อีกหนึ่งงานคอลแลบฯ ที่ต้องติดตาม สำหรับ Collab for Change โปรเจคต์ย่อยจาก a day 20th Anniversary Collaboration Project ที่คราวนี้ a day จับมือกับแบรนด์ไอศกรีมมีเรื่องเล่าอย่าง Guss Damn Good เลือกหยิบประเด็นโรคแห่งยุคสมัยอย่าง ‘โรคซึมเศร้า’ มาถ่ายทอดผ่านไอศกรีม เพื่อสร้างการตระหนักรู้ และถ้าเป็นไปได้ ก็เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แม้เล็กน้อยก็ยังดี
ก่อนหน้านั้น ริน–ระริน ธรรมวัฒนะ และ ที–นที จรัสสุริยงค์ แห่ง Guss Damn Good มีไอเดียที่จะทำไอศกรีมเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าอยู่เช่นกัน พอดีกับที่ a day ซึ่งเคยเล่าเรื่องนี้ไปในเล่ม Therapy ได้ติดต่อไปชวนร่วมโปรเจคต์ งานนี้จึงเกิดขึ้น
ในกระบวนการทำงานไม่เพียงแต่ใช้จินตนาการแต่ยังมีการทำการบ้านอย่างละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้ ตั้งแต่การจัดเวิร์กช็อปพูดคุยกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและคนที่มีคนใกล้ชิดเป็นโรคซึมเศร้า รวมถึงพูดคุยอย่างเจาะลึกกับผู้ก่อตั้งแอปฯ Ooca ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดได้อย่างสะดวกสบายผ่านการวิดีโอคอลปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้ชวนนักจิตบำบัดมาให้อินไซต์ลงลึกในฐานะผู้เยียวยาอีกด้วย
หลังจากที่ได้อินไซต์ Guss Damn Good จึงตีความออกมาเป็นไอศกรีม Stand by Me ที่เป็นรส Raspberry Dark Chip โดยสองผู้ก่อตั้งเล่าว่าทั้งราสป์เบอร์รีและช็อกโกแลตมีส่วนช่วยให้คนอารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่า แล้วตัวราสป์เบอร์รีกับดาร์กช็อกโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระทั้งคู่ ซึ่งในทางการแพทย์ก็ดีกับคนที่รู้สึกเซ็งๆ หรือป่วย
“เราอยากให้ไอศครีมซัพพอร์ตเขาได้ เหมือนว่าคนที่ให้ไอศครีมคือคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะมีอะไร ฉันอยู่นี่นะ โดยที่ไม่กดดัน ไม่บังคับ ไม่อะไรใดๆ” ระรินเล่า
“เราเอาราสป์เบอร์รีกับช็อกโกแลตมาอยู่ด้วยกันเพราะราสป์เบอร์รีให้ความหวาน เปรี้ยว หอม สื่อไปในทาง Stand by Me ที่มีคนคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ กัน แต่ว่าเราใช้ดาร์กช็อกโกแลตประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งค่อนข้างขมเลยทีเดียว มาละเลงในไอศครีมราสป์เบอร์รีสีชมพู คือกัดไปคำแรกๆ มันจะขม แต่พอกินเข้าไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มเบลนด์กับความหวาน ความหอมของตัวราสป์เบอร์รี เข้ากันลงตัว ซึ่งความขมนี่เองเป็นตัวที่ทำให้เรารู้สึกว่า อย่าลืมตัวเองนะ ต้องสู้เพื่อตัวเองด้วย”
Guss Damn Good ทิ้งท้าย