาม และริอาจลองก่อนวัยอันควร

เช่นเดียวกับ เมทัลลิกา (Metallica) วงเฮฟวีเมทัลระดับพระกาฬ ที่ถูกแฟนเพลงหูเหล็กโจษจันว่าเป็นพวกเมาหัวราน้ำไม่เว้นวัน ดั่งคติประจำใจของพวกเขาคือ ‘ครอบครองโลกและดื่มเหล้าแม่งให้หมด’ หรือจะเป็นฉายาแสลงที่ถูกสื่อบันเทิงตั้งให้ว่า ‘Alcoholica’ ซึ่งเหล่านี้หากมองโดยผิวเผินอาจดูเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีหลายคนที่รู้สึกเอือมระอากับพฤติกรรมเพี้ยนหลุดโลก เพราะยามแอลกอฮอล์เข้าปากสมาชิกวงนี้เมื่อใด ก็มักวีรกรรมสุดห่ามมักตามมา ทั้งแก้ผ้า สบถถ้อยคำหยาบคาย หรือทำลายเฟอนิเจอร์โรงแรมที่ไปพักขณะออกทัวร์คอนเสิร์ต

“เราดื่มกันตั้งแต่ตื่นนอน พอหลังเลิกงานเราจะมีเวลาดื่มต่ออีก 8-9 ชั่วโมง ตอนนั้นเราแทบไม่เคยตื่นมาทันพบแสงตะวัน…เคยมีคนถ่ายรูปพวกเราถอดกางเกงโชว์ของลับได้ ขณะยืนอยู่บนอัฒจันทร์ชั้นบนสุดของสนามแทมปาสเตเดียม” ลาร์ส อุลริช (Lars Ulrich) มือกลองสมาชิกวง ย้อนความหลังถึงวีรกรรมแสบสันของวงเมทัลลิกาช่วงวัยโจ๋ ที่กำลังออกทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงร็อกรุ่นพี่อย่างแวน ฮาเลน (Van Halen) ณ เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ปี 1988 

การดื่มแอลกอฮอล์กันอย่างหนักหน่วง ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบันเทิงเพียงเท่านั้น ในยามที่หัวใจสลายแอลกอฮอล์ก็ได้เป็นพึ่งเช่นกัน เพราะในปี 1986 วงเมทัลลิกาได้กลายเป็นปีศาจสุราเต็มตัวจากความเศร้า ที่ต้องสูญเสีย คลิฟฟ์ เบอร์ตัน (Cliff Burton) มือเบสรายที่ 2 ของวงไปจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน โดย เจมส์ เฮตฟิลด์ (James Hetfield) ฟรอนต์แมนวงเมทัลลิกา เผยว่านับเป็นช่วงเวลาเศร้าโศกที่สุดในชีวิต จนต้องหันพึ่งการดื่มสุราเพื่อปลอบประโลมใจ ก่อนที่ภายหลังเขาตัดสินใจเข้ารับบำบัดอาการติดเหล้า เป็นจุดแตกหักระหว่างวงเมทัลลิกาและเครื่องดื่มมึนเมาอย่างเป็นทางการ

เพราะต่อให้เป็นซูเปอร์สตาร์มีชื่อเสียงล้นฟ้า แต่พอนึกถึงพฤติกรรมในอดีตกลับทำให้อุลริชรู้สึกอับอาย พลางย้อนบ่นกับตนเองและเพื่อนๆ ว่า พวกเราทำกันไปทำไมวะ 

ดังนั้น ในการทำอัลบั้มใหม่ล่าสุดในปีนี้ ที่มีชื่อว่า ‘72 Seasons’ อุลริชจึงหันพึ่ง ‘ชาเอิร์ลเกรย์’ (Earl Grey Tea) เครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ซึ่งมือกลองเมทัลลิกายกให้เป็นเครื่องดื่มสำคัญที่เติมเชื้อไฟในการทำอัลบั้มชุดล่าสุดนี้ พร้อมตัดสินใจลาขาดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

“ในการทำอัลบั้มชุดใหม่มีหลายสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปตลอดหลายสิบปี โดยเฉพาะริฟฟ์กีต้าร์อานุภาพทำลายล้างแก้วหู แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ผมหันมาดื่มชาเอิร์ลเกรย์เป็นประจำ มันเป็นชาที่มีรสชาติดี มีกลิ่นหอมวานิลลาที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า ตอนนี้ข้างกายผมมักจะวางกาน้ำชาและถ้วยอยู่ไม่ห่าง จนเพื่อนร่วมวงแทบจะเป็นบ้าให้กับพลังงานที่ล้นเหลือของผมเลยล่ะ” อุลริชให้สัมภาษณ์กับสื่อด้วยรอยยิ้ม ขณะที่วงกำลังเดินสายโปรโมตอัลบั้ม 72 Seasons

ชาเอิร์ลเกรย์เป็นที่นิยมดื่มกันในแถบสหราชอาณาจักร มีส่วนผสมของใบชาดำและน้ำมันมันมะกรูด มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนไซม์ (Enzyme) ในกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยสมดุล ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) ทรงเปิดเผยว่า พระองค์ทรงเสวยชาเอิร์ลเกรย์ไม่ใส่นมหรือน้ำตาลทุกเช้า ถือเป็นเคล็ดลับที่ทำให้พระองค์มีพระชนม์ชีพยาวนานถึง 96 พรรษา

อย่างไรก็ดี อุลริชได้อธิบายต่อว่า ไม่ใช่สมาชิกทุกคนในวงที่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะในรายของเฮตฟิลด์ที่บำบัดอาการติดเหล้าจนหายขาด ได้ใช้ความเศร้าและความโกรธในจิตใจมาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงต่างๆ ในอัลบั้ม ทั้ง Screaming Suicide, Shadows Follow, You Must Burn! ฯลฯ

“พวกเรามีวิธีการจัดการความมืดมนในจิตใจต่างกันไป บ่อยครั้งปัญหาเข้ามารบกวนสมาธิการทำงาน แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น เราเลือกที่จะหันหน้าพูดคุยให้คำปรึกษาและปลอบประโลมกัน อย่างน้อยการสนทนาช่วยย้ำเตือนว่า คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว” 

นอกจากการดื่มชา มือกลองผู้ร่วมก่อตั้งเมทัลลิกายังมีกิจกรรมฟิตร่างกาย เข้ายิมทุกวี่วันดุจบ้านหลังที่สอง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทัวร์อัลบั้มใหม่ทั่วโลก ไม่ช้าเราคงจะได้เห็นสมาชิกวงเมทัลลิกาในวัยหลัก 60 ขวบ เฉิดฉายความสุดยอดบนเวทีไม่ต่างจากวัยหนุ่ม เพิ่มเติมคือ ‘ความเก๋า’ สมชื่ออัลบั้ม 72 Seasons ที่สื่อถึงจำนวนฤดูกาลที่พวกเขาผ่านร้อนผ่านหนาวกันมา

ที่มา

https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-65187540

https://headtopics.com/uk/the-secret-that-fuels-metallica-earl-grey-tea-37730805

https://www.metallica.com/blog/news/

Tags: , ,