ข่าวที่ดูจะเป็นที่ฮือฮาที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นจะหนีไม่พ้นกรณีคุณป้าตลาดล้อม หลังมีหญิงรายหนึ่งขับรถมาจอดทิ้งไว้หน้าบ้านเพื่อไปจับจ่ายซื้อของในตลาดบริเวณนั้น แม้จะมีป้ายห้ามจอดเขียนหราอยู่ แถมยังล็อคเกียร์ไว้ทำให้ขยับรถไม่ได้ เป็นเหตุให้คุณป้าน็อตหลุดคว้าขวานคว้าไม้มาทุบรถ
คงไม่มีคนดีๆ ที่ไหนอยู่ๆ ลุกขึ้นหยิบขวานมาทุบรถคนอื่น และก็คงไม่มีคนดีๆ ที่ไหนที่ให้กำลังใจหรือเข้าข้างคนที่ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น แต่ในกรณีคุณป้าตลาดล้อม กลับมีคนติดแฮชแท็ก #ทีมป้า มากมาย ถ้าไม่เพราะเห็นใจที่คุณป้าต้องเผชิญเหตุการณ์ทำนองนี้และความเดือดร้อนอื่นๆ จากตลาดที่รายล้อมบ้านมาร่วม 10 ปี ก็คงเป็นเพราะทุกคนคงต้องเคยหมดความอดทนกับเรื่องอะไรบางอย่างและเข้าใจดีว่า เรื่องแบบนี้มันห้ามไม่ได้จริงๆ
สัปดาห์นี้ เราจะไปดูกันว่าในภาษาอังกฤษมีสำนวนน่าสนใจอะไรบ้างที่ใช้บรรยายอาการสุดจะทน น็อตหลุด เม้งแตก แบบนี้บ้าง
The end of one’s tether
คำว่า tether หมายถึง เชือกที่ไว้ใช้ล่ามสัตว์ เช่น วัว ควาย เพื่อไม่ให้ไปไกลกว่าอาณาบริเวณที่กำหนด ถ้าสัตว์สักตัวหนึ่งจะพยายามหนีจนสุดความยาวเชือก ยอมให้คอถูกรั้งด้วยเชือกล่าม ก็คงเป็นเพราะอยู่ในสภาพที่จนตรอกหรือทนไม่ได้แล้วจริงๆ ดังนั้น สำนวนนี้จึงหมายถึง หมดความอดกลั้น ทนไม่ไหวแล้ว
ตัวอย่างเช่น This kind of incidents has happened one time too many, and they’ve reached the end of their tether. ก็จะแปลว่า เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก พอเกิดเหตุนี้ขึ้นอีก ป้าๆ จึงเหลืออดแล้ว ทั้งนี้ ถ้าเป็นฝั่งอเมริกัน ก็จะเรียกว่า the end of the rope แทน
ฟังเสียงคำว่า tether >>>
Drive someone over the edge
สำนวนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขับขี่แต่อย่างใด เพราะ drive ในที่นี้หมายถึง ผลัก ต้อน หรือ ไล่ ส่วน edge ในที่นี้ก็ไม่ใช่ขอบอะไรที่จับต้องได้จริง แต่เห็นภาพว่าเป็นเส้นขอบเขตของความปกติและสติสัมปชัญญะ อะไรที่พ้นเส้นขอบเขตนี้ออกไป ก็จะหมายถึง ขาดสติ คุมตนเองไม่ได้ ไม่มีความยั้งคิดอย่างคนปกติ ดังนั้น drive someone over the edge จึงหมายถึง บีบคั้นจนสติขาดผึง อะไรที่ไม่เคยคิดจะทำก็ลงมือทำได้
ตัวอย่างเช่น มธุสรที่ลงมือไล่ล่าคนที่ข่มขืนตนและลูก เพราะถูกกระทำจนได้ข้ามก้าวเส้นความผิดชอบชั่วดี ก็อาจจะพูดว่า Mathusorn was driven over the edge by the atrocities committed to her and her daughter. ทั้งนี้ หากจะพูดว่า push someone over the edge หรือ send someone over the edge ก็ได้เช่นกัน
Last straw
สำนวนนี้ในภาษาไทยก็คือ ฟางเส้นสุดท้าย นั่นเอง อันที่จริงแล้ว สำนวนนี้มาจากสุภาษิตที่ว่า the straw that breaks/broke the camel’s back แปลตรงตัวได้ว่า ฟางเส้นที่ทำให้อูฐหลังหัก ว่ากันว่ามีที่มาจากเรื่องเล่าของชาวอาหรับ ในเรื่องนี้มีชายคนหนึ่งใช้อูฐขนฟาง แต่อยากขนให้ได้มากที่สุดในคราวเดียว จึงพยายามสุมฟางขึ้นไปบนหลังอูฐให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอูฐแทบเดินไม่ไหวแล้ว แต่ชายคนนี้ก็ยังไม่พอใจ คิดว่าเติมฟางไปอีกหน่อยน่าจะยังไหว แต่พอเส้นฟางหย่อนลงถึงหลังอูฐเท่านั้น อูฐก็หลังหัก ทรุดลงไปนอนตายอยู่บนพื้น ทำให้ขนฟางไปไหนไม่ได้ แถมสัตว์ที่เป็นเครื่องมือทำกินยังตายอีก
สำนวนนี้ใช้หมายถึงอะไรก็ตามที่เป็นมาทำให้หมดความอดทนหลังจากอัดอั้นหรืออดกลั้นมานาน เช่น We were fine with working late every now and then. But when we knew that our boss was out on a date while we were all slaving away at the office, that was our last straw. ก็จะหมายถึงว่า ให้ทำงานดึกบ้างก็ไม่ว่าอะไร แต่พอรู้ว่าขณะที่เราทำงานหลังขดหลังแข็ง อีคุณเจ้านายของเราไปออกเดทอยู่ นั่นแหละฟางเส้นสุดท้าย ทั้งนี้ ถ้าไม่พูดว่า the last straw จะพูดว่า the final straw ก็ได้เช่นกัน
Breaking point
สำนวนนี้ให้ภาพสิ่งของที่โดนหักงอจนถึงจุดที่ของสิ่งนั้นต้านทานแรงไม่ไหวแล้วแตกหรือหักออกเป็นสองท่อน ดังนั้นพอมาใช้กับคน breaking point จึงหมายถึง ถึงจุดที่ทนไม่ได้แล้ว เหลืออดแล้ว จะไม่ทนอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น She reached her breaking point when she found out that her husband was cheating on her the entire time. ก็จะหมายถึง พอรู้เข้าว่าสามีนอกใจมาตลอด เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ทั้งนี้ถ้าไม่ใช้กับคน จะใช้กับสถานการณ์หรือความสัมพันธ์ก็ได้เช่นกัน หมายถึงว่า ถึงจุดปะทุ ต้านทานหรือรองรับไม่ไหวแล้ว เช่น Tensions between the two nations have reached breaking point. ก็จะหมายถึง ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมาถึงจุดแตกหักแล้ว
Lose it
คำว่า it ในสำนวน lose it นี้ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าหมายถึงอะไรกันแน่ แต่หากจะให้ใกล้เคียงก็คงเป็น temper ที่แปลว่า อารมณ์ หรือ mind ที่แปลว่า สติ ดังนั้น สำนวนนี้จึงหมายถึง คุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว ไม่ไหวแล้ว เป็นภาษาพูด ใช้ในบริบทไม่เป็นทางการ เช่น I tried to keep my cool, but when she started pointing her finger in my face, I lost it. ก็จะหมายถึง ฉันพยายามทำใจร่มๆ แล้ว แต่พอมันเริ่มชี้หน้าฉัน เลยเม้งแตกเลย
ทั้งนี้ ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ ใครโดนอย่างป้าเข้าไปก็คงจะ lose it ทั้งนั้น
Fact Box
ถ้าใครวางแผนจะหมดความอดทนเร็วๆ นี้ ขอแนะนำให้รู้จักคำพูดเหล่านี้ไว้ ได้แก่ That’s it! I’ve had it! และ I’ve had enough! เพราะทั้งหมดล้วนแปลว่า พอกันที ไม่ไหวแล้ว รับรองว่าเป็นประโยชน์แน่นอน