หากเอ่ยถึงภาพยนตร์จีน คำว่า ‘ฟัด’ กับ ‘คนเล็ก’ อาจจะนำมาก่อนในอันดับแรกๆ และสิ่งที่ตามมาก็คงเป็นหน้าเฉินหลง กับ โจว ซิงฉือ ซึ่งบางครั้งเราก็ลืมไปเลยว่าแดนมังกรแห่งนี้ยังมีสาวสวยที่เป็นดั่งเพชรเม็ดงามอยู่หลายต่อหลายคน เป็นหนึ่งในความงามของเอเชียที่ใครเห็นต่างก็ต้องตกหลุมรัก ไม่ว่าจะเป็นจางซินอวี่ หลิวอี้เฟย จ้าวลี่อิง และหยางมี่

จากบรรดาทั้งหมดนั้นก็จะมีเพียงไม่กี่คนที่เรายังคงคิดถึงหรือมอบใจให้ไม่คลาย และนี่คือ 5 สาวแดนมังกรครองหัวใจ

Chungking Express – สาวผมทองฟัดหัวใจให้โลกตะลึง (1994)

หวังเฟย หรือเฟย์ หว่อง เป็นสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ต่อมาเธอย้ายไปอยู่ฮ่องกง เนื่องด้วยครอบครัวย้ายถิ่นฐาน

เฟย์ หว่องเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักร้อง อัลบัมชุดแรกของเธอออกในปี ค.ศ.1989 ในชื่อ ‘หวังจิ้งเหวิน’ จากนั้นจึงตามมาด้วยผลงานอีกมากมายจนได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น The Asian Diva และเธอยังเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นทั้งจากในและต่างประเทศ ในฐานะนางเอกภาพยนตร์ของผู้กำกับหว่องกาไว

ภาพยนตร์ Chungking Express แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือเรื่องเล่าของตำรวจหนุ่มหมายเลข 223 ซึ่งเพิ่งเลิกกับแฟนสาวที่คบกันมา 5 ปี ในวันที่ 1 เมษายน เขาจึงตกอยู่ในห้วงอารมณ์เศร้าหมอง เหม่อลอย และไม่มีจิตใจจะทำอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำก็คือการตามหาสับปะรดกระป๋องที่จะหมดอายุในวันที่ 1 พฤษภาคม

จนมาถึงวันที่ 30 เมษายน เขาก็ตระหนักได้ว่าความรักก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน และในคืนหนึ่งที่ร้านเหล้าเขาก็พบกับหญิงสาวผมทองปริศนา คนที่จะทำให้เขาตกหลุมรักอย่างรวดเร็ว และจากไปโดยที่ยังไม่ได้เริ่มต้น

ส่วนที่สองเป็นเรื่องของตำรวจหนุ่มอีกคน ตำรวจหมายเลข 623 เขามีแฟนเป็นสาวแอร์โฮสเตส ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นานเธอก็ทิ้งเขาไป ไม่ต่างจากเครื่องบินที่เปลี่ยนเส้นทาง

ตำรวจหนุ่มมักจะแวะซื้ออาหารที่ร้านมิดไนท์เอ็กซ์เพรสอยู่บ่อยๆ นั่นจึงทำให้อาเฟยที่ทำงานเป็นพนักงานร้านตกหลุมรักเขา แต่เธอก็ไม่เคยบอกความจริงออกไป จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็พบความจริงว่าอะไรเป็นอะไร แต่วันนั้นอาเฟยก็ได้หายไปแล้ว เขาจึงได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไรที่ความเปลี่ยนแปลงจะเดินทางมาถึงอีกครั้ง

The Road Home – เส้นทางรักนิรันดร์ (1999)

จางจื่ออี้ หรือเรียกกันอย่างคุ้นปากกว่าว่าจางซิยี่ คือนักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ฉายแววการแสดงมาตั้งแต่เด็ก เธอเข้าเรียนในโรงเรียนนาฏยศิลป์ปักกิ่ง แล้วต่อด้วยวิทยาลัยการแสดงแห่งชาติ

ก้าวแรกของเธอในการแสดงภาพยนตร์เริ่มจากเรื่อง The Road Home ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง จางจื่ออี้ถือเป็นอีกหนึ่งนางเอกคู่บุญของผู้กำกับจางอี้โหมว จนได้รับฉายา ‘กงลี่น้อย’ ผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังในฮอลลีวู้ดและได้รับรางวัลอีกมากมายมาจากการสวมบทเป็นซายูริในภาพยนตร์ Memoirs of a Geisha

The Road Home ถูกเล่าผ่านความคิดและการบอกเล่าของลู่ หยู่เฉิง ชายหนุ่มที่ต้องเดินทางกลับบ้านเพราะการตายของพ่อ เขาต้องกลับมาดูใจแม่ที่อยู่ในภาวะโศกเศร้าและแบกรับคำขอของเธอ แม่ยืนกรานให้การนำศพของพ่อมาทำพิธีที่หมู่บ้านด้วยการแบกโลงศพแทนการใช้รถขนศพ เพราะมีความเชื่อว่าหากมีใครตายนอกหมู่บ้าน เราต้องแบกศพกลับ พร้อมเรียกผู้ตายให้ตามกลับบ้านตลอดทาง วิญญาณของเขาจะได้กลับบ้านถูก

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่านอกจากสภาพอากาศจะเลวร้ายไม่เหมาะแก่การเดินแล้ว คนหนุ่มสาวในหมู่บ้านต่างก็ย้ายไปทำงานและใช้ชีวิตในเมืองกันหมด

ภาพยนตร์จะแบ่งช่วงเวลาอดีตกับปัจจุบันผ่านการเล่าที่แทนด้วยภาพขาวดำและภาพสี ภาพขาวดำคือปัจจุบัน ซึ่งให้ความรู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง ส่วนภาพสีคืออดีต ให้ความรู้สึกถึงช่วงเวลาดีๆ ความมีชีวิตชีวา

จากช่วงเวลาปัจจุบันที่หยู่เฉิงต้องกลับบ้าน ภาพยนตร์พาเราย้อนไปดูเรื่องราวของพ่อแม่เขาซึ่งก็คือ เชา ได๋ และลู่ เฉิงหยู การพบกันของพวกเขาเกิดขึ้นเพราะเฉิงหยูมาเป็นครูสอนหนังสือที่หมู่บ้านชันเฮตัน ที่ที่ได๋อาศัยอยู่ ตั้งแต่ได๋เห็นเขา เธอก็ตกหลุมรักเฉิงหยูทันที

แต่เมื่อทั้งคู่เริ่มคบหากันก็มีเหตุให้ต้องพลัดพราก เส้นทางรักของพวกเขาขลุกขลัก ดังนั้นแล้วบนถนนหนทางของหมู่บ้านมันจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของทั้งคู่ ความรักได้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ที่นี่ ทั้งหมดนี้จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธออยากเดินเคียงข้างเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อพาเขากลับบ้าน

Memoirs of a Geisha – นางโลมโลกจารึก (2005)

กงลี่ ผู้รับสมญานามว่าเป็นราชินีของวงการภาพยนตร์จีน บทบาทแรกของเธอคือการเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่อง Red Sorghum ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับจางอี้โหมว จากจุดนี้เธอถูกจับตามองอย่างรวดเร็วด้วยความสวยและความสามารถ จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็โลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ด้วยหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิง ภรรยา แม่ม่าย และโสเภณี

ด้านชีวิตส่วนตัวนั้น เธอเป็นคนรักเก่าของผู้กำกับคู่บุญอย่างจางอี้โหมวถึง 8 ปี ก่อนจะตัดสินใจแยกทางกันในที่สุด

สำหรับ Memoirs of a Geisha กงลี่รับบทเป็นฮัทซึโมโม เกอิชาคู่ปรับของซายูริ ที่รับบทโดยจางจื่ออี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากนวนิยายที่มียอดขายถล่มทลายทั่วโลก เขียนโดยอาเธอร์ โกลเดน นักประพันธ์ชาวอเมริกัน เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนและหลังสงครามโลกครั้งสอง

เมื่อครอบครัวของชิโยะต้องตกที่นั่งลำบาก พ่อไม่มีเงินพอจะพาแม่ที่ป่วยไปรักษาและไม่สามารุเลี้ยงดูลูกๆ ได้ เขาจึงพาลูกสาวทั้งสองไปขาย

ชิโยะถูกรับไว้ในสำนักเกอิชาแห่งหนึ่ง ส่วนพี่สาวของเธอนั้นถูกที่อื่นรับไป ชิโยะซึ่งยังเด็กจึงกลายมาเป็นเด็กรับใช้ในสำนักเกอิชา ชิโยะมีความมุ่งมั่นว่าสักวันเธอจะหนีไปจากที่นี่กับพี่สาว แต่ความคิดนั้นก็ต้องดับไป เมื่อต่อมาเธอรู้ว่าตัวเองไม่เหลือที่ให้กลับไปอีกแล้ว

การอยู่ในสำนักเกอิชาทำให้ชิโยะรู้จักผู้หญิงทุกคนในนั้น รวมไปถึงฮัทซึโมโม เกอิชารุ่นพี่ที่เป็นคนสวย เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม และพร้อมจะทำลายคนที่ขวางทางเธอ

ในตอนเป็นเด็กนี้เองที่จิโยะได้พบกับประธานผู้ใจดี คนที่กลายมาเป็นความหวังในชีวิตเธอ จิโยะเริ่มตั้งใจฝึกฝนเป็นเกอิชาที่เพียบพร้อมมากขึ้น และความสวยของเธอก็เปล่งประกายมากเข้าทุกวัน

แต่การเป็นเกอิชานั้นเหมือนต้องคำสาป พวกเธอไม่อาจสมหวังในความรัก แม้แต่กับฮัทซึโมโม เองซึ่งมีความรักให้ใครบางคน แต่ด้วยสถานะแล้วพวกเธอต่างต้องเก็บงำและฝ่าฟันมันไป

Mulan – มู่หลาน วีรสตรีโลกจารึก (2009)

เจ้า เหว่ย โด่งดังอย่างมากหลังรับบทเป็นนางเอกจากซีรีส์ชุด ‘องค์หญิงกำมะลอ’ เธอเป็นนักแสดงสาวที่มีทั้งผลงานละคร ภาพยนตร์ โฆษณา รวมถึงการเป็นนักร้อง ทั้งหมดทำให้เธอติดหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงและร่ำรวยที่สุด ก่อนที่จะผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังอย่างการเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ รวมถึงการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจนเป็นเศรษฐีนีพันล้าน

Mulan เคยสร้างความประทับใจไปทั่วโลกมาแล้วด้วยลายเส้นการ์ตูนและเนื้อหาที่สนุกสนานจากวอลต์ ดิสนีย์ จนกระทั่งสิบปีผ่านไป จิงเกิล หม่า ผู้กำกับชาวฮ่องกงก็นำเรื่องราวของวีรสตรีผู้นี้มาปัดฝุ่นสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงฟอร์มยักษ์ที่นำแสดงโดย เจ้า เหว่ย

เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ.450 จักรวรรดิจีนถูกคุกคามอยู่เนืองๆ โดนชนเผ่าโหรวหรัน ชนเผ่านี้มักจะรุกรานและปล้นชิงทรัพย์สิน รวมถึงอาหาร ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อปกป้องและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น กองทัพจีนจึงต้องเกณฑ์ทหารจากไพร่พลทั่วประเทศ ทุกครอบครัวต้องส่งผู้ชายหนึ่งคนไปเป็นทหาร

ฮัวหู่ ทหารปลดประจำการที่แก่ชรา ทั้งยังสุขภาพไม่ค่อยดีแล้ว จำต้องเข้าร่วมในคำสั่งระดมพลนี้ แต่ฮัวมู่หลาน ลูกสาวของเขา ไม่ต้องการจะให้พ่อไปตกระกำลำบากในสนามรบ เธอจึงเข้าร่วมกองทัพแทนพ่อด้วยการปลอมตัวเป็นผู้ชาย

มู่หลานเฉลียวฉลาด บวกกับมีทักษะการต่อสู้ที่ดีอยู่แล้ว เธอจึงเป็นทหารที่มีความอดทนและยอดเยี่ยม แม้จะมีเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนเข้ามา สุดท้ายความกล้าหาญของเธอก็จะเป็นสิ่งที่พาเธอให้ผ่านพ้นไป

หนึ่งในคนที่รู้ความจริงและคิดจะเปิดโปงเธอ กลายเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเธอเสมอ สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน จนมิตรภาพเปลี่ยนเป็นความรัก แต่ในสมรภูมิรบไม่ใช่ที่ที่ความรักจะคงอยู่ได้นาน เพราะที่นี่มีแต่คำว่าสูญเสีย

I Am Not Madame Bovary – อย่าคิดหลอกเจ้ (2016)

ในทศวรรษนี้หากเอ่ยถึงนักแสดงหญิงชั้นแนวหน้าของจีน เชื่อว่าฟ่าน ปิงปิง จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน ในวัย 36 กะรัต เธอยังคงสวยสดและเป็นที่คลั่งไคล้ของใครหลายคน

ปิงปิงฝากความประทับใจแรกในการแสดงของเธอด้วยบทบาทจินสั่ว สาวใช้ผู้จงรักภักดีของจื่อเวย จากซีรีส์ชุด ‘องค์หญิงกำมะลอ’ หลังปล่อยให้สองสาว เจ้าเหว่ยและหลินซินหยู ที่แสดงร่วมกันในซีรีส์ชุดนี้ดังไปก่อน ฟ่านปิงปิงก็ได้รับบทบาทที่ทำให้เธอโดดเด่นขึ้นมาบ้างในเวลาต่อจากนั้น

ภาพยนตร์ตลกร้าย เสียดสีสังคม ที่ปนไปด้วยเสียงหัวเราะและความขมขื่น ซึ่งเล่าผ่านเฟรมวงกลมเกือบตลอดทั้งเรื่อง แฝงความหมายและนัยยะบางอย่างได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการคิดถึงแต่ตัวเอง หรือแม้แต่การไม่มองภาพกว้างและความจริงที่รอบด้าน

I Am Not Madame Bovary สร้างจากนวนิยายของนักเขียน หลิวเซียนหยุน เล่าเรื่องราวของหลีสั่วเหลียน ผู้หญิงที่วางแผนการหย่าปลอมๆ กับสามี เพื่อให้ได้อพาร์ตเมนต์อีกหลังตามนโยบายรัฐบาลซึ่งจัดไว้ให้บุคคลที่มีสถานะโสด โดยหวังไว้ว่าหลังจากนั้นค่อยกลับมาจดทะเบียนสมรสอีกครั้ง

แต่แผนกลับพังไม่เป็นท่า เพราะคินอู๋เฮ สามีของเธอดันไปแต่งงานใหม่กับหญิงอื่น หลีสั่วเหลียนตัดสินใจฟ้องร้องให้การหย่าเป็นโมฆะ ถามหาความยุติธรรมทั้งที่ตัวเองก็เล่นไม่ซื่อ ผลที่ได้คือศาลตัดสินว่าคินอู๋เฮไม่มีความผิด เธอจึงเจ็บแค้นและยังคงดิ้นรนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไม่ลดละ สิ่งที่ได้กลับมาคือความเมินเฉย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอย่อท้อแต่อย่างใด คดีเล็กๆ นี้จึงลุกลามและขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ

ผู้ได้รับผลกระทบในตอนนี้ไม่ใช่แค่หลีสั่วเหลียนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบราชการของรัฐ ช่องโหว่ของกฎหมาย การคอร์รัปชั่น และปัญหาต่างๆ ที่ถูกเก็บซ่อนไว้