จากผลสำรวจของเกียวโดนิวส์พบว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามพร้อมจะสนับสนุนจักรพรรดิหรือจักรพรรดินีซึ่งมาจากการสืบสายราชสันตติวงศ์จากฝั่งฝ่ายหญิง (แม่จะต้องสืบเชื้อสายมาจากตระกูลจักรพรรดิมากกว่าทางฝ่ายพ่อ) ให้ขึ้นครองราชย์ นอกจากนี้คนญี่ปุ่น 81.9% ยังตอบรับสนับสนุนให้ผู้หญิงสามารถขึ้นครองราชย์ ในขณะที่ 13.5% เป็นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

ก่อนจะตรากฎหมายการสืบราชสันตติวงศ์ในปี 1889 ราชวงศ์ญี่ปุ่นเคยมีผู้หญิงขึ้นเป็นจักรพรรดินีถึงแปดคน ในระหว่างช่วงปี 592 และ 1770 แม้ว่าจะสืบทอดจะมาจากสายราชสันตติวงศ์ฝั่งฝ่ายชายก็ตาม แต่หลังจากการออกกฎหมายปี 1889 ภายใต้รัฐบาลเมจิ ซึ่งกำหนดให้ผู้ชายจากสายราชสันตติวงศ์ฝั่งฝ่ายชายเท่านั้นที่ที่สามารถขึ้นสู่บัลลังก์จักรพรรดิได้ แม้หลังสงครามโลกครั้งที่สอง กฎหมายในปี 1889 ถูกแทนที่ด้วยกฎหมายใหม่ แต่กฎเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ยังคงไว้เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายการสืบราชสันตติวงศ์ เนื่องจากครอบครัวของจักรพรรดิมีผู้สืบทอดราชบังลังก์ที่มีศักยภาพเพียงคนเดียว คือ เจ้าชายฮิซาฮิโตะ วัย 13 ชันษา พระบุตรองค์ที่สามและพระโอรสพระองค์แรกในเจ้าชายฟูมิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น กับเจ้าหญิงคิโกะ มกุฎราชกุมารี และทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่สองในการสืบราชบัลลังก์ญี่ปุ่นต่อจากพระบิดา ซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความมั่นคงของประเพณีการสืบราชสันตติวงศ์จากฝั่งฝ่ายชายในอนาคต 

การสำรวจครั้งนี้มีทั้งการสำรวจความคิดเห็นจากครัวเรือนที่ได้รับการสุ่มเลือก 732 ครัวเรือน และผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านโทรศัพท์มือถือ 1,282 คนซึ่งได้รับคำตอบเป็นจำนวน 505 ครัวเรือน และ 504 คนตามลำดับ

ไม่เพียงแค่เรื่องราชวงศ์เท่านั้น การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ยังมีประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลญี่ปุ่นอีกด้วย โดยประชาชนให้ความเชื่อมั่นในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ 54.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากผลการสำรวจของเดือนที่ผ่านมา 1.1% ในขณะที่ 34.5% ไม่เชื่อมั่น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจของเดือนที่ผ่านมา 0.3% 

 

อ้างอิง

 

ภาพ : RTEUTERS

Tags: , , ,