วันนี้ (26 มีนาคม 2563) นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยใหม่ 111 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 1,045 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย กลับบ้านแล้ว 88 ราย อาการหนัก 4 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 953 ราย 

โดยจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู่ป่วยหน้านี้ 29 ราย แบ่งเป็นสนามมวย 6 ราย สถานบันเทิง 3 ราย ผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ 19 ราย และผู้ที่ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 1 ราย 

กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยใหม่ 19 ราย ได้แก่ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ เป็นคนไทย 5 ราย และต่างชาติ 1 รายเป็น 6 ราย คนที่ทำงานในสถานที่แออัด 5 ราย บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย ติดเชื้อสะสม 9 ราย และมีอาการปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย

และกลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันจากห้องแล็บและอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 63 ราย และมีผู่ป่วยอาการหนัก 4 ราย ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 

“จุดเปลี่ยนตัวเลขผู้ติดเชื้อของประเทศไทย เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 15 มีนาคม จากหลับสิบเพิ่มเป็นหลักร้อยต่อวัน และสองสามวันที่ผ่านมาก็ยังคงที่หลักร้อย คือก่อนหน้านี้เวลาเรารายงานผู้ป่วยยืนยันจะต้องใช้ผลตรวจสองแล็บ แต่ตอนนี้ใช้ผลตรวจแค่แล็บเดียว ถ้าผลเป็นบวกก็ถือว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19”

“ถ้าแนวโน้มตัวเลขยังเพิ่มหลักร้อยไปเรื่อยๆ คาดว่าถึงสิ้นเดือนเมษายนน่าจะมีผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยมากถึง 3,500 ราย ซึ่งก็หวังว่าด้วยมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมา ทั้งให้อยู่แต่ในบ้าน ลดการไปที่ชุมชน และพ.ร.ก ฉุกเฉิน ที่ห้ามหลายอย่าง ก็น่าจะช่วยหน่วงสถานการณ์ได้ และอาจทำให้ตัวเลขไปไม่ถึง 3,500 ราย”

Tags: