‘เย่า’ อาหารจีนผสมผสานเซี่ยงไฮ้และกวางตุ้ง เคล้าวิวเมืองบนยอดตึกถนนสุรวงศ์

เคลียร์คิวมื้อกลางวันและเย็นให้ว่าง แล้วมาที่ห้องอาหารและบาร์ ‘เย่า’ (Yào Restaurant) บนชั้น 32 ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ห้องอาหารจีนเซียงไฮ้และกวางตุ้ง ที่เหมือนบินไปกินถึงแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว

เมื่อก้าวเท้าเข้ามายังร้านอาหารบนชั้น 32  ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นประเทศจีน เพราะ ‘เย่า’ ได้หยิบยกการตกแต่งสไตล์จีนมาไว้ที่ห้องอาหารอย่างครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่แสดงเอกลักษณ์แบบจีนดั้งเดิมมารวมไว้ ขณะเดียวกันก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่ด้วยบรรยากาศดีๆ ผ่านทิวทัศน์มุมสูงของกรุงเทพฯ จากชั้น 32 ที่จะทำให้คุณดื่มด่ำกับความกลมกล่อมระหว่าง ‘จีน’ และ ‘ไทย’

ออเดิร์ฟรวมพิเศษ 9 ชนิด

ไม่เพียงแต่การผสมผสานที่เห็นผ่านการตกแต่งห้องอาหารเท่านั้น แต่ยังแทรกซ่อนอยู่ในสไตล์ของอาหาร ซึ่งก็คือความผสมผสานกันระหว่างอาหารสไตล์เซี่ยงไฮ้ ที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ฉูดฉาด และอาหารสไตล์กวางตุ้ง ที่นุ่มนวล ไม่จัดจ้าน ความแตกต่างทางรสชาติที่เห็นได้ชัดนี้ กับกลมกลืนและกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออยู่ในเมนูอาหารแต่ละจาน ด้วยฝีมือของเชฟชาวจีนมากประสบการณ์ 

ซุปเต้าหู้ดอกเหมยเสิร์ฟพร้อมเห็ดโมเรล

  นอกจากการตกแต่ง และสไตล์ของอาหารที่แสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนกันของสองสิ่งแล้ว เย่ายังมีจุดเด่นก็คือความผสมสานกันในเรื่องของรสชาติ นั่นก็คือการนำรสชาติอาหารที่หลากหลาย รวมเข้าไว้ด้วยกัน อย่างในเมนู ออเดิร์ฟรวมพิเศษ 9 ชนิด (488 บาท) ซึ่งก็คืออาหาร 9 รสชาติที่คนเซี่ยงไฮ้โปรดปราน เช่น ยำแมงกะพรุน กุ้งทอดซอสมะม่วง เต้าหู้ซอสถั่ว มะเขือเทศดองในน้ำกระเจี๊ยบ เป็ดย่าง หมูกรอบซอสวาซาบิ และไก่แช่เหล้าซอสแบบเผ็ด เป็นต้น โดยหลักการแนะนำให้กินของร้อนก่อนเผื่อไม่ให้เสียรสชาติ ต่อมาคือของทอด และของเย็นปิดท้าย

ผัดถั่วแขกเต้าหู้ทอด

ถัดจากออเดิร์ฟหลากรสก็จะเป็นซุปเต้าหู้ดอกเหมยเสิร์ฟพร้อมเห็ดโมเรล (388 บาท) เมนูมังสวิรัติรสชาตินุ่มนวล  ที่มีหน้าตาอ่อนหวานด้วยการนำเต้าหู้มาทำเป็นรูปดอกไม้ ลอยตัวเหนือซุปใสทำจากผัก รายรอบด้วยเห็ดโมเรลและผักเบบี้กวางตุ้งขาว

ซุปข้นฟักทองใส่เนื้อปูเสิร์ฟพร้อมข้าวตังกรอบ

   ซุปข้นฟักทองใส่เนื้อปูเสิร์ฟพร้อมข้าวตังกรอบ (398 บาท) ความผสมผสานของรสชาติในเมนูนี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านรสชาติมันและจืดของซุปข้นฟักทอง รสชาติเค็มกำลังดีของปูนิ่มผัดพริกเกลือ และรสชาติหวานๆ ของแกงเลียงแครกเกอร์ ที่เข้ากันได้ดีเมื่อกินพร้อมกัน 

ปลาหิมะอบในใบบัว

  ปลาหิมะอบในใบบัว (888 บาท) ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ความนิ่มของปลาหิมะที่มีกลิ่นหอมใบบัว  อีกทั้งยังมีซีอิ๊วแยกมาให้ราดเพื่อเพิ่มความอร่อยให้มีมิติยิ่งขึ้นมาถึงซิกเนเจอร์ของร้านกันบ้าง ผัดถั่วแขกเต้าหู้ทอด (328 บาท) เมนูชื่อธรรมดาที่รสชาติไม่ธรรมดาเลยสักนิด เพราะจุดเด่นของเมนูนี้คือรสชาติเผ็ดร้อนของถั่วที่กลมกลืนไปกับรสชาติเค็มๆ มันๆ ของเต้าหู้แห้ง อีกทั้งความกรอบยังเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้เป็นอย่างมาก 

เส้นสดดึงมือ เสิร์ฟพร้อมซอสหมูสับเสฉวนแบบเผ็ด

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ  เส้นสดดึงมือ เสิร์ฟพร้อมซอสหมูสับเสฉวนแบบเผ็ด (458 บาท) หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าก๋วยเตี๋ยวเส้นสดดึงมือ โดยเชฟจะออกมาดึงเส้นก๋วยเตี๋ยวสดๆ จากก้อนแป้งที่นวดเสร็จไว้เรียบร้อยแล้วด้วยมือให้เราดู ความพิเศษของเมนูนี้คือความสดใหม่และความนุ่มที่ผ่านการนวดอย่างพิถีพิถัน ราดด้วยซอสหมูสับ เห็ดหอม รสชาติเผ็ดนิดๆ  

เป็ดปักกิ่งห่อแป้งแพนเค้ก

  นอกจากความโดดเด่นของอาหาร เชฟยังสร้างความใกล้ชิดกับเรา ด้วยการออกมาแล่หนังเป็ดให้ชมกันถึงโต๊ะอาหารในเมนูเป็ดปักกิ่งห่อแป้งแพนเค้ก ซึ่งเป็นเป็ดสายพันธุ์เชอร์รี่ ไซส์ 3 กิโลกรัม เป็ดที่นี่มีสองสไตล์คือ สไตล์ฮ่องกง และสไตล์หนังกรอบ ห่อด้วยแป้งที่เพิ่มความหอมและนิ่มด้วยการนำไปจี่ ความโดดเด่นของเมนูนี้ก็คือ ซอสที่ราดเป็ดจะเปลี่ยนไปแต่ละเดือนเพื่อสร้างรสชาติแปลกใหม่ให้แก่ผู้มาทาน เช่น ซอสลิ้นจี่อัญชันที่มีสูตรเฉพาะ บางครั้งเป็นซอสมะม่วง เสาวรส แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือท็อปปิ้งคาเวียร์สีส้มสดใสที่มาเมื่อไรก็ได้กินอย่างแน่นอน 

ลูกสำรองแช่เย็น

  ของหวานที่นี่มีทั้งลูกสำรองแช่เย็นและลูกสำรองแบบร้อน (258 บาท) ลูกสำรองรสชาติกรุุบกรอบไร้เม็ด ได้รสชาติเนื้อเต็มที่ รายรอบด้วยเนื้อสำรองที่ละเอียดยิ่งกว่าวุ้น เนื่องจากผ่านการกรองมาอย่างดี  รสชาติไม่หวานนัก แต่สร้างความชื่นใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

Des-Tea-Ny

สำหรับอาหารมื้อนี้แนะนำจับคู่กับชาจีน ที่ทางร้านมีกิมมิกในการให้เราเลือกชาโดยการเสี่ยงเซียมซีที่เรียกว่า ‘Des-Tea-Ny’ ลุ้นว่าเราจะได้ชาแบบไหน ซึ่งอาจเป็นชาที่เราคุ้นเคยหรือไม่เลยก็เป็นได้ 

Shanghai, The City Upon the Sea

Dragon Fizz

หากกินอาหารจีนอิ่มแล้ว เราแนะนำให้ไปต่อด้วยเครื่องดื่มดีๆ สักแก้วสองแก้ว บนรูฟท็อปบาร์ที่เปิดโล่งมองเห็นกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนได้แบบ 360 องศา ส่วนจะสั่งเครื่องดื่มอะไร เราอยากให้ลองเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง Shanghai, The City Upon the Sea (298 บาท) แรงบันดาลใจจากเมืองเซี่ยงไฮ้แบบเต็มๆ ที่ใช้เหล้ารัมผสมอัญชันและลิ้นจี่ หรือจะเป็น Dragon Fizz (548 บาท) ที่ให้ความรู้สึกร้อนแรงแบบไทยๆ จินโทนิกที่มากับส้มโอ ผักชี ซอสสตรอว์เบอร์รี ท๊อปด้วยขิงและพริก