44 ล้านเหรียญสหรัฐ! (ประมาณ 1,580,040,000 บาท) เชื่อหรือไม่ว่านี่คือรายรับรวมตลอดทั้งปี 2016 ของบอยแบนด์เกาหลี ‘Bigbang’ (Bigbang) จากการเปิดเผยของ Forbes สำนักข่าวชื่อดังด้านธุรกิจและการเงิน
ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นรายรับที่มากกว่าทั้ง เซอร์ เอลตัน จอห์น (Sir Elton John) (42 ล้านเหรียญสหรัฐ), เคที เพอร์รี (Katy Perry) (41 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือแม้แต่เจ้าของเพลงฮิต Hotline Bling อย่างเดรก (Drake) (38.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ล่าสุดBigbangได้ปล่อยอัลบั้มเต็ม MADE ออกมาในวันที่ 12 ธันวาคม 2016 หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาห่างหายไปจากการทำผลงานเพลงถึง 3 ปี ทั้งยังทุบสถิติกวาดเรียบ 3 อันดับ 3 เพลงใหม่แบบ All-Kill ในชาร์ตเพลงเกาหลีที่เชื่อถือได้อย่าง iChart ทันทีที่อัลบั้มถูกปล่อยออกมาแค่ 2 วัน

กลุ่มศิลปินชาย 5 คนที่มีชื่อเรียกคล้ายปรากฏการณ์การกำเนิดของเอกภพเป็นใคร พวกเขากวาดรายได้มหาศาลแซงหน้าศิลปินโลกตะวันตกได้อย่างไร และเหตุใดแฟนเพลงเกาหลีทั่วโลกต่างยกย่องให้Bigbangเป็น ‘ฮันรยู’ (Hallyu-กระแสความนิยมวัฒนธรรมเกาหลี หรือเรียกสั้นๆ ว่า เกาหลีฟีเวอร์) ผู้ทรงอิทธิพลที่ยังคงมีลมหายใจ

The Momentum ขออาสาพาคุณไปสำรวจเรื่องราวของวงบอยแบนด์จากเกาหลีรายนี้ เพื่อค้นหาคำตอบของปรากฏการณ์ทั้งหมด

Photo: youtube

10 ปีที่แล้วของ YG กับระเบิดลูกแรกในวงการ K-POP

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 YG Entertainment ค่ายผู้ผลิตคอนเทนต์บันเทิงจากเกาหลีใต้นำโดย ยางฮยอนซอก (Yang Hyun-suk) ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้มีความคิดที่อยากจะฟอร์มวงฮิปฮอปขึ้นมาสักวงในชื่อ ‘Bigbang Project’ หลังจากที่ได้ปลุกปั้นศิลปินในสังกัดอย่าง ‘Se7en’ ให้โด่งดังมาแล้ว

เพื่อทำให้แฟนๆ และคนเกาหลีคุ้นเคยกับBigbangได้ภายในเวลาอันสั้น ยางฮยอนซอกจึงจัดทำรายการทีวีสารคดีแนวเรียลลิตี้ Bigbang Documentary จำนวน 11 ตอนออกมา โดยมีเป้าหมายเพื่อเฟ้นหาศิลปินรุ่นใหม่มาร่วมวง ขณะเดียวกันก็เป็นการแนะนำสมาชิกแต่ละคนให้แฟนเพลงทั้งหลายได้ทำความรู้จัก และร่วมลุ้นเอาใจช่วยพวกเขาให้ผ่านภารกิจการฝึกฝนที่หนักหน่วงไปในตัวอีกด้วย (แนวทางดังกล่าวยังถูกนำมาใช้กับศิลปินรุ่นใหม่ของค่ายอย่าง Winner และ iKon ในรายการเรียลลิตี้ WIN: Who Is Next)

ช่วงเวลาดังกล่าว Bigbang Project มีศิลปินฝึกหัดลูกหม้อมากความสามารถของ YG จำนวน 2 คนอย่าง จีดราก้อน-ควอนจียง (G-Dragon หรือ Kwon Ji Yong) และแทยัง-ดงยองเบ (Taeyang หรือ Dong Young-bae) เป็นตัวหลัก

ก่อนที่จะมีคนหนุ่มรุ่นใหม่ตบเท้าเข้าร่วมการคัดเลือกอีกจำนวน 4 คน ได้แก่ ท็อป-ชเวซึงฮยอน (T.O.P หรือ Choi Seung-hyun), แดซอง-คังแดซอง (Daesung หรือ Kang Dae-sung), ซึงรี-อีซึงฮยอน (Seungri หรือ Lee Seung-hyun) และฮยอนซึง-จางฮยอนซึง (Hyunseung หรือ Jang Hyun-seung ไม่ผ่านการคัดเลือก แต่ได้รับโอกาสในการออกผลงานศิลปินกลุ่ม Beast สังกัด Cube Entertainment แทน)

เดือนสิงหาคม ปีเดียวกันนี้ Bigbang ได้เดบิวต์เป็นครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ต The R.E.A.L ที่โอลิมปิกพาร์ก กรุงโซล ทั้งยังได้เปิดตัวอัลบั้มเพลงเต็มอัลบั้มแรกเมื่อเดือนธันวาคมกับ Big Bang Vol. 1 – Since 2007 ที่มีเพลงฮิตอย่าง La La La และ This Love (ซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาจาก Maroon 5 อีกที)

มีข้อมูลระบุเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2007 อัลบั้มแรกของพวกเขาก็สามารถขายได้มากกว่า 48,000 ก๊อปปี้!

นับเป็นก้าวแรกที่น่าจับตาของบอยแบนด์ฮิปฮอปสัญชาติเกาหลีรายนี้อย่างแท้จริง

Photo: wikimedia commons​

‘Lies คำโกหก’ ที่เปลี่ยนวงฮิปฮอปไปสู่วงดนตรีที่หลากหลายและเติบโตมากขึ้น

เข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2007 Bigbang ได้ปล่อยเพลงฮิตของตัวเองอย่าง Lies (Always:2007) และ Last Farewell (Hot Issue: 2007) ออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงอิเล็กโทรป๊อป-อาร์แอนด์บีอย่าง Lies ที่ได้รับความนิยมเป็นพลุแตก จนถึงขั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลของวง และทำให้ Bigbang โด่งดังอย่างฉุดไม่อยู่ ทั้งยังทลายกรอบที่เคยถูกจำกัดว่าเป็น ‘บอยแบนด์ฮิปฮอป’ ไปสู่ ‘บอยแบนด์ที่มีความหลากหลายทางดนตรี’

ปลายปีเดียวกันนี้ พวกเขายังได้จัดคอนเสิร์ตแรกอย่างเป็นทางการ Big Bang is Great ที่สนามกีฬาฟันดาบโอลิมปิก ซึ่ง Newsen สำนักข่าวในเกาหลียังรายงานอีกด้วยว่า บัตรคอนเสิร์ตของพวกเขาจำนวน 5,000 ที่นั่งถูกขายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 10 นาที!

ตัวตนความเป็น Bigbang ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังการปล่อยเพลงฮิตลำดับที่ 2 ตลอดกาล Day by Day (Stand Up:2008) ที่มียอดจำหน่ายแบบดิจิทัลดาวน์โหลดกว่า 5.4 ล้านครั้งออกมา (เฉพาะในเกาหลี นับจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2016)

2 ปีให้หลัง (2009-2010) Bigbang เริ่มหันไปให้ความสนใจการตีตลาด J-Pop ในญี่ปุ่นมากขึ้น หลังประสบความสำเร็จกับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในเมืองปลาดิบอย่าง Number 1 (2008) มาแล้ว กระทั่งถึงจุดพีกสุดขีดในปี 2010 ที่ได้รับรางวัลจากสื่อหลายสำนัก เช่น ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ Japan Gold Disc Awards และ MTV Video Music Awards Japan 2010 เป็นต้น

ช่วงเวลานี้เองที่พวกเขาเริ่มเฟดตัวออกจากวงการ K-Pop เรื่อยๆ แต่ก็ยังคงมีผลงานการโซโล่เดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนให้เห็นอยู่ประปราย เพื่อให้แฟนๆ ยังไม่ลืมพวกเขา

ปี 2011 พวกเขากลับมาออกผลงานบนแผ่นดินแม่อีกครั้ง หลังปล่อยให้แฟนๆ คิดถึงเป็นเวลานาน ด้วยมินิอัลบั้ม Tonight ที่มีเพลงชูโรงอย่าง Tonight และ Love Song มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า พวกเขากวาดรายได้ไปถึง 84.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการทัวร์คอนเสิร์ตทั้งในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีตลอดปีนี้

Bigbang กลับมาออกอัลบั้มอย่างเต็มรูปแบบกับ Alive ในปี 2012 ซึ่งเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของพวกเขา เมื่อตัวอัลบั้มมียอดขายกว่า 200,000 ก๊อปปี้ภายใน 1 เดือน มียอดดิจิทัลดาวน์โหลดทุกเพลงรวมกว่า 14.4 ล้านครั้ง (เฉพาะในเกาหลี นับจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2016)

Photo: yg entertainment

ทั้งยังผลักดันให้พวกเขาจัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกอย่าง Big Bang Alive Tour 2012 ใน 48 แห่งทั่วโลก ทั้งเกาหลี, อเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น,ไทย ฯลฯ และยังได้รับโอกาสในการร่วมงานกับนักออกแบบท่าเต้น (Choreographer) ระดับโลก ลอริแอนน์ กิบซัน (Laurieann Gibson) นักออกแบบท่าเต้นประจำของ Lady Gaga และ Nicky Minaj

ความสำเร็จในปี 2012 ทำให้ภาพลักษณ์ของพวกเขาเติบโตมากขึ้น จากบอยแบนด์ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นวงดนตรีที่มีความจัดจ้านทางด้านสไตล์และแนวเพลง ทุกเพลงในอัลบั้มได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะBlues, Bad Boy และ Fantastic Baby

ปี 2013 เป็นต้นมา พวกเขาพักการทำกิจกรรมแบบวง และหันไปทำกิจกรรมโซโล่เดี่ยวมากขึ้น และก็ได้รับความนิยมไม่แพ้การทำกิจกรรมแบบวงแต่อย่างใด

ก่อนที่ในปี 2015 Bigbang จะกลับมาทวงความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการปล่อยอัลบั้มซีรีส์ MADE ที่เปิดมิติใหม่ของการโปรโมตอัลบั้มศิลปินเกาหลีด้วยการปล่อยมินิอัลบั้ม 2 เพลงตลอด 4 เดือน (พฤษภาคม-สิงหาคม) พร้อมจัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 ของวง MADE World Tour กว่า 66 แห่งทั่วโลก ทำให้สิ้นปีนี้พวกเขามีรายได้มากกว่า 128 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากการเปิดเผยของ KpopStarz)

และล่าสุดในปี 2016 ถือเป็นช่วงเวลาครบรอบ 1 ทศวรรษในการยืนหยัดบนเส้นทางดนตรี K-Pop ที่ผ่านการเดินทางตรากตรำมาเป็นเวลานาน ก่อนที่จะปล่อยหนังสารคดี Bigbang Made: The Movie เมื่อเดือนมิถุนายน และปล่อยอัลบั้มเพลงเต็ม MADE เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทิ้งทวนก่อนที่สมาชิกในวงแต่ละคนจะเริ่มทยอยตบเท้าเข้าสู่กรมทหารรับใช้ชาติตามหน้าที่ของพลเมืองเกาหลีใต้

Photo: youtube​

พรสวรรค์ ความสามารถ และความสามัคคี 3 หัวใจหลักที่ทำให้เสน่ห์ของ Bigbang ไม่เคยเสื่อมคลาย

สิ่งหนึ่งที่ Bigbang แสดงให้เห็นตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีของพวกเขาในวงการเพลงคือ ศักยภาพ และความสามารถที่แท้จริง

ทุกอัลบั้มของวง สมาชิกทุกคนจะมีส่วนร่วมในขั้นตอนการทำเพลงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น การเขียนเนื้อร้องด้วยตนเอง การทำดนตรี และการเรียบเรียงบ้างในบางโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัลบั้มล่าสุด MADE (2016) ที่สมาชิกทั้ง 5 ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ประจำวงด้วยตัวเอง

จีดราก้อน (ควอนจียง) หัวหน้าวงเป็นคนหนึ่งที่แสดงออกให้เห็นถึงพรสวรรค์ทางดนตรีอยู่เป็นประจำ ด้วยการเริ่มต้นแต่งเพลงเองมาตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ และดำรงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของวงมาตั้งแต่ปี 2007 กับอัลบั้ม Always จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้สไตล์การแต่งตัวที่ล้ำนำเทรนด์ยังทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำทางแฟชั่นอยู่เสมอ ในปี 2015 และ 2016 The Business of Fashion ได้ยกให้จียงเป็น 1 ใน 500 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นโลก

ด้านสมาชิกคนอื่นๆ ก็ฉายแววเจิดจรัสไม่แพ้กัน เมื่อแทยัง (ดงยองเบ) เอาดีกับการออกผลงานโซโล่เดี่ยวจนได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก จากเสียงร้องอาร์แอนด์บีอันทรงเสน่ห์ และลีลาการเต้นสุดเท่ของเจ้าตัว

ท็อป (ชเวซึงฮยอน) ที่แม้เจ้าตัวจะยอมรับเองว่าไม่ค่อยถนัดกับการเต้นสักเท่าไหร่ แต่เขาก็แสดงออกให้เห็นถึงพรสวรรค์ด้านการแรป ด้วยการเขียนเนื้อเพลงท่อนแรปให้กับวง และผลงานการออกเพลงเดี่ยวของตัวเองอยู่เป็นประจำ

แดซอง (คังแดซอง) ก็ได้รับความชื่นชมถึงพลังเสียงในการร้องเพลง และความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์จากการร่วมออกรายการบันเทิงต่างๆ (โดยเฉพาะ Family Outing) รวมถึง ซึงรี (อีซึงฮยอน) ที่แม้จะโดนค่อนขอดเรื่องเสียงร้องในช่วงแรกๆ แต่ก็แสดงออกให้เห็นถึงความพยายาม และพัฒนาการที่ดีมาเสมอ

ครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้ร่วมงานกับ ลอริแอนน์ กิบซัน นักออกแบบท่าเต้นระดับโลกในคอนเสิร์ต Big Bang Alive Tour 2012 เธอได้ชื่นชมศิลปินจากเกาหลีวงนี้ว่าเป็นกลุ่มศิลปินคนหนุ่มที่มีความหลงใหลทางดนตรีและขยันกันมากๆ

“ฉันเคยร่วมงานกับศิลปินมามาก แต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอ Bigbang ฉันย่อมรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษและต่างออกไป จีดราก้อนและท็อปนั้นมีพรสวรรค์มาก ส่วนซึงรีแม้จะเด็กที่สุด แต่เขาก็แข็งแรง วลีความเป็นร็อกแอนด์โรลก็ดูจะเหมาะสมกับแดซองที่สุด ขณะที่แทยังเป็นคนหนึ่งที่ทำให้ฉันนึกถึง ไมเคิล แจ็กสัน”

Los Angeles Times หนังสือพิมพ์หัวใหญ่จากอเมริกาก็กล่าวยกย่องว่า Bigbang เป็นกลุ่มศิลปินที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดเพลง K-Pop ในอเมริกาอย่างแท้จริง ทั้งยังกล่าวชื่นชมคอนเสิร์ต MADE World Tour ของพวกเขาที่จัดขึ้นในอเมริกาว่า เป็นการยกระดับดนตรี K-Pop ให้ฉีกแนวกว่าที่เคยเป็น

แม้จะได้รับคำชื่นชมในทางบวกเยอะ แต่ก็ใช่ว่า Bigbang จะไม่เคยมีข่าวเสียหายเลย ตลอดระยะเวลา 10 ปีในวงการเพลง สมาชิกแต่ละคนต้องเผชิญปัญหาและคลื่นมรสุมที่โหมเข้าใส่อย่างท่วมท้น ทั้งกรณีการถูกกล่าวหาเรื่องลอกเลียนเพลง, กัญชา, อุบัติเหตุทางรถยนต์, ภาพหลุดบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงข่าวลือที่ว่า Bigbang แตกคอกัน

หากแต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น สมาชิกทั้งหลายกลับแปรเปลี่ยนเรื่องชวนผิดหวังให้กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทั้งยังทำให้พวกเขารักกันมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่ Bigbang จะตอบโต้เสียงวิจารณ์ทั้งหลายด้วยการอดทนก้มหน้าสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพให้แก่วงการ K-Pop มาโดยตลอด

ซึงรีเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Bigbang Comeback Show – ALIVE BIGBANG เมื่อปี 2012 ไว้ว่า “ด้วยความสัตย์จริง พวกเราทั้ง 5 คนไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งการโปรโมตเพลง Tonightเมื่อปีที่แล้วก็ตาม แต่ละคนต่างมีแพลนในการเดินหน้าสร้างผลงานของตัวเอง

“แต่หลังจากเกิดปัญหาและข่าวลือในทางลบ มันทำให้พวกเราได้รู้ว่า ‘Bigbang’ จะพังทลายได้เร็วขนาดไหน หลังจากนั้นพวกเรา 5 คนจึงกลับมารวมตัวกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้พวกเรากลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง”

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวงดนตรีจากเกาหลีวงนี้จึงประสบความสำเร็จ และยืนหยัดในวงการนี้มาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ด้วยความสามารถ พรสวรรค์ และความสามัคคี

แม้ล่าสุดการปล่อยอัลบั้มเต็ม MADE (2016) ออกมา จะดูน่าเศร้ากว่าครั้งไหนๆ เพราะสมาชิกแต่ละคนเริ่มจะเข้าสู่กรมทหารรับใช้ชาติในปีหน้าแล้ว ส่งผลให้เหล่า V.I.P (ชื่อแฟนคลับวง Bigbang) และแฟนเพลงทั้งหลายต้องคอยลุ้นรอการกลับมาอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบของสมาชิกทั้ง 5 คน ในอนาคตที่ยังเต็มไปด้วยความคลุมเครือ

1 ทศวรรษที่ผ่านมาของ Bigbang ย่อมพิสูจน์ให้ใครหลายคนได้เห็นแล้วว่า ‘ปรากฏการณ์ Bigbang’ มีอยู่จริง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทฤษฎีในตำราอย่างที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเคยอธิบายไว้

‘Last Dance might not Last Farewell’

การร่ายรำครั้งสุดท้ายอาจไม่ใช่การจากลาครั้งท้ายสุด

แล้วเจอกันใหม่เมื่อถึงเวลาอันสมควร

‘Bigbang’

Photo: youtube​

 

อ้างอิง:
– http://www.forbes.com/pictures/eeel45fhhei/23-bigbang-44-million/#2ff75e7f4f22
– http://www.newsen.com/news_view.php?uid=200711201110031002
– http://onehallyu.com/topic/3909-%E2%99%95-bigbang-sales-thread-161218-with-chinese-sale-124mln-digital-672mln-physical-73mln-tour-tickets-36bln-youtube-views-%E2%99%95
– http://www.kpopstarz.com/articles/262984/20151215/big-bang-2015.htm
– https://www.soompi.com/2012/03/04/bigbang-praised-by-famour-choreographer-laurieann-gibson
– https://en.wikipedia.org/wiki/Big_Bang_(South_Korean_band)
– https://en.wikipedia.org/wiki/Last_Dance_(Big_Bang_song)
– http://www.allkpop.com/article/2012/03/big-bangs-seungri-admits-the-members-didnt-get-along  

FACT BOX:

  • Last Dance 1 ใน 3 เพลงใหม่ของอัลบั้มเต็มล่าสุด MADE ที่ปล่อยออกมาในเดือนธันวาคม 2016 มีเนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ดีๆ ของวงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และการร่ำลาก่อนที่สมาชิกจะแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติ ซึ่งเนื้อร้องทั้งหมดเป็นผลงานการประพันธ์ของ 3 สมาชิกอย่าง จีดราก้อน, แทยัง และท็อป

       ช่วงท้ายของเพลงได้มีการใส่เสียงเชียร์ของแฟนเพลงลงไป เพื่อเติมเต็มอารมณ์ร่วมของเพลงและถ่ายทอดความรู้สึกของพวกเขาไปสู่แฟนๆ อีกด้วย

  • Last Farewell เพลงฮิตตลอดกาลในจังหวะสนุกๆ ของ Bigbang ที่ปล่อยออกมาในอัลบั้ม Hot Issue 2007
Tags: , ,