วันนี้ (28 มีนาคม) เวลา 15.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 100% ทั้ง 350 เขต โดยปรากฏว่าคะแนนดิบอย่างไม่เป็นทางการของพรรคพลังประชารัฐอยู่ที่ 8.4 ล้านเสียง พรรคเพื่อไทย 7.9 ล้านเสียง พรรคอนาคตใหม่ 6.2 ล้านเสียง พรรคประชาธิปัตย์ 3.9 ล้านเสียง และพรรคภูมิใจไทย 3.7 ล้านเสียง พร้อมปฏิเสธข่าวลือการแจกใบแดงว่าไม่เป็นความจริง

กกต. แถลงคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 100% ทั้ง 350 เขต รวมทั้งสิ้น 35,532,647 คะแนน
มาจากผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้งสิ้น 11,181 คน แต่ถูกตัดสิทธิลงสมัครไป 572 คน คงเหลือผู้สมัคร 10,609 คน

พลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน

เพื่อไทย 7,920,630 คะแนน

อนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน

ประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน

ภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน

 

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51,239,638 คน

ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 38,268,375 คน (74.69%)

ผู้ไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 12,971,263 คน (25.31%)

บัตรที่พิมพ์ทั้งสิ้น 38,268,366 บัตร

บัตรดี 35,532,645 ใบ หรือคิดเป็น 92.85%

บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือคิดเป็น 5.57%

บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน (โหวตโน) 605,392 ใบ (1.58%)

ดูเอกสาร กกต.ได้ที่นี่

กฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีตัวเลขใบเหลืองใบแดง ยืนยันว่าข่าวที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียว่า กกต.จะแจกใบแดง 45 ใบเป็นข่าวเท็จ ซึ่งสำนักงาน กกต. จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จต่อไป

กฤช ระบุว่า ขณะนี้ กกต.รับเรื่องร้องเรียนไว้ทั้งสิ้น 186 เรื่อง ส่วนมากจะเกิดใกล้ๆ วันเลือกตั้ง โดย กกต.จะดำเนินการตรวจมูลกรณีก่อนแล้วจึงตั้งกรรมการมาไต่สวน

ส่วนกรณีพรรคการเมืองขอคะแนนรายหน่วย กฤช กล่าวว่า เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งมีจำนวนมากถึง 92,320 หน่วย จึงขอให้ สื่อ ผู้สมัครและผู้ที่สนใจ ไปขอดูได้ที่สำนักงาน กกต. จังหวัด ซึ่งจะมีคะแนนรายหน่วยอยู่แล้ว ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นคะแนนที่เปิดเผยได้ และขอดูได้

กฤช กล่าวถึงกรณีบัตรเลือกตั้งที่มาจากนิวซีแลนด์ว่า ขอให้ดูที่มาตรา 114 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ว่าเข้าเงื่อนไขของบัตรที่ไม่สามารถนับคะแนนได้ ในทางกลับกัน ถ้านับคะแนน แล้วมีผู้ร้องเรียนจะกลายเป็นปัญหาต่อการจัดการเลือกตั้งในภาพรวม ทั้งนี้ เข้าใจดีกว่าพี่น้องคนไทยที่นิวซีแลนด์ตั้งใจมาใช้สิทธิ แต่กฎหมายเขียนไว้อย่างนั้น จึงไม่มีทางวินิจฉัยเป็นอื่นได้ จึงขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ พร้อมยืนยันว่าเป็นห่วงสิทธิคนไทยในต่างแดน แต่ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอื่นได้

ก่อนหน้านี้ กกต.เคยระบุว่าจะประกาศผลคะแนน 95% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ส่วนคะแนน 100% จะประกาศในวันที่ 9 พ.ค. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลังปิดหีบเป็นต้นมา ประชาชน พรรคการเมืองและสื่อต่างเรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยคะแนนดิบทั้งหมด 100% โดยเร็ว รวมถึงมีการตั้งคำถามกับการทำงานของ กกต.ด้วย ล่าสุด แคมเปญ ‘ร่วมกันลงชื่อถอดถอน กกต.’ ในเว็บไซต์ change.org ณ เวลา 18.48 น. มีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 802,465 คนแล้ว

พปชร.แถลง มั่นใจ เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

ไม่นานหลังจาก กกต.แถลงข่าวคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 100% ซึ่งปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนเพิ่มเป็น 8.4 ล้านคะแนน พรรคพลังประชารัฐ โดย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงข่าวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคอยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเขตจะกระทบการคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นจึงต้องคำนวณ หลังจากจำนวน ส.ส.เขตนิ่งแล้ว ณ วันนี้ทำได้เพียงประมาณการ

“ตัวเลขครั้งนี้สำคัญเพราะก้ำกึ่งกันมากในการรวมเสียงข้างมาก ดังนั้นทุกอย่างคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมตัวเลข” สนธิรัตน์กล่าวและว่า วันนี้ชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่ง มั่นใจว่า พปชร. จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ย้ำว่ายังมีเวลาในการทำงาน เพราะตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะ กกต.ยังต้องตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ

อนาคตใหม่ จี้ถาม กกต. จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทีแรกบอก 65% อีกทีบอก 74% ที่เพิ่มมากว่า 9% มาจากไหน

เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น. พรรคอนาคตใหม่ออกมาแถลงเกี่ยวกับการเปิดเผยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ทั้ง 100% จาก กกต. โดย พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวถึง 2 ประเด็นด้วยกัน ข้อแรกพูดถึงการทำงานของ กกต. ที่เพิ่งออกมาเปิดเผยตัวเลข หลังจากปิดหีบเลือกตั้งมากว่า 94 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ที่สามารถเปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 100% เมื่อผ่านไปเพียง 7 ชั่วโมง มีคำถามว่า ผลการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดทางเทคนิค หรือเป็นเพราะ กกต.มีตัวเลขหลายชุด

ทั้งนี้ยังแจ้งผลคะแนนของทางพรรคอนาคตใหม่ ว่ามีคะแนนกว่า 6.2 ล้านคะแนน ส่งผลให้มีจำนวน สส. รายเขต 30 เขต และปาร์ตี้ลิสต์จากการคำนวณของพรรค ไม่ต่ำกว่า 30 คน โดยทางพรรคมั่นใจว่าที่สุดแล้วจะมีที่นั่งไม่ต่ำกว่า 80 ที่นั่ง

พรรณิการ์ ระบุว่า อนาคตใหม่ยังยืนยันว่าพร้อมจะเลือกตั้งซ่อม ไม่ว่า กกต. จะแจกใบเหลืองหรือใบแดง และคิดว่าหากมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นจริง พรรคอนาคตใหม่จะได้คะแนนสูงขึ้นกว่าเดิมแน่นอน หลังจากที่ประชาชนได้เห็นแล้วว่ามีความพยายามจะสืบทอดอำนาจอย่างไรบ้าง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

และ สอง พรรคยังเรียกร้องให้พรรคที่ยังมีจุดยืนไม่ชัดเจน มาร่วมกับทั้ง 6 พรรคที่แสดงจุดยืนเป็นพรรคประชาธิปไตย ที่เมื่อนับรวมที่นั่งแล้ว มั่นใจว่าจะมี ส.ส. อย่างต่ำ 255 ที่นั่ง

ก่อนจบการแถลง พรรณิการ์ย้ำถึงการทำงานของ กกต. อีกครั้ง โดยตัวเลขที่น่าสงสัยที่สุดคือจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งจริงๆ ต้องเป็นตัวเลขที่ออกมาก่อนนับคะแนน ในคราวแรก กกต. บอกว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิประมาณ 65% (24 มีนาคม เมื่อนับคะแนนไปแล้ว 93%) แต่เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา (28 มีนาคม คะแนน 100%) กลับบอกว่ามีถึง 74% ห่างกับเกือบ 5 ล้านคน

พรรณิการ์ชี้ว่า ทางพรรคต้องการความชัดเจนว่าตัวเลขที่เพิ่มนี้มาจากไหน ความผิดพลาดในวันที่ 24 หรือจากอะไรกันแน่ เป็นคำถามที่ส่งกลับไปถึง กกต. เชื่อว่า กกต. จะใช้งบ 5800 ล้านบาทอย่างคุ้มค่า เรียกร้องให้เปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง และภาพกระดานนับคะแนนในทุกหน่วย เพราะทางพรรคก็มีข้อมูลของทุกหน่วยอยู่เช่นกัน ทั้งนี้ แม้ กกต. จะท้าให้คนที่สงสัยไปตรวจสอบได้ตามรายหน่วย แต่ถ้าให้ผู้ตรวจสอบเดินไปเอาเองแต่ละหน่วย ก็คงใช้เวลานานเกินไป กกต. ที่มีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว มีหน้าที่ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ อย่าผลักภาระให้ประชาชนที่ต้องการตรวจสอบไปขวนขวายเอง

Tags: