ในการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกจับตาดูระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันที่ 12 มิถุนายน ที่เกาะเซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์สิ้นสุดลงด้วยความชื่นมื่นของทั้งสองฝ่าย
การประชุมครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากความขัดแย้งที่ยาวนานตั้งแต่ช่วงปี 1950
การพบกันครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง คิมเดินทางมาถึงที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา เมื่อเช้านี้ ก่อนที่จะเริ่มต้นพูดคุยแบบตัวต่อตัว ทั้งคู่พบกันที่บันไดของโรงแรม จับมือกันหน้าธงชาติของทั้งสองประเทศทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เขามั่นใจว่าการเจรจาครั้งนี้จะเป็น ‘ความสำเร็จยิ่งใหญ่’ ขณะที่คิมกล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาถึงที่นี่ อคติและการปฏิบัติแบบเก่าเป็นอุปสรรค แต่เราเอาชนะมันมาได้ และเราก็มายืนอยู่ตรงนี้”
จากนั้นทั้งคู่เดินไปที่ห้องประชุมพร้อมกัน คิมพูดกับทรัมป์ผ่านล่ามว่า “หลายคนในโลกนี้อาจจะคิดว่านี่เป็นแฟนตาซีอย่างหนึ่งในหนังไซไฟ” ผู้นำทั้งสองคนเริ่มต้นการหารือแบบตัวต่อตัวเป็นเวลา 40 นาที โดยมีล่ามฝ่ายละ 1 คนเท่านั้น ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “การพูดคุยกับคิมจองอึน ‘ดีกว่าที่ใครคาดไว้’
จากนั้นเป็นการเจรจาทวิภาคีร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายละ 3 คน ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที และการหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะมีการลงนามบางอย่างแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดบอกเพียงว่า ‘เป็นเอกสารที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆ’
คิมกล่าวว่า “วันนี้เรามีการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เราตัดสินใจที่จะทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง โลกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผมอยากจะแสดงความขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำให้การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นได้” หลังจากที่ทั้งคู่ลงนามในเอกสารที่ไม่มีใครรู้ว่าระบุรายละเอียดอะไรบ้าง ทรัมป์และคิมก็เดินทางออกจากเกาะเซนโตซ่า
ทรัมป์กล่าวก่อนแยกจากกันว่า “เป็นวันที่ยอดเยี่ยม และเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และเรียนรู้เกี่ยวกับอีกประเทศมากมาย” และเมื่อถามว่าเขาเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับคิม ทรัมป์ตอบว่า “ผมเรียนรู้ว่า เขาเป็นคนที่มีไหวพริบมากคนหนึ่ง และผมยังได้รู้ว่าเขารักประเทศของตัวเองมากๆ” จากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกันอีกครั้ง
“เราจะเจอกันอีกหลายครั้ง” ทรัมป์กล่าวก่อนเดินลงบันได
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายลงนาม แต่สื่อมวลชนพยายามอ่านจากภาพถ่ายของเอกสารที่ทรัมป์ถือตอนถ่ายภาพ ประเด็นหลักในเอกสารที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกัน ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะ “ร่วมมือกันปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ในคาบสมุทรเกาหลี” และจะ “สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และเกาหลีเหนืออีกครั้ง”
เป็นข้อตกลงที่ใช้ภาษาคล้ายกับที่เกาหลีเหนือลงนามร่วมกับเกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งยังมีภาพปรากฏทางสื่อ เป็นภาพประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุนแจอินยิ้มตลอดการดูการถ่ายทอดสดการประชุม
ที่เกาหลีเหนือ รายงานจากสำนักข่าวของรัฐบาลเป็นแค่รายงานการเดินทางเยือนต่างประเทศเท่านั้น เช่น ภาพที่เขาถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ เดินอยู่บนทางเท้า ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป ส่วนทรัมป์มีกำหนดที่จะแถลงข่าวเพียงลำพังในช่วงบ่าย ก่อนที่จะเดินทางออกจากสิงคโปร์ในเย็นวันนี้
ที่มาภาพ: Susan Walsh/Pool via Reuters
ที่มา:
https://www.nytimes.com/2018/06/11/world/asia/trump-kim-live-updates.html
https://edition.cnn.com/politics/live-news/trump-kim-jong-un-meeting-summit/index.html
