สิ้นเดือนนี้หลายคนคงเตรียมตัวท่องราตรีในวันปล่อยผีกันแบบเต็มที่ แต่สำหรับบางคน การออกไปเที่ยวกลางสัปดาห์ก็ดูจะใช้พลังเกินไปหน่อย ดังนั้นถ้าใครอยากสยองขวัญอยู่บ้านแบบไม่ต้องเปลืองแรง คุณก็แค่เลือกภาพยนตร์สักเรื่องที่จะทำให้ค่ำคืนฮาโลวีนปีนี้สะพรึงแบบไม่น้อยหน้าใคร

ถ้าเลือกจะชมภาพยนตร์ทั้ง 5 เรื่องนี้แบบลากยาว มีเพื่อนสักคนไว้ข้างๆ ก็น่าจะดี ขอให้สนุกกับค่ำคืนผีๆ ชวนหลอนไปด้วยกันจนกว่าจะเช้า…

Goodnight Mommy (2014)

Goodnight Mommy เป็นภาพยนตร์จากประเทศออสเตรีย เกี่ยวกับเด็กชายฝาแฝดที่สงสัยว่าผู้หญิงที่กลับมาบ้านหลังศัลยกรรมนั้นใช่แม่ของพวกเขาจริงหรือไม่

หลังจากได้รับการศัลยกรรม แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแลลูกชายฝาแฝดก็กลับมายังบ้านริมทะเลสาบ ใบหน้าของเธอห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผล มองเห็นเพียงแต่ดวงตาและปากเท่านั้น อีเลียสและลูคัสรู้สึกหดหู่และเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับแม่ เธอแสดงพฤติกรรมแปลกและปฏิเสธที่จะพูดคุยกับลูคัส เธอทำทุกอย่างให้แค่อีเลียส ไม่ว่าเป็นการจัดเตรียมชุดหรืออาหารที่เสิร์ฟ ทั้งสองจึงเริ่มหวาดระแวงแม่ขึ้นเรื่อยๆ และคิดว่าปีศาจสิงอยู่ในร่างเธอ อีเลียสและลูคัสจึงพยายามจะช่วยให้แม่คนเดิมกลับคืนมา โดยการลงมือกำจัดสิ่งที่สิงสู่อยู่ในตัวแม่ออกไป

การต่อสู้ทางจิตใจและร่างกายระหว่างแม่กับลูกจึงก่อตัวขึ้น ทั้งหมดอาจเป็นสิ่งเข้าใจผิด แต่ใครกันล่ะคือคนที่เข้าใจผิด? แม่หรือลูก? ความผิดของโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นฝีมือใครกันแน่ และความตายจะพรากใครไปได้บ้าง? ความรุนแรงอันน่าขนพองสยองเกล้านี้สะท้อนให้เห็นจิตใจอันเปราะบางของมนุษย์ ความรู้สึกปิดกั้นนั้นนำมาซึ่งความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ

หลายฉากในเรื่องนี้แสดงให้เราเห็นถึงความผิดปกติของแม่ และในการแสดง ซูซานเน วูซต์ ผู้รับบทเป็นแม่นั้นฝึกอยู่กับแมลงสาบร่วมสองเดือน เพื่อให้มันเดินเข้าไปในปากของเธอ ดังที่ปรากฏในภาพยนตร์ รวมถึงในการแสดงส่วนใหญ่ นักแสดงเล่นโดยด้นบทขึ้นมาเอง ไม่มีใครคาดคิดว่าภาพยนตร์ที่ออกมาจะน่ากลัวและสยดสยองขนาดนั้น

ในช่วงที่ภาพยนตร์เข้าฉาย หนึ่งในผู้กำกับ  เซเวอริน ฟิอาลา ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ด้วยว่า มีผู้ชมหมดสติระหว่างชมภาพยนตร์ด้วย

It Follows (2014)

It Follows เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ต้นทุนเพียงสองล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทำรายได้เป็นหลายเท่าตัวของงบประมาณ กำกับและเขียนบทโดย เดวิด โรเบิร์ต มิตเชล

แม้ว่าฉากหน้าจะดูเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ แต่ It Follows กลับเต็มไปด้วยสัญญะต่างๆ ทั้งเรื่องเพศ โรคร้าย สภาพจิตใจ ปัญหาครอบครัว และ ‘มัน’ (it) ที่ติดตามชีวิตใครคนใดคนหนึ่งอาจไม่ได้หมายถึงเพียงซาตานหรือวิญญาณร้าย แต่เป็นสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงต่างหาก

เจย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยออกเดทกับหนุ่มหล่อคนใหม่ชื่อฮิวจ์ และไม่นานหลังจากเดทกัน ความสัมพันธ์ก็ดำเนินไปถึงเรื่องเซ็กซ์ แต่หลังจากความเร่าร้อนจบลง เจย์หมดสติและตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในบ้านร้าง ฮิวจ์อธิบายว่าเขาได้ถ่ายทอด ‘มัน’ ให้เธอแล้ว และมันก็จะติดตามเธอไปทุกที่

รูปแบบที่มันปรากฏนั้นไม่ตายตัว จะเป็นผู้ชาย หญิงชรา คนรู้จัก หรือคนแปลกหน้าก็ได้ทั้งนั้น เธอจะเป็นคนเดียวที่เห็นมัน วิธีเอาตัวรอดคืออย่าให้มันเข้าถึงตัวเธอได้ แต่ถ้าเธอตายมันก็จะกลับไปหาเขา ย้อนไปเรื่อยๆ จากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง และทางเดียวที่เธอจะสลัดมันออกจากตัวได้ ก็คือส่งต่อมันไปยังคนอื่น แบบเดียวกับที่เขาทำกับเธอ

It Follows จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีลูกเล่นแพรวพราวอยู่พอตัว ทั้งในแง่เนื้อหาและการนำเสนอ รวมไปถึงดนตรีประกอบ จังหวะการตัดต่อ การเดินเรื่อง มุมกล้อง และองค์ประกอบภาพ ความหลอกหลอนจะไล่ล่าเราตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง

The Witch (2015)

The Witch ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับโรเบิร์ต เอกเกอร์ส กวาดรางวัลมามากมายจนกลายเป็นหนังสยองขวัญสายรางวัล หนึ่งในนั้นคือรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลซันแดนซ์ ทำรายได้มากถึง 40 ล้านเหรียญ

เอกเกอร์สได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนบทเรื่องนี้จากความหลงใหลในวัยเด็กของเขาเกี่ยวกับเรื่องแม่มด และการไปเยือนหมู่บ้านชนบทที่ถูกเรียกขานว่าไร่พลิม็อท สถานที่ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตในเมืองพลีมัท เมืองเก่าแก่ที่สุดในนิวอิงค์แลนด์

เรื่องราวใน The Witch เกิดขึ้นในปี 1630 ว่าด้วยครอบครัวผู้อพยพชาวอังกฤษ ประกอบไปด้วยสามี ภรรยา และลูกอีกห้าคน ทั้งหมดถูกเนรเทศออกจากหมู่บ้านด้วยเรื่องราวบางอย่าง หมู่บ้านนี้เป็นกลุ่มคริสเตียนแสนเคร่งครัด ครอบครัวของวิลเลียมระหกระเหินไปยังพื้นที่ห่างไกล แวดล้อมด้วยป่า และค่อนข้างจะแห้งแล้ง

ทุกอย่างดูปกติดีจนกระทั่งวันหนึ่งลูกชายคนเล็กวัยทารกหายตัวไป ทุกคนเชื่อว่าหมาป่าเป็นตัวการ ความเศร้าหมองและตื่นตระหนกเข้าเกาะกุมทั้งครอบครัว โดยเฉพาะแคทเธอรีนผู้เป้นแม่ แต่หลังจากนั้นเรื่องราวพิลึกพิลั่นก็เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ลูกชายคนกลางหายตัวไปและกลับมาด้วยอาการเหมือนถูกปีศาจเข้าสิง ลูกฝาแฝดชาย-หญิงบอกว่าพี่สาวคนโตมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เธอเป็นแม่มดที่ทำให้ครอบครัวพังพินาศ และขายวิญญาณให้กับซาตาน!

ความเคลือบแคลงสงสัยที่ยั่วล้อไปกับความเชื่อทางศาสนา นำไปสู่การมองหาต้นต่อแห่งความชั่วร้ายหรือ ‘แพะรับบาป’ วิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นผนวกเข้ากับความไม่รู้ ทำให้มนุษย์ซึ่งเคยปักใจเชื่อในพระเจ้า คิดว่าพระองค์ทอดทิ้งเขาไป และนี่คือบททดสอบครั้งสำคัญ ความมืดบอดนี้ล่อลวงและทำให้ปั่นป่วนจนใครบางคนละทิ้งสิ่งที่เชื่อมาทั้งชีวิต และหันหน้าเข้าหาสิ่งอื่นแทน

Get Out (2017)

ภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์และรายได้ไปอย่างท่วมท้นเรื่องนี้เป็นผลงานของนักแสดงตลก จอร์แดน พีล ที่ก้าวขึ้นมากำกับภาพยนตร์ครั้งแรก เขาใช้นักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด และใช้เวลาถ่ายทำเพียง 28 วัน สิ่งหนึ่งที่จุดประกายให้พีลเขียนบทเรื่องนี้ มาจากมุกตลกในเดี่ยวไมโครโฟนของเอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์

Get Out เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความกดดันให้กับคนดูไปพร้อมๆ กับความหวาดระแวง สถานการณ์พาให้ตึงเครียดและชวนสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่ตัวละครเผชิญอยู่คืออะไร

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคริส หนุ่มอเมริกันผิวสีที่เดินทางไปเยี่ยมบ้าน โรส แฟนสาวของตัวเอง ในตอนแรกเขาค่อนข้างกังวลว่าครอบครัวโรสอาจจะไม่ยอมรับคนผิวสีอย่างเขา แต่เมื่อไปถึง ทุกคนที่บ้านก็ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี คริสได้พบกับบรรดาแขกและญาติๆ โรสหลายคนที่นั่น และที่แห่งนั้นก็ยังมีคนผิวสีคนอื่นๆ ด้วย

แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้นคริสรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มันเริ่มสร้างความอึดอัดให้เขามากขึ้นเรื่อยๆ คริสพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะพาตัวเองออกจากบ้านหลังนี้ เมื่อโรสรับรู้ ความไม่ชอบมาพากลของคนในบ้านก็ยิ่งปรากฏชัดเจนขึ้น ซึ่งถึงตอนนั้น เขาก็แทบจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว และกลายเป็นคนที่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจที่ครอบครัวโรสพันธนาการเอาไว้

แน่นอนว่าภาพยนตร์พูดถึงประเด็นของคนผิวสีอย่างเปิดเผย ซึ่งพีลก็มีชั้นเชิงในการเล่าให้แตกต่างออกไป แถมยังทำได้ดีอีกด้วย พีลทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม เพราะเขาปลุกเร้าให้เราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาในการหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด

Hereditary (2018)

ภาพยนตร์ที่ทั้งกำกับและเขียนบทด้วยฝีมือ อารี แอสเตอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เคยมีผลงานมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์สั้น แต่เมื่อได้มาแสดงฝีมือผ่านภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรก เขาสร้างเสียงฮือฮาไปไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งด้านการถ่ายทำ เนื้อหา บรรยากาศที่ครอบคลุมทั้งเรื่อง และการแสดงอันโดดเด่นของโทนี่ คอลเล็ตต์, อเล็กซ์ วูลฟ์ และมิลลี่ ชาปีโร

ครอบครัวเกรแฮม ประกอบไปด้วยสองสามีภรรยา สตีฟและแอนนี่ ลูกชายกับลูกสาว ปีเตอร์และชาร์ลี เรื่องราวประหลาดเริ่มเกิดขึ้นกับครอบครัวเกรแฮม เมื่อคุณยายเอเลนตายไป ความลึกลับเกี่ยวกับต้นกำเนิดของครอบครัวค่อยๆ เผยออกมาทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความป่วยไข้และความผิดปกติของแต่ละคนนั้นถูกฝังลึกอยู่ในพันธุกรรมหรือพิธีกรรมบางอย่าง?

ความสงบสุขภายในบ้านเริ่มหายไป และไม่นานความตายก็มาเยือนครอบครัวนี้อีกครั้ง ด้วยการจากไปของชาร์ลี ลูกสาวคนเล็ก แล้วความประหลาดก็ย่างเท้าเข้ามาอีกไม่ยั้ง ทั้งการปรากฎตัวของยายที่ปีเตอร์เห็น อดีตหลอกหลอนที่กลายเป็นความฝันฝังใจ วิญญาณชาร์ลีที่แอนนี่พยายามพาเธอกลับบ้าน สิ่งชั่วร้ายได้คุกคามทุกคนจนจิตใตบิดเบี้ยว แล้วความสั่นประสาทและกุญแจสำคัญอันเป็นรากเหง้าของครอบครัวก็ปรากฏ

คิงเพมอน ราชานรกได้อยู่กับครอบครัวเกรแฮมมาเนิ่นนาน ชาร์ลีเป็นเพียงพาหนะของเพมอน เพราะเพมอนต้องอาศัยอยู่ในร่างกายของผู้ชายเท่านั้น ดังนั้น การตายของชาร์ลีเป็นสิ่งบังเอิญจริงหรือ? สร้อยคอของยายเอเลนมีความหมายอย่างไร? หนังสือที่ยายมีนั้นได้ซุกซ่อนอะไรไว้? ทุกอย่างนำไปสู่แผนการที่ถูกจัดวางไปแล้วอย่างดี ความรุนแรงจะทวีขึ้นเรื่อยๆ จากวินาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย

Tags: , , , ,