ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นนักแสดงแถวหน้าในเมืองไทยไม่กี่คนที่ถูกเรียกว่า ‘แม่’

คำนี้มีนัยยะสื่อถึงความเจนจัด ทักษะ ประสบการณ์ ความเก๋า และการเป็นรุ่นใหญ่ในวงการ

ชมพู่เข้าสู่วงการครั้งแรก พ.ศ. 2541 จากการคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสมอเตอร์โชว์ ปัจจุบันเธออยู่ในวงการมากว่า 20 ปี ผ่านมาแล้วทุกบทบาท ไม่ว่านางเอก นางร้าย พิธีกร พรีเซนเตอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ จนกระทั่งเป็น ‘แม่’ ของวงการ

ทำไมชื่อของ ‘อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ ถึงยังแข็งแกร่งในวงการบันเทิง ทั้งที่ชื่อเสียงเป็นสิ่งเปราะบางและไม่จีรัง อะไรทำให้ชมพู่ก้าวมาถึงจุดนี้?

“ชมมีความคิดอยู่อย่างหนึ่งคือ ‘Don’t just live for today… live to never fade’ เราต้องค้นหาความพิเศษในแบบฉบับของตัวเองให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นความพิเศษในด้านความสามารถ ความมั่นใจ กล้าแสดงออก หรือแม้กระทั่งความมุ่งมั่น และเราไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบใคร เมื่อเจอแล้ว ให้ดึงมันออกมาแล้วหมั่นฝึกฝน และพัฒนาให้โดดเด่น แตกต่าง สิ่งนี้มันจะทำให้เราเป็นบุคคลที่น่าจดจำ และอยู่ในความทรงจำของทุกคน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม”

ในวันที่ชมพู่กำลังตั้งท้องและกำลังจะเป็น ‘แม่’ ในความหมายของแม่ที่แท้จริง  ลึกลงไปเธอเป็นเสมือนตัวแทนผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งกำลังอยู่ในระยะเวลาของการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่

The Momentum สงสัยว่า สถานะของเธอในวงการต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร จะ Never Fade เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่

ชมพู่จะมาเปิดใจให้เราฟัง…

ตอนนี้กำลังจะมีน้องแล้ว คุณว่าชีวิตช่วงที่ผ่านมาเปลี่ยนไปอย่างไร

ชีวิตเปลี่ยนไปคือ มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม (ยิ้มกว้าง) มีน้องแล้วรู้สึกว่าชีวิตครอบครัวเติมเต็ม แต่คำว่า ‘แม่’ ก็มาพร้อมกับบทบาทใหม่และความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่มาก รู้เลยว่าเราต้องใช้ความตั้งใจ เข้าใจ และอดทนแบบสุดๆ ชมรู้เลยว่าการเป็นแม่จะให้อะไรกับชมเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของมุมมองที่เปลี่ยนไป จะทำอะไรตอนนี้ก็ต้องคิดเผื่อเพิ่มอีก 1 คน ทุกอย่างต้องดีที่สุด ยิ่งเรื่องการใช้ชีวิตและการทำงานของเราต้องให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม ต้องดูแลตัวเองมากที่สุดเพื่อลูกเพื่อครอบครัว

แสดงว่าคุณจะค่อยๆ Fade หรือค่อยๆ หายไปจากชีวิตในวงการบันเทิงเหมือนนักแสดงหลายๆ คน?

ไม่ค่ะ แต่คิดว่าคงลด quantity ของงานในวงการ เพราะชมอยากให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น แต่ quality หรือคุณภาพของการทำงานต้องยิ่งมากขึ้น ชมยังรักการทำงานอยู่ ชมมองว่าผลงานที่เราทำคือตัวตนของชม ชมเป็นคนทำอะไรทำให้สุดทุกเรื่อง เอาง่ายๆ คือถึงไหนถึงกัน ไม่ให้อะไรมาเฟดความเป็นตัวเอง ตอนนี้เป็นแบบนี้  เป็นแม่แล้วก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปแน่นอน ไม่ให้บทบาทใหม่ๆ มาเปลี่ยนความเป็นเราหรือความตั้งใจในการทำงานของเราแน่นอน

อยู่วงการบันเทิงมา 20 ปี เหมือนว่าไม่มีอะไรจะทำอะไรคุณได้ อยากรู้ว่าลึกๆ แล้วสิ่งที่คุณกลัวมากที่สุดในการทำงานวงการบันเทิงคืออะไร

ชมว่าวงการบันเทิงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะดังภายในข้ามคืน และก็สามารถดับภายในข้ามคืนได้เหมือนกัน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่แน่ไม่นอนเลยสักอย่าง เพราะในวงการนี้มันมีตัวเลือกให้เลือกกันมากมาย ดาราใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งเอาจริงๆ ว่าชมก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันนะว่าวันหนึ่งเราจะค่อยๆ หายไปจากวงการนี้ แต่กลัวไปก็เท่านั้นแหละ สู้เรามาทำทุกๆ อย่างให้ดีและเต็มที่ที่สุดดีกว่า เพราะตัวชมเองก็สนุกกับการทำงานในทุกๆ วัน และก็อยากทำทุกงานให้ออกมาดีที่สุด

สำหรับตัวชมพู่ มองคำว่า Never Fade หรือ ‘ดาวค้างฟ้า’ เชื่อมกับชีวิตการทำงานอย่างไร?

ชมนึกถึงคำว่า ‘YOLO’ หรือ ‘You only live once’ คือเราเกิดมาครั้งเดียว มีชีวิตเดียว ดังนั้นชมจะคิดเสมอว่าเราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำอยู่ในทุกวันนี้ให้ดีที่สุด เหมือนกับเป็นการสร้างตำนานให้แก่ตัวเอง มันอาจจะเป็นเพียงแค่ตำนานเล็กๆ แต่ต้องเป็นตำนานที่เราภาคภูมิใจ และเป็นเรื่องที่น่าจดจำไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เมื่อใครก็ตามที่พูดถึง จะร้อง “อ๋อ…” แล้วนึกออกทันที

ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับอาชีพของชม หากจะ Never Fade ชมว่านอกจากทำอะไรต้องทำให้สุดแล้ว เราก็คงต้องหมั่นพัฒนาตัวเองตลอดเวลาด้วย ประเมินตัวเราตามสถานการณ์และบทบาทหน้าที่ที่เราได้รับจริงๆ แล้วมาพิจารณาดูว่ามีจุดไหนบ้างที่เรายังสามารถพัฒนาได้อีก เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราอยู่ในวงการนี้ได้นานแบบมีคุณภาพ (Long Lasting) และไม่เฟดไปไหน เพราะยังมีคนชื่นชอบ และติดตามเราอยู่ (Never Fade)

ในอีกด้านหนึ่ง ชมก็หมั่นพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่มีหยุด ในส่วนของเรื่องความตั้งใจทำงาน ชมก็ยังมีความตั้งใจเหมือนตอนเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ ชมถือคติว่า ‘Give it your best shot every day’ เพราะคนเราไม่สามารถหยุดที่จะเรียนรู้ได้ บางทีเราอาจจะได้เจออะไรใหม่ๆ ในตัวเองที่ซ่อนอยู่ แล้วเอามาเป็นจุดเด่นของตัวเราได้อีก ชมเชื่อว่าถ้าเราทำทุกอย่างให้ดีที่สุด งานก็จะออกมาดี แล้วคนก็จะชอบในงาน ในตัวของเรา ไม่ลืมเรา

ได้ยินมาว่าคุณรับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์ดาวน์นี่ 2 ปี ติดต่อกัน ส่วนหนึ่งเพราะต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิง?

ก่อนอื่นเลยคือตัวชมเองเป็นคนชอบกลิ่นหอมและน้ำหอมมาก และพอแบรนด์ดาวน์นี่ติดต่อมา เราไม่ลังเลเลยที่จะรับ เพราะดาวน์นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องของ ‘กลิ่นหอม’ และ ‘กลิ่นติดทนนาน’ อยู่แล้ว นอกจากนี้ชมยังชอบในเรื่องวิสัยทัศน์ของแบรนด์ดาวน์นี่ที่มีมุมมองเหมือนเรา คือการสนับสนุนพลังของผู้หญิง โดยเฉพาะเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจทั้งจากแคมเปญก่อนหน้านี้อย่าง ‘Beauty and Power’ ที่สนับสนุนผู้หญิงให้เชื่อมั่นในตัวเองว่าเรามีทั้งความสวยและเก่งโดยไม่จำเป็นต้องเลือก หรือแคมเปญล่าสุดอย่าง ‘Never Fade’ ที่เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความพิเศษในแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งนี้คือความโดดเด่นในแบบของแต่ละคน ชมและดาวน์นี่สนับสนุนให้ผู้หญิงไทยค้นหาความพิเศษนี้เพื่อนำมาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้เราโดดเด่น แตกต่าง และเป็นที่น่าจดจำในความทรงจำของทุกคนรอบข้าง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

สุดท้ายในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ชมพู่อยากจะบอกอะไรถึงผู้หญิงไทยทุกคน

จริงๆ แล้วชมมองว่าผู้หญิงทุกคนต่างมีดี หรือความพิเศษในแบบของตัวเองกันทุกคน อย่างบางคนอาจจะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง บางคนเป็นคนละเอียดรอบคอบ ใส่ใจในทุกรายละเอียดรอบตัว หรือบางคนอาจจะเป็นคนที่มีความอ่อนโยน เข้าใจจิตใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งชมว่ามันดีมากนะ เพราะชมว่าที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องให้ใครมานิยามหรือกำหนดความเป็นผู้หญิงของเราหรอกว่าผู้หญิงเราควรต้องเป็นแบบไหน เพราะแท้จริงแล้วผู้หญิงทุกคนต่างเป็น ‘One of a kind’ ที่มีความโดดเด่นต่างกันออกไป ซึ่งไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ เพราะฉะนั้นอยากจะให้ผู้หญิงไทยทุกคนภาคภูมิใจ และเคารพในสิ่งที่เป็น เพราะผู้หญิงทุกวันนี้ต่างมีเรื่องราวและผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งบางครั้งคนภายนอกที่ไม่ใช่เขาก็คงไม่มีวันเข้าใจ

ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เราเห็นกันได้ทั่วไปเลยนะ เช่น คนที่เขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงกับสิ่งที่เขาทำ ผลลัพธ์มักจะออกมาดีเสมอ และพอผลลัพธ์ออกมาดี เขาก็จะรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันถูกนะ มันดี และมันใช่ เขาก็จะทำต่อไป และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งชมว่าสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดนั้นเกิดจากคำว่า เข้าใจตัวเอง รักตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งชมก็อยากจะให้ผู้หญิงไทยอีกหลายๆ คน ที่ยังไม่มีความภาคภูมิใจและเคารพในตัวเองให้เริ่มหันมารักตัวเองก่อน

เพราะเมื่อเรารักตัวเองแล้ว เราก็จะเริ่มอยากต่อยอดจุดเด่นหรือศักยภาพที่เรามีให้ดียิ่งขึ้น และเป็นที่จดจำในสังคม

FACT BOX:

แคมเปญ Never Fade ของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ‘ดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอม’ เป็นการร่วมกันของ 4 ประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงร่วมค้นหาความพิเศษของตัวเองให้เจอ และนำความพิเศษนี้มาพัฒนาให้เกิดความโดดเด่น และเป็นที่น่าจดจำ โดยทางดาวน์นี่ตีความผ่านกลิ่นหอมที่ไม่มีวันจางหายของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอม สูตรอัพเกรดใหม่ ที่มาพร้อมหัวน้ำหอมเข้มข้นที่สุด ให้ความหอมติดทนนาน ยิ่งกว่าน้ำหอมระดับพรีเมี่ยม มั่นใจกลิ่นหอมไม่จางหายระหว่างวัน โดยแต่ละประเทศได้สรรหาผู้หญิงที่ตรงตามนิยามดังกล่าวมาเป็นตัวแทนสร้างแรงบันดาลใจนี้ ซึ่ง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้หญิงจากประเทศไทย

Tags: , ,