Nectome สตาร์ตอัปสัญชาติอเมริกัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 โดยสองนักวิจัยปัญญาประดิษฐ์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เปิดโปรเจ็กต์ที่จะดองสมองของมนุษย์เก็บไว้ เพื่อรักษาเซลล์ประสาทและไซแนปส์ (จุดประสานประสาท) ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว เป็นการเก็บรักษาความทรงจำที่ถูกเก็บไว้ที่นั่นด้วย ก่อนหน้านี้ พวกเขาชนะรางวัลจากมูลนิธิเพื่อการถนอมสมองสัตว์ โดยสามารถดองสมองกระต่ายและหมู ได้ในปี 2016 และ 2018 ตามลำดับ

Nectome ระบุว่า น้ำยาเคมีจะสามารถเก็บรักษาร่างกายไว้ได้นับร้อยปี หรืออาจเป็นนับพันปี โดยมีสภาพเหมือนกับแก้วแช่แข็ง ภายใต้แนวคิดที่ว่า สักวันในอนาคต นักวิทยาศาสตร์จะสแกนสมองที่ดับไปแล้ว แล้วเปลี่ยนมันเป็นแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีนี้ ใครบางคนที่เหมือนกับเรา แต่ไม่ใช่เราจริงๆ ก็อาจจะตื่นมาได้สูดดมกลิ่นดอกไม้อีกครั้งในเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลที่ไหนสักที่

โรเบิร์ต แมคอินไทร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Nectome เชื่อมั่นว่า มันจะเก็บได้เป็นร้อยปีและไม่เสื่อมสลาย เขาบอกให้ลองนึกถึงเทคโนโลยีแบบที่เรามีตอนนี้ แต่เร็วกว่าเป็นล้านเท่า “มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย”

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียหลักที่ถูกพูดถึงกันมากของโปรเจ็กต์นี้คือ สมองที่จะเอามาถนอมในกระบวนการนี้ได้ ต้องเป็นสมอง ‘สด’ พูดอีกอย่างก็คือ เจ้าของสมองจะต้องตายลง โดยตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่หมดสติไปเพราะฤทธิ์ยาสลบนั้น ร่างกายของเขาจะถูกต่อกับเครื่องปอดและหัวใจเทียม (Heart Lung Machine) เพื่อฉีดน้ำยาดองศพไปแทนการไหลเวียนของเลือด ทางหลอดเลือดแดงใหญ่ เพื่อถนอมโครงสร้างประสาท

แต่ถึงขนาดนี้ ก็ยังมีผู้เข้าคิววางมัดจำรายละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว 25 ราย รวมถึง แซม อัลท์มาน นักลงทุนวัย 32 ปี ประธาน Y Combinator บริษัทที่ให้การสนับสนุนสตาร์ตอัปจำนวนมากในซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าสมองของเขาจะถูกอัปโหลดขึ้นคลาวด์

ในแง่กฎหมาย Nectome เชื่อว่าบริการของพวกเขาจะถูกกฎหมายในบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกฎหมายการุณยฆาตที่เข้มแข็ง เช่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ถึงอย่างนั้น บริษัทก็ยังไม่มีแผนจะเปิดให้บริการจริงจนกว่าจะถึงปี 2021

สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนอีกอย่างคือ บริษัทยังไม่มีแผนที่เป็นจริงว่าจะกู้และอัปโหลดข้อมูลจากสมองอย่างไร โดยในเว็บไซต์บริษัทคาดการณ์ว่าจะสาธิตแบบจำลองของโครงข่ายประสาทชีวภาพที่ถูกอัปโหลดเต็มรูปแบบในปี 2024

อนึ่ง โครงการนี้จะมีการนำเสนอไอเดียใน Demo Day ของ Y Combinator สัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดยตอนนี้มีเงินระดมทุนแล้วหนึ่งล้านดอลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งได้จาก Y Combinator 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ และจากสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติสหรัฐฯ 960,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มาภาพ: MIT Technology Review

ที่มา:

Tags: , ,