ฝั่งหนึ่งของถนนคือภาพบ้านเรือนที่จมอยู่ใต้น้ำจนเกือบมิดหลังคา ชาวบ้านไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องระหกระเหินออกมานอนริมถนนที่มีเต็นท์ผู้ประสบภัยตั้งอยู่ ในขณะที่หากมองไปอีกฟากฝั่งของถนน เราจะพบภาพทุ่งนาปลอดน้ำท่วม เพราะมีคันดินสูง สร้างโดยกรมชลประทานกั้นน้ำไม่ให้ไหลผ่านถนน ทำให้บ้านชาวบ้านฝั่งนอกคันกั้นน้ำ จำต้องตกอยู่ใต้น้ำ และกลายเป็นพื้นที่ประสบน้ำท่วมทุกๆ ปี นี้คือสภาวะที่ชาวบ้านตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องประสบพบเจอ
“เมื่อก่อนถนนจะสูงแค่ 1 เมตร ตอนนี้ถนนสูง 2 เมตร”
“แล้วจะให้ทํายังไง เขาบอกว่าจุดรับน้ำบางบาล เราก็เป็นทุกปี แก้ไขที่ต้นเหตุก็คือ พวกเราต้องดูแลตัวเอง”
“ทําหมดเป็นแสนแล้ว ถมดินมาจากพื้นดินทั้งหมด 3 เมตร ยังไม่รอด มันเป็นเงินอนาคตนะ ซึ่งเราควรจะเก็บไว้กินตอนที่เราเกษียณใช่ไหม แต่เราต้องมาทําบ้าน”
“ใครบอกเดี๋ยวก็ชิน มันไม่ชินหรอก”
เสียงจากประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านกุ่ม ที่ต่างก็ต้องดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดจากน้ำท่วมที่หนักขึ้นกว่าปีไหนๆ
เมื่อรัฐสร้างถนนให้สูงขึ้นทุกปีเพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลผ่านท่วมฝั่งทุ่ง และล่าสุดมีการสร้างถนนที่สูงราวกับเขื่อนกั้นน้ำ บริเวณส่วนขยายจากประตูคลองบางบาล แม้ฝั่งคลองบางบาลจะไม่ท่วม แต่กรรมไปตกอยู่กับชาวบ้านฝั่งนอกคันกั้นน้ำแทน ส่งผลให้ชาวบ้านต้องเจอสภาวะน้ำท่วมที่หนักขึ้น
The Momentum จะพาไปฟังเสียงชาวบ้านในพื้นที่ 1 ใน 16 อำเภอที่ถูกน้ำท่วม และเหล่าเครือข่ายภาคประชาชนที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังพบกับสภาวะน้ำท่วมที่ไม่ได้มาจากสาเหตุทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการบริหารจัดการน้ำของรัฐ และการสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำที่ถูกเลือกมาแล้ว โดยไม่ได้ถามผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ต้องจำยอมและไม่ได้รับการเยียวยาชดเชยที่เหมาะสม
Tags: น้ำท่วม, อยุธยา



