เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยมีขนาดร่วม 78,050 ตารางกิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิดที่กำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น หมีขั้วโลก หมาป่าอาร์กติก กวางคาริบู นกอพยพนับล้าน และสัตว์ป่าชนิดต่างๆ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดำเนินการขั้นสุดท้ายเพื่อเตรียมเปิดพื้นที่บางส่วนของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติก (Arctic National Wildlife Refuge) ในรัฐอะแลสกา โดยมีเป้าหมายพัฒนาโครงการขุดเจาะน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ การตัดสินใจดังกล่าวนับเป็นจุดจบของผืนป่าที่ได้รับการปกป้องมายาวนานกว่าหกทศวรรษ ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ แถลงว่าได้สอบทานเงื่อนไขการให้สัมปทานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเปิดประมูลภายในปลายปีนี้

การเดินหน้าครั้งนี้ของรัฐบาลทรัมป์อาจนำไปสู่การฟ้องร้องครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่อชะตากรรมเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งซึ่งคาดว่าเป็นที่ตั้งของน้ำมันปริมาณหลายพันล้านบาร์เรล นักสิ่งแวดล้อมระบุว่ารัฐบาลล้มเหลวที่จะพิจารณาผลกระทบจากโครงการน้ำมันและแก๊สธรรมชาติต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสัตว์ป่าอย่างรอบด้าน องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมจับมือกับกลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่นในอะแลสกาเพื่อฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐโดยหวังว่าจะป้องกันไม่ให้การเปิดสัมปทานเกิดขึ้นได้

ถึงแม้ว่าการเดินเครื่องขุดเจาะและผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลอาจไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะบริษัทที่ได้รับสัมปทานต้องดำเนินการสำรวจและขอใบอนุญาตซึ่งอาจใช้เวลาร่วมสิบปี แต่สิ่งที่นักอนุรักษ์กังวลคือ หากมีการขายสัมปทานให้กับภาคเอกชนแล้วก็เป็นการยากที่ประธานาธิบดีคนต่อไปซึ่งเห็นต่างจากทรัมป์จะยกเลิกสัมปทานดังกล่าว

หนึ่งในวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีทรัมป์คือความหวังที่จะสร้างความมั่นคงทางพลังงานในประเทศ โดยโครงการขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิลในอาร์กติกเป็นส่วนหนึ่งในภาพฝันดังกล่าว นอกจากนี้ ความพยายามขุดเจาะน้ำมันในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกยังเป็นเป้าหมายของพรรครีพับลิกันตั้งแต่ พ.ศ. 2530 แต่ถูกขัดขวางโดยพรรคเดโมแครตมาโดยตลอด กระทั่งสามารถผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้เปิดสัมปทานได้ในปี พ.ศ. 2550 ในช่วงเวลาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา

อย่างไรก็ดี เหล่าบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสนใจสัมปทานดังกล่าว เพราะเราอยู่ในช่วงเวลาที่หลายประเทศพยายามลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล อีกทั้งราคาน้ำมันก็ร่วงลงอย่างมากนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 อีกทั้งการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในสภาพอากาศของอาร์กติกยังยุ่งยากและใช้ต้นทุนสูง ผนวกกับความเสี่ยงที่สูงลิ่วเพราะไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกมีปริมาณเชื้อเพลิงฟอสซิลมากน้อยเพียงใด

การที่ทรัมป์แตะต้องเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกอาจกลายเป็นประเด็นปัญหาในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ใกล้เข้ามา โดยโจ ไบเดน ตัวแทนผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว และเสนอว่าควรมีการออกกฎหมายคุ้มครองเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกแบบถาวรซึ่งสอดคล้องกับความเห็นส่วนใหญ่ของคนอเมริกัน

ที่มา:

https://www.nytimes.com/2020/08/17/climate/alaska-oil-drilling-anwr.html

https://www.npr.org/2020/08/17/903239366/trump-administration-sets-plan-for-oil-drilling-in-arctic-refuge

https://www.theguardian.com/us-news/2020/aug/17/trump-alaska-arctic-wildlife-refuge-drilling

ภาพ: REUTERS

Tags: