วันนั้นแชนนอนบอกแม่ว่าเธอจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน แม่บอกลูกสาวอีกสองคนว่าพี่สาวจะมา เวลาว่างเธอชอบเปิดวีดีโอดูลูกสาวคนโตตอนยังเล็กประกวดร้องเพลง แม่ทำงานสองจ๊อบทั้งคนงานก่อสร้างและสาวเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อหาเลี้ยงลูกสองคน รวมกับเงินที่แชนนอนหาเข้าบ้าน เงินที่เอาจริงๆ แม่ก็รู้ว่าเธอไปทำอะไรถึงได้เงินมา
วันนั้นเธอไม่กลับมากินข้าวเย็น แม่รู้สึกเหมือนโดนลูกสาวหักหลัง เช้าวันต่อมา มีโทรศัพท์ประหลาดมาถามหาแชนนอน แต่แม่วางสายไปเพราะหงุดหงิด ลูกสาวคนกลางก็บอกว่าแฟนพี่สาวโทรมาหา แม่ยักไหล่ เธอแค่ไม่มาบ้าน แต่มันชักจะไม่ดีแล้ว เธอโทรหาตำรวจแต่ไม่มีใครสน เธอเลยสืบจากแฟนลูกและคนขับรถจนพบว่า ลูกสาวของเธอหายไปจริงๆ ในหมู่บ้านของพวกคนร่ำรวยที่นอกเมือง แต่ไม่มีใครทำอะไร ไม่มีใครตามหา จนวันหนึ่ง ตำรวจปล่อยสุนัขตำรวจลงไปทำกิจ แต่มันดันไปขุดเจอโครงกระดูกสี่ศพ ศพเด็กสาวที่ขากรรไกรสูญหาย ลูกสาวเธอไม่อยู่ในนั้น ตอนนั้นที่ตำรวจต้องลงมาทำคดี แต่ใครๆ ก็รู้ว่าไม่มีใครจริงจังกับคดีนางโสเภณีที่หายตัวไปหรอก มีแต่เธอกับลูกๆ และญาติของเด็กสาวคนอื่นๆ ที่ล้วนเป็นผู้หญิง ยากจน บางคนก็เป็นคนขายตัวเหมือนกัน
ด้วยทรงของพลอตเรื่องที่สร้างขึ้นจากคดีจริงทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องเป็นหนังสืบสวนสอบสวนคดีปริศนาที่ซับซ้อน การคลี่คลายที่ยากลำบากและต้องต่อสู้กับอำนาจฉ้อฉล ไล่ล่าฆาตกรโรคจิต ตัดสลับกับการกัดไม่ปล่อยสู้ไม่ถอยของคนเป็นแม่ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่จากการดัดแปลงหนังสือในชื่อเดียวกันที่เขียนโดยนักข่าวสายสืบสวนอย่าง Robert Kolker และภายใต้ฝีมือของผู้กำกับหญิง Liz Garbus ซึ่งเป็นคนทำสารคดีที่มีประเด็นทางสังคม รสชาติของหนังจึงแตกต่างออกไปจากหนังสืบสวนสอบสวนอย่างน่าตื่นเต้น
เพราะดูเหมือนสิ่งที่หนังสนใจ ไม่ใช่สิ่งที่หนังสืบสวนในตระกูลนี้สนใจ ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ผู้คนสนใจเมื่อได้ยินข่าวฆาตกรรมนั่นคือ ‘ใคร?’ ‘ที่ไหน?’ ‘อย่างไร?’ คำถามนั้นอาจใช้การได้ แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้สนใจไม่ใช่ใครฆ่า แต่เป็นใครตาย ไม่ใช่ที่ไหนแต่ทำไมถึงเป็นที่นี่ ทำไมเหยื่อถึงต้องตาย และอย่างไร —ไม่ได้ถามว่าเหยื่อถูกฆ่าอย่างไรแต่ถามว่าเด็กสาวเหล่านั้นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เรื่องราวของหนังจึงไม่พาผู้ชมไปตื่นระทึกกับการเอาเถิดเจ้าล่อของฆาตกรในความมืดหัวหมอ และคุณนักสืบหัวเห็ด หนังเริ่มเล่าตั้งแต่แม่รับรู้ว่าลูกสาวของเธอหายไป ตำรวจช่วยอะไรไม่ได้ นักข่าวก็ด้วย ตามไปจนถึงการที่เธอรู้มาว่าลูกสาวเธอไปที่ไหน และการรวมตัวกันของญาติผู้เสียชีวิตเพื่อรำลึกถึงผู้ตาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปโดยไม่ได้มีอะไรคืบหน้า หนำซ้ำคดีของเธอยังไม่ถูกนับรวมกับคดีของคนที่เหลือ เพราะไม่มีศพ จึงยืนยันไม่ได้ว่าเป็นคดีเดียวกัน
หนังค่อยๆ เผยให้เห็นว่าทำไมคดีถึงไม่คืบหน้า ทำไมมันถึงเป็นการฆ่าที่ไม่มีคนสนใจ ‘พวกเธอ’ เหยื่อและญาติของเหยื่อ ทุกคนเป็นคนชั้นล่าง เป็นแรงงานหาเช้ากินค่ำที่บางคนถึงกับต้องขายทีวีเพื่อเป็นค่าเดินทาง น้องสาวของเหยื่อคนหนึ่งก็ทำงานเหมือนที่พวกเด็กสาวที่สาบสูญทำ ใช่ เธอขายตัวออนไลน์ โชคร้ายที่พี่สาวของเธอเป็นคนที่ตาย ทั้งๆ ที่คนที่เริ่มงานนี้ก่อนคือเธอ
คนตายถูกลดรูปจากชื่อและใบหน้าที่จำเพาะเจาะจงจนเหลือเพียงคดีฆาตกรรม ‘กะหรี่’ พหูพจน์ ที่ไร้ความหมาย คล้ายจะบอกกลายๆว่าพวกหล่อนผิดศีลธรรมของสังคม รนหาที่และสมควรแล้วที่จะต้องจบชีวิต เป็นเพียงอีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยไม่ได้ การที่พวกหล่อนมาตายในละแวกบ้านของสังคมคนร่ำรวยที่เป็นหมู่บ้านปิดคือไม่อนุญาตให้คนนอกอาณาเขตเข้ามาได้ ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้เป็นคดีที่มีเจตจำนงทางชนชั้น เพราะเหยื่อไม่ใช่คนชั้นล่าง แต่เป็นคนชั้นล่างที่ชั่วช้า
หนังพาผู้ชมขุดลึกลงไปในความสัมพันธ์ของแม่ลูก เมื่อปมที่หนังสนใจไม่ใช่เรื่องการฆ่าแต่เป็นเรื่องที่ว่าในอดีตแม่เคยยกลูกไปให้คนอื่นเลี้ยง เพราะเธอยังเด็กมากตอนเป็นแม่เลี้ยงเดียว และลูกของเธอก็ป่วยด้วยโรคทางจิตซึ่งเธอเข้าไม่ถึงการรักษาเพราะยาแพง สุดท้ายกลายเป็นว่าปมใดๆ ในชีวิตปัจเจกบุคคล ล้วนไหลไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมของส่วนรวม ทั้งการที่เธอต้องกลายเป็นแม่ที่แย่ ไปจนถึงการเป็นแม่ที่สูญเสียลูกไปตลอดกาลโดยไม่อาจรู้ความจริง
หนังเล่าเรื่องอย่างเยียบเย็น แห้งแล้ง แม่เผเชิญหน้ากับคนที่เชื่อว่าอาจจะเป็นฆาตกรฆ่าลูกเธอ คุณหมอร่ำรวยผู้มีไมตรีจิต และคอยดูแลเหล่าลูกแกะหลงทาง คนที่ไม่มีปมชีวิตใดๆ เหมือนกับเธอ แม่เผชิญหน้ากับตำรวจที่มองเธออย่างหมิ่นหยามและไม่ได้ใส่ใจอะไรทั้งสิ้นต่อหลักฐานมากมายที่ปรากฏตรงหน้า แม้ว่านายตำรวจใกล้เกษียณที่มารับผิดชอบคดีจะพยายามอย่างถึงที่สุดแต่กระบวนการก็ถ่วงทุกอย่างไว้
จนแล้วจนรอดไม่มีใครถูกจับ เด็กสาวที่สาบสูญไม่ได้กลับบ้าน พวกเธอกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองต่อ ที่ต้องขายตัวก็ขายตัวต่อไป ที่ต้องเลี้ยงลูกป่วยไข้ก็เลี้ยงลูกป่วยไข้ต่อไป ในช่วงท้ายหนังเล่าเรื่องของแม่ตัวจริง และชีวิตของเธอหลังจากนั้นที่เจ็บปวดกว่าสิ่งที่เกิดในหนังเสียอีก ราวกับว่าถ้าผู้คนเกิดมาจนเสียแล้วพวกเขาก็จะยากจนอยู่อย่างนั้น ราวกับว่าอย่าหวังให้ชีวิตดีขึ้นไปกว่านี้เลย แค่รับมือกับการร่วงหล่นยังแทบเป็นไปไม่ได้
เด็กสาวที่สูญหายจึงไม่ใช่แค่กลุ่มโสเภณีที่ถูกฆ่า แต่ยังรวมถึงเหล่าผู้หญิงยากจน คนป่วยไข้ทางจิต แรงงานชั้นล่าง โสเภณีที่ยังไม่ถูกฆ่า เด็กนักเรียนที่ยังไม่รู้จะได้เรียนต่อไหม หรือแม่ที่ข้นแค้นผู้หนึ่งด้วย การสูญหายจึงไม่ใช่แค่การถูกฆ่า ถูกทำลายร่างกาย แต่มันคือการไม่ถูกมองเห็นถูกทำราวกับไม่มีอยู่จากสังคมด้วยเช่นกัน
Tags: film, Lost Girl