เคยไหม กลับบ้านหลังทำงานมาทั้งวัน ทำไมรู้สึกอ่อนล้า เหนื่อยสะสม เหมือนใช้พลังสมองจนหมด จนไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนอน

อาการเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทำงานหนักเสมอไป แต่สมองเรากำลังล้าต่างหาก!

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผู้ที่ต้องใช้ความคิด หรือทำงานที่ใช้หลายทักษะในเวลาเดียวกันหากไม่สามารถปรับตัวได้ อาจส่งผลให้งานไม่มีประสิทธิภาพ เกิดภาวะความเครียด เหนื่อยล้าทางอารมณ์ และหากปล่อยไว้อาจส่งผลให้เป็นจุดเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยได้

งานวิจัยยังระบุต่อว่า การทำงานที่ต้องใช้หลายทักษะในเวลาเดียวกัน เช่น เช็กอีเมล์ โทรศัพท์ พิมพ์งาน พิมพ์ไลน์ ประชุม คิดกลยุทธ์ และประสานงานกับผู้อื่น ในเวลาเดียวกันเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่างเช่น ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome) และบางกรณีอาจส่งผลให้ไอคิวลดลง

Brain Fog Syndrome อธิบายง่ายๆ คือภาวะเครียดไม่รู้ตัวจากการถูกใช้งานอย่างหนักเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากการพักผ่อนน้อย การเร่งรีบทำงานให้เสร็จ หรือแม้แต่การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป จนทำให้สารสื่อประสาทในสมองที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทเสียสมดุล และอาจนำไปสู่โรคอื่นๆ ได้อีกมากมายเช่น โรคกระเพาะ โรคอ้วน ประจำเดือนมาไม่ปกติ และโรคเบาหวาน

Checklist! สมองล้า หากคุณมีอาการเหล่านี้อาจแปลว่าคุณกำลังเผชิญกับภาวะสมองล้าอยู่! 

  1. นอนไม่หลับ นอนหลับยาก
  2. สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก
  3. นอนหลับไม่สนิท
  4. หงุดหงิดง่าย
  5. ขี้ลืม ความจำแย่ลง
  6. รู้สึกสมองไม่โลดแล่น
  7. ไม่สดใส ไม่สดชื่น
  8. คิดคำพูดไม่ค่อยออก มึนงง
  9. อารมณ์แปรปรวน
  10. ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้
  11. ปวดศีรษะเรื้อรัง
  12. เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียบ่อย

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานระบุแน่ชัดว่า อาการสมองล้าจะอยู่นานแค่ไหน หลายคนอาจรู้สึกเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจรู้สึกหนึ่งวัน หรือหลายสัปดาห์ แต่บางคนอาจยิงยาวหลายปี 

วิธีลดความเสี่ยงในภาวะสมองล้า

  1. จัดลำดับความสำคัญของงาน
  2. ควบคุมเวลาการใช้เทคโนโลยี และแบ่งเวลาหยุดพัก
  3. ลดการทำงานแบบ Multitasking
  4.  ไม่โต้ตอบกับงานยิบย่อยทันที เช่น ตอบข้อความที่แทรกขึ้นมาทันที เพราะกระทบกับสุขภาพมากกว่าที่คิด 
  5. พยายามไม่เครียด
  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที เพราะนอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพสมองแข็งแรงด้วย
  8. มีเวลาพักสมองออกไปเที่ยว
  9. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ หรือบุหรี่ในช่วงเวลาเครียดเพราะยิ่งทำให้สมองล้า
  10. ฝึกสมาธิ
  11. พัฒนาสมอง เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่นภาษา
  12. สำรวจความทรงจำผ่านการจดบันทึก 
  13. ตรวจสุขภาพประจำปี

เพราะเรื่องสมองเกี่ยวเนื่องกับร่างกายและจิตใจ ทำงานหนักได้แต่ไม่ควรละเลย การรักษาสุขภาพของตัวเอง 

 

ที่มา- https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30597

https://www.meresearch.org.uk/brain-fog-and-alzheimers/

https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2-brain-frog

https://www.bangkokhospital.com/th/bangkok-bone-brain/content/brain-fog-syndrome

https://www.ram-hosp.co.th/th/news_detail/2669

https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30597

Tags: , , ,