“ข่าวด่วน มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กและเฟซบุ๊กสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่”  เป็นพาดหัวในโฆษณาที่ขึ้นมาบนเพจของอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิก ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2020 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม ก่อนที่จะอธิบายว่า นี่ไม่ใช่เรื่องจริง วอร์เรนจงใจซื้อโฆษณาทางเฟซบุ๊กด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความเท็จ

การตอบโต้เฟซบุ๊กของวอร์เรนครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากปลายเดือนที่แล้ว เฟซบุ๊กประกาศว่าจะยกเว้นไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-check) ในโพสต์ของนักการเมือง ในโพสต์นี้ วอร์เรนยังชี้ให้เห็นว่า “สิ่งที่ซัคเคอร์เบิร์ก ‘ได้ทำ’ ไปนั้น เปิดโอกาสให้ทรัมป์มีเสรีภาพในการโกหกบนแพลตฟอร์มของเขา จากนั้นก็จ่ายเงินให้เฟซบุ๊กเพื่อส่งคำโกหกของเขาไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน” 

วอร์เรนทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า “เราตั้งใจซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊กสำหรับการโพสต์เนื้อหาที่ไม่เป็นความจริงเพื่อดูว่าได้รับอนุมัติไหม ปรากฏว่าผ่านอย่างรวดเร็ว และตอนนี้โฆษณานี้ก็แสดงอยู่บนเฟซบุ๊ก” นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่า “เฟซบุ๊กมีอำนาจมากต่อการเลือกตั้ง และการถกเถียงในระดับชาติ เฟซบุ๊กยอมให้นักการเมืองโกหกคุณ แม้ว่าจะมีเนื้อหาผิดๆ เกี่ยวกับตัวเฟซบุ๊กเองก็ตาม”

นิค เคล็กก์ รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศและการสื่อสารของเฟซบุ๊ก ให้เหตุผลของการยกเว้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเนื้อหาของนักการเมืองว่า บริษัทมองว่าคำพูดของนักการเมืองเป็นเนื้อหาที่มีคุณค่าข่าว ซึ่งควรมีคนเห็นและได้ยิน” เขาเห็นว่าการตัดสินการโต้แย้งทางการเมืองหรือกีดกันคำพูดของนักการเมืองไม่ใช่บทบาทของเฟซบุ๊ก 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทั้งเฟซบุ๊กและทำเนียบขาวยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ 

ต้นสัปดาห์นี้ เฟซบุ๊กเพิ่งแจ้ง โจ ไบเดน ผู้สมัครเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ว่า จะไม่นำข้อความที่ทรัมป์ซื้อโฆษณาแล้วออก แม้ว่าจะลงเนื้อหาที่สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไบเดนก็ตาม โฆษกของไบเดนกล่าวว่า การแพร่กระจายข้อมูลผิดๆ เพื่อโน้มน้าวความคิดเห็นของสาธารณะ เป็นการทำลายประชาธิปไตย การที่บริษัทโซเชียลมีเดียยินยอมให้มีการเผยแพร่เนื้อหาที่ตนเองก็รู้ว่าผิดบนแพลตฟอร์มของตัวเองเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เฟซบุ๊กประกาศใช้เครื่องมือที่จะทำให้การโฆษณาทางการเมืองโปร่งใสมากขึ้น เช่น Ad Library ที่เก็บข้อมูลแคมเปญโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทุกชิ้นของทุกกลุ่มการเมืองที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก และเงินที่ใช้ไป แต่ก็มีการถกเถียงกันว่าเพียงพอหรือไม่ วอร์เรนได้เรียกร้องมาตลอดให้เลิกใช้บริการของเฟซบุ๊กและบริษัทไอทีขนาดใหญ่ โดยบอกว่าพวกเขาสร้างอิทธิพลมากเกินไป 

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งมีรายงานบันทึกการพูดคุยภายในกับพนักงานของมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กออกมาว่า เขาบอกว่าถ้าวอร์เรนได้เป็นประธานาธิบดี ผมพนันได้เลยว่า เราจะเจอความท้าทายทางกฎหมายแน่นอน และผมพนันว่า เราจะชนะ

 

ที่มา:

 

ที่มาภาพ: Lucas Jackson / Reuters

Tags: , , , ,