บ่อยครั้งที่การมีบัตรเครดิตสักใบดูจะเป็นเรื่องยาก ไหนจะต้องกรอกเอกสาร รอการอนุมัติ ยืนยันตัวตน รวมทั้งความอ่อนไหวเรื่องการใช้จ่าย ใบแจ้งหนี้ตรงกับที่เราใช้จ่ายไปไหม ไปต่างประเทศก็กลัวจะถูกแฮ็กบัตรเครดิต คอลเซ็นเตอร์ให้ถือสายรอนาน จะเอาแต้มแลกของรางวัล ก็ไม่รู้ว่าเรามีกี่แต้ม
สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาของผู้ใช้บัตรเครดิตมาเนิ่นนาน
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ พัฒนาแอปพลิเคชัน UChoose สำหรับลูกค้าผู้ใช้บัตรเครดิตในเครือกรุงศรี เพื่อบริหารจัดการการใช้บัตรเครดิตและแก้ปัญหาความยุ่งยากดังกล่าว โดยได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ผ่านไปเพียงแค่ปีเดียว ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยตัวเลขดาวน์โหลดและลงทะเบียนแอปฯ UChoose ว่ามีมากถึง 1.2 ล้านคน และมียอดผู้ใช้งานเป็นประจำ (Active Users) ราว 3 แสนคนต่อวัน
แอปฯ ที่เข้าใจปัญหาของผู้ใช้บัตรเครดิต
กว่าจะมาเป็นแอปฯ UChoose ไม่ใช่เรื่องง่าย เริ่มแรกได้จ้างทีมคณะทำงาน D.School จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมาสอนเรื่อง Design Thinking เพื่อเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงาน โดยต้องพัฒนาแอปฯ ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว สามารถมีฟีเจอร์ออกใหม่ทุกสองอาทิตย์ และในองค์กรก็ต้องมีการทำงานที่รวดเร็วและสามารถต่อสู้รับมือกับฟินเทคต่างๆ ได้
“เราตั้งใจสร้างแอปฯ สำหรับลูกค้าถือบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อส่วนบุคคลในเครือกรุงศรี คอมซูมเมอร์ เราพบปัญหาของลูกค้าและช่องทางการติดต่อ ก็คิดว่าจะมีเครื่องมือในการแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง ตอนแรกคาดว่าจะมีคนใช้แอปฯ แค่ 3-5 คน ซึ่งถือว่าเก่งแล้ว”
“เราดีไซน์แอปฯ จากความเข้าใจปัญหาของลูกค้า เนื่องจากข้อมูลในสเตตเมนท์กว่าส่งจะมาถึงมือลูกค้า ก็ไม่อัพเดทแล้ว ลูกค้าอยากรู้ข้อมูลล่าสุดว่าวงเงินเหลือเท่าไร ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง มีข้อมูลเยอะมากที่เขาอยากรู้ บางครั้งคอลเซ็นเตอร์ก็ติดต่อยาก เราเลยรวบรวมทุกปัญหาและอุปสรรคมาพัฒนาเป็นแอปฯ UChoose”
ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ฐากรยังได้เปิดเผยตัวเลขการเติบโตแบบก้าวกระโดดของแอปฯ Uchoose ในระยะเวลาเพียง 1 ปี ว่ามี มีผู้ดาวโหลดและลงทะเบียนใช้งาน 1.2 ล้านคน โดยเป็นคนที่อายุ 25-34 ปี มีสัดส่วน 51% รองลงมาคือคนอายุ 35-44 ปี มีสัดส่วน 25% คนอายุ 18-24 ปี มีสัดส่วน 11% ต่อมาเป็นคนที่มีอายุ 45-54 ปี มีสัดส่วน 9% และคนที่อายุ 55 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 4%
นอกจากนี้ยังอัปเดตแอปฯ ทั้งหมด 35 ครั้ง สำหรับการปรับแก้และเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ โดยมีผู้ใช้งาน 3 แสนคนต่อวัน มีลูกค้าเข้ามาข้อดูรายการที่ใช้จ่ายรวม 24 ล้านครั้งต่อปี และทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิต มีการแจ้งเตือนการใช้จ่ายจำนวน 22 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่า SMS ได้กว่า 8 ล้านบาท รวมทั้งมีลูกค้าสมัครใช้ E-Billing ประมาณ 6-7 หมื่นคน ช่วยลดต้นทุนการจัดส่งสเตตเมนต์ในรูปของเอกสาร และมีลูกค้า 7-8 หมื่นคนที่นำแต้มไปแลกของรางวัลผ่านแอปฯ UChoose โดยไม่ต้องผ่านคอลเซ็นเตอร์
การบริการ การตลาด และขยายฐานลูกค้า
ฐากรบอกว่า UChoose ไม่ได้เป็นเพียงแค่แอปพลิเคชันเพื่อการบริการลูกค้า แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดที่เน้นประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า (Big Data) เพื่อให้บริการที่ตรงใจลูกค้าที่สุด โดยมี 3 ปัจจัยที่ทำให้ UChoose ประสบความสำเร็จและเป็นกุญแจสู่การตลาดยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
- ยกระดับการบริการ
ลงทะเบียนครั้งเดียว ก็สามารถเรียกดูข้อมูลของทุกบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่เป็นสมาชิกได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ต่างๆ การตรวจสอบยอดวงเงินคงเหลือและรายการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ การแจ้งเตือนการใช้บัตร และฟีเจอร์อื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือบัตร
- เสริมประสิทธิภาพการตลาด
ด้วยฐานข้อมูลลูกค้าผ่านแอปฯ จะช่วยให้ส่งมอบโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น การแจ้งเตือนโปรโมชั่นของร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่เราอยู่ในปัจจุบัน การวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้บัตร เพื่อนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการตลาดตามความสนใจของลูกค้า การเชื่อมต่อระบบกับร้านค้าและพันธมิตรอื่นๆ ที่นำคะแนนสะสมบัตรเครดิตมาแลกผ่านแอปฯ ได้โดยตรง
- การขยายฐานลูกค้า
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีแผนจะขยายฐานลูกค้า โดยใช้ฐานข้อมูลลูกค้าและการเชื่อมต่อระบบที่มีประสิทธิภาพ มาช่วยออกบริการใหม่ๆ ผ่านแอปฯ UChoose หนึ่งในนั้นคือผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถขอผ่อนชำระสินค้าและบริการผ่านบัตรเครดิต (Installment Plan On Demand) ผ่านแอปฯ UChoose ได้ และในอนาคต เมื่อโครงการ National Digital ID มีผลบังคับใช้ ก็มีแผนจะให้บริการสินเชื่อออนไลน์แบบโมบายแบงก์กิ้งผ่านแอปฯ เช่นกัน
มีอะไรใหม่ในปี 2018
สำหรับเป้าหมายในปี 2018 คือยอดผู้ใช้งาน 2 ล้านคน โดยนอกจากฟีเจอร์เดิมที่มีอยู่แล้วอย่างการดูข้อมูลใช้จ่ายทั่วไป ระยะเวลาเรียกเก็บ การใช้บาร์โคดชำระเงินที่ร้านสะดวกซื้อหรือธนาคาร การใช้แต้มในบัตรเครดิตแลกของรางวัล สเตตเมนต์แบบ E-Billing และการแจ้งเตือนทุกคนที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ในปี 2018 จะมีฟีเจอร์ใหม่ นั่นคือ
- การใช้แต้มแลกเป็นตั๋วหนังในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กับบริการ U Cinema โดยสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรีและกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ ทำผ่านแอปฯ ได้เลย สามารถเลือกเรื่อง รอบ และโรงได้ และใช้ QR Code แทนการใช้บัตรชมภาพยนตร์
- ชำระเงินผ่าน QR Code จากผู้ถือบัตร Visa และ Master Card โดยร้านค้าไม่จำเป็นต้องมีเครื่องรูดบัตร ใช้ QR Code สแกนจากบัตรเครดิตได้เลย
- กู้ยืมเงินออนไลน์ (Digital Lending) หากรัฐบาลอนุมัติให้ใช้ National Digital ID กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็ดำเนินการได้ทันที โดยลูกค้าทำการขออนุมัติผ่านแอปฯ ได้ ตั้งแต่กรอกข้อมูล ยืนยันตัวตน รอการอนุมัติ และถ้าผ่านการอนุมัติก็จะได้เป็น Visual Card ใช้ได้ทันที
- นำแต้มในบัตรเครดิตไปเป็น E-Coupon สแกนแลกของรางวัลตามที่ต่างๆ กับพันธมิตรของกรุงศรี คอนซูมเมอร์
- การควบคุมการใช้บัตรเครดิตด้วยตัวเองผ่านแอปฯ UChoose ตั้งแต่วงเงินของบัตรดิตที่ปรับเปลี่ยนเองได้ การเลือกประเทศที่จะไปใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่าย ป้องกันการถูกขโมยบัตรหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ถือบัตรมากขึ้น
นอกจากนี้ ฐากรยังเผยถึงนโยบายเรื่อง QR Code ของกรุงศรีว่าจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
- ร้านค้าขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต
- ร้านค้าขนาดกลาง เช่น ร้านขายเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี 4-5 สาขา
- ร้านค้าเดี่ยว เช่น ร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านอาหาร
- วัดวาอาราม
- ร้านค้ารายย่อยตามตลาดนัด หรือร้านค้าริมถนน
“แต่ละธนาคารมีความถนัดไม่เหมือนกัน ของเราเน้นกลุ่มระดับกลางและระดับบนไว้ก่อน คือบริษัทใหญ่ เนื่องจากการทำ QR Code จำเป็นต้องลิงก์กับระบบหลังบ้านของเขาด้วย ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการทำ เพราะต่อไปการ Cash on Delivery คนสั่งของ พอได้แล้วก็สแกนจ่ายเงินได้เลย ระบบก็ต้องลิงก์ไปหลังบ้านของบริษัทที่มาส่งของได้ทันที” ฐากรกล่าวทิ้งท้าย
Tags: U Cinema, กู้ยืมเงินออนไลน์, Digital Lending, UChoose, กรุงศรี คอนซูมเมอร์, ฐากร ปิยะพันธ์