ชัชชาติเปิดตัว 18 นโยบาย เน้นเรื่อง ‘ผู้อยู่อาศัย’ ชี้ผู้ว่าฯ กทม. ต้องมาจากเลือกตั้งให้เร็วที่สุด

วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2565) ที่เดอะแจมแฟคทอรี เขตคลองสาน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในงานฉลองการปักหมุด ‘สภากาแฟ เพื่อนชัชชาติ’ ครบ 100 แห่ง เตรียมขยายสู่ 1,000 แห่งทั่วประเทศ ถึงกรณีที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศว่าจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ว่า ก่อนหน้านี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้เลือกตัวแทนของตัวเองเสียที ทั้งนี้ เพราะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีหลายเรื่องที่ต้องตัดสินใจ ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าบีทีเอส เรื่องโครงการลงทุนต่างๆ ที่มีภาระผูกพัน 

“เพราะการที่ไม่มีตัวตนที่แท้จริงที่ประชาชนเลือกมา แล้วไปตัดสินใจในนโยบายที่มีผลผูกพันในระยะยาว สุดท้ายแล้วใครจะรับผิดชอบ อันนี้คือสิ่งที่น่าสนใจ เพราะระบอบประชาธิปไตย สุดท้ายแล้วคนที่ประชาชนเลือกมา อย่างน้อยเขาก็ได้สิทธิ์มาจากประชาชนที่เป็นคนเลือก ผิดถูกก็เป็นบทเรียนสำหรับคนที่เลือกในอนาคต ถ้าเลือกผิด หนหน้าก็เลือกใหม่ แต่คนที่แต่งตั้งมา ไม่รู้จะเอาความรับผิดชอบจากใคร และไม่รู้ว่าใช้อำนาจอะไรในการพิจารณาโครงการใหญ่ๆ ที่มีผลกับประชาชน”

ชัชชาติยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งที่เขตหลักสี่และจตุจักรด้วยว่า กังวลที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อย เพียง 52% เท่านั้น ซึ่งหากคนที่ไม่ออกมาใช้สิทธิ์ เป็นผู้สนับสนุนใคร คนนั้นก็จะเสียเปรียบไป จึงอยากกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ออกมาเลือกตั้งให้มากขึ้น ส่วนผลการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยชนะนั้น เห็นว่าอาจไม่เกี่ยวกับ กทม. นัก เพราะเป็นเรื่องรายเขต และเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลด้วย

“แต่ก็ทำให้เห็นว่ามีคนได้คะแนนเกาะๆ ในหลายกลุ่ม ก็อาจจะแตก ก็สะท้อนว่าต้องทำให้เต็มที่ ไม่มีใครเป็นตัวเต็ง ต้องแข่งขันกันให้เต็มที่”

นอกจากนี้ ชัชชาติยังได้เปิดตัว 18 เรื่อง ในการแก้ปัญหา กทม. ซึ่งเป็นส่วนย่อจากนโยบาย 200-300 ข้อ อาทิ ฝุ่น หาบเร่แผงลอย, นโยบายสาธารณสุข, Mobility Open Data, การจัดการขยะ, ความสะอาด, การศึกษา, เศรษฐกิจ, ความปลอดภัย, ผังเมือง, การกระจายอำนาจ, น้ำเสีย, เศรษฐกิจ ฯลฯ

“ต้องบอกว่าที่ผ่านมา กทม. ไม่เคยพูดเรื่องเศรษฐกิจ กทม. ไม่เคยมีสำนักพัฒนาเศรษฐกิจ แต่เมืองอยู่ได้ด้วยเศรษฐกิจ กทม. มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เกิดเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้น บางทีย่านดีๆ ในคลองสานเยอะ เราจะทำเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างไร จะทำเรื่องเศรษฐกิจอย่างไร”

นอกจากนี้ ชัชชาติยังพูดเรื่องที่อยู่อาศัย โดยระบุว่าที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก พร้อมกับบอกว่า เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในทีมงานนโยบาย มีความตั้งใจทำงานเรื่องที่อยู่อาศัย และอยากแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยมาก

“เรื่องนี้ ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เด็กจบใหม่สามารถซื้อบ้านได้ เพราะบ้านคือพื้นฐานความภูมิใจในความเป็นเมือง เพราะเมื่อไรที่เราไม่มีบ้าน หรือเราต้องเช่าบ้าน เขาไม่มีกะใจที่จะไปพัฒนาเมืองหรอก เพราะมันไม่มีความมั่นคง

“เหมือนอย่างสิงคโปร์ สิ่งแรกที่เขาทำสองสิ่ง คือราชการกับที่อยู่อาศัย เขาปฏิรูปสองเรื่องนี้ก่อน ผมว่ามีหลายแสนคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย ต้องคิดว่าจะช่วยเขาอย่างไร”