อเล็กซานดร้า คาร์สัน หญิงข้ามเพศที่ต้องเผชิญกับปัญหาชื่อจริงของเธอที่ยังคงเป็นชื่อผู้ชาย ทำให้เธอพลาดโอกาสที่จะได้งานที่เธอมีประสบการณ์และคุณสมบัติเพียงพอ การเปลี่ยนชื่ออาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่กับชาวรัฐเท็กซัสอย่างคาร์สัน ที่เคยถูกตัดสินโทษคดีอาญามาก่อน และอยู่ในช่วงคุมประพฤติ เนื่องจากกฎหมายของรัฐห้ามไม่ให้คนที่ได้รับโทษจำคุกคดีอาญาเปลี่ยนชื่อหลังจากพ้นโทษไปแล้ว 2 ปี ซึ่งรวมถึงการภาคทัณฑ์หรือคุมประพฤติด้วย คาร์สันต้องใช้ชื่อเดิมของเธอไปจนกว่าระยะเวลาคุมประพฤติจะสิ้นสุด นั่นคือปี 2025 เธอเป็นหญิงข้ามเพศหนึ่งในสามคนที่ฟ้องทางการรัฐเท็กซัสเมื่อปีที่แล้ว จากการที่บังคับให้พวกเธอต้องใช้ชื่อที่ไม่ตรงกับเพศสภาพของตนเอง

เมื่อปี 2019 มีคนข้ามเพศฟ้องคดีในลักษณะเดียวกันนี้ 4 คดี ในรัฐต่างๆ ได้แก่ เท็กซัส วิสคอนซินและอิลลินอยส์ที่กำลังดำเนินการอยู่ และที่เพนซิลวาเนียที่จะขึ้นศาลครั้งแรกในเดือนหน้า
ในรายละเอียดของคดีบอกเล่าถึงความคับข้องใจของคนข้ามเพศในเรือนจำของรัฐเหล่านี้ที่ต้องใช้ชื่อที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดในจดหมายทางการและระบบโทรศัพท์ของเรือนจำ ทำให้เวลาที่นักโทษใช้โทรศัพท์ จะมีเสียงเตือนทุกๆ 5 นาที ระบบจะขานชื่อเดิมของพวกเขา ซึ่งจากคำร้องทุกข์จำนวนหนึ่งเผยว่า ระบบนี้ทำให้พวกเขาติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนน้อยลงเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้รู้สึกอาย

แม้แต่หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ การเผชิญหน้ากับตำรวจก็กลายเป็นปัญหา เมื่อถูกตำรวจขอให้จอดรถและตรวจใบขับขี่ ซึ่งชื่อที่ไม่ตรงกับเพศสภาพทำให้ตำรวจเข้าใจว่าพวกเธอขโมยรถมา

มอยร่า เมลท์เซอร์-โคเฮน หนึ่งในผู้ฟ้องคดีในรัฐเท็กซัสกล่าวว่า ชื่อเรียกที่ทำให้เข้าใจเพศสภาพผิดไปไม่ต่างจากการถูกทรมาน

“และมันเป็นสัญญาณของความไม่เคารพที่จะนำไปสู่การคุกคามดูหมิ่นชาวข้ามเพศอย่างรุนแรง ทั้งจากผู้คุมและนักโทษคนอื่นๆ”

นอกจากนี้ คนข้ามเพศที่ชื่อไม่ตรงกับรูปลักษณ์ก็มีปัญหาอย่างมากในการสัมภาษณ์งาน การที่ตำรวจเรียกให้หยุดรถ การทำธุรกรรมกับธนาคาร หรือแม้แต่การพบแพทย์

ปัจจุบันนี้มีอย่างน้อย 17 รัฐ ที่ผู้ที่ถูกตัดสินโทษคดีอาญาถูกห้ามไม่ให้เปลี่ยนชื่อทั้งแบบตลอดชีวิตและชั่วคราว ตามข้อมูลของมาร์แชลโปรเจกต์ แต่กฎหมายกำลังเปลี่ยนไป ในปี 2017 สภานิติบัญญัติแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียร์ออกกฎหมายให้คนข้ามเพศสามารถเปลี่ยนชื่อได้ง่ายขึ้นในขณะที่จำคุก แต่ที่อินเดียน่ากลับตรงกันข้าม ปีที่แล้วได้เริ่มสั่งห้ามไม่ให้ใครก็ตามที่ถูกตัดสินโทษคดีอาญาเกี่ยวกับความรุนแรงหรือเพศเปลี่ยนชื่อ
“มันเป็นเรื่องอันตรายที่ใครบางคนจะเปลี่ยนชื่อตัวเองและพยายามบิดเบือนตัวตน” เอ็ด เคลียร์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันแห่งรัฐอินเดียน่า ผู้สนับสนุนการห้ามเปลี่ยนชื่อกล่าว “ตัวอย่างเช่น ใครบางคนที่เคยก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับเด็ก ปิดบังอดีตของตัวเองไว้โดยการเปลี่ยนชื่อ แล้วเข้าไปสมัครงานที่ได้อยู่ใกล้เด็กๆ”

อย่างไรก็ตาม นักรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนชื่อได้ตอบโต้ว่า แม้ชื่อใหม่จะทำให้ใครบางคนปิดบังอดีตได้จากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต แต่ก็ไม่ได้ทำให้รอดพ้นจากการบังคับใช้กฎหมาย หรือการเช็คประวัติจากนายจ้าง เพราะในหลายๆ รัฐการเปลี่ยนชื่อต้องยื่นเอกสารหลักฐานอย่าง หมายเลขประกันสังคมและวันเกิด ที่นายจ้างจะสามารถนำไปเช็คได้ รวมถึงหมายเลขนักโทษ ดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือ

ที่มา
https://www.vox.com/identities/2020/1/27/21080255/trans-women-name-change-lawsuits
https://www.theblaze.com/news/transgender-felons-name-change

ภาพ : Sarah Jane Rhee