พรรคเพื่อไทยเป็นโต้โผ รวม 7 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย แถลงจับมือกันประกาศพร้อมจัดตั้งรัฐบาล ในขณะที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ซึ่งประกาศจุดยืนฝั่งประชาธิปไตยก่อนหน้านี้ไม่สามารถมาร่วมได้เนื่องจากติดภารกิจที่ กกต.

โดยสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ จากพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า “พวกเรา 7 พรรคการเมืองได้พูดคุยกัน ถึงการทำงาน ประกาศเป็นสัญญาประชาคม ว่ามีเจตนารมณ์ที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. และทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่ได้เลือกเข้ามามากที่สุด แม้ตัวเลขจะยังไม่นิ่งแต่ไม่ต่ำกว่า 255 ในวันนี้พรรคฝั่งประชาธิปไตยและไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ คสช. ถือว่าได้ฉันทานุมัติจากเสียงของประชาชนแล้ว ให้สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ และจะส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการเมืองที่สร้างสรรค์”

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า “สถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นประโยชน์ต่อการเมืองไทยในระยะยาว จึงตัดสินใจร่วมกับพรรคการเมืองบนเวทีนี้ ร่วมกันหยุดยั้งอำนาจของ คสช. โดยมีจุดยืน 5 ข้อ นั่นคือ

1. เราจะร่วมกับพรรคการเมืองที่ร่วมแถลงข่าวในวันนี้ สกัดกันการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้ถึงที่สุด 2. เชิญชวนพรรคการเมืองอื่นที่เคยสัญญากัยประชาชนไว้ในระหว่างหาเสียงว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้มาร่วมกันสร้างรัฐบาล 3. นายกรัฐมนตรีควรจะมาจากพรรคที่ได้ ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง อนาคตใหม่สนับสนุน คุณหญิงสดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี 4. เรียกร้องพรรคการเมืองที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และใช้กลไก ส.ว. สนับสนุน ว่ารังแต่จะทำให้สังคมเดินไปสู่ทางตัน 5. เรียกร้อง ให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย กล่าวเป็นคนที่สามว่า “ยืนยันว่าพรรคเสรีรวมไทย ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และยืนหยัดอยู่ฝ่ายพรรคประชาธิปไตย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม และขอเรียกร้องให้พรรคอื่นๆ ให้ยึดมั่นในระบอบการปกครองประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่ เช่นเดียวกันกับ กกต. ก็ขอให้พยายามจัดการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยบริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้คนในชาติดูถูกเหยียดหยาม และผมขอเรียกร้องให้คุณประยุทธ์เสียสละ ลาออกไปซะ ให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง แล้วบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย”

วันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ กล่าวว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ทั้งโลกจับตามองอยู่ว่าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยหรือเป็นการสืบทอดอำนาจ คสช. รัฐบาลที่จะเข้ามาทำงานในอนาคตควรจะเป็นรัฐบาลที่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ประชาธิปไตยเท่านั้นจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในประชาชนในประเทศและต่างประเทศ อยากเห็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ คือ 250 เสียงขึ้นไป ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็แล้วแต่ ต้องอาศัยสภาผู้แทนฯ เป็นหลัก ใครคิดจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยอาศัย ส.ว. จะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ใครจะกล้ามาเสี่ยงกับรัฐบาลที่เสี่ยงว่าจะถูกอภิปรายเมื่อไหร่ให้ตกเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกคนควรจะเห็นแก่ประชาชนกับประเทศชาติมากกว่าพวกพ้อง เราอยากจะเห็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยและมีเสถียรภาพ และหวังว่า กกต. เคารพในกฎข้อบังคับ ความเชื่อถือต่อ กกต. จะมีได้ ก็ต่อเมื่อท่านปฏิบัติอย่างเป็นกลางอย่างแท้จริง ท่านยังมีเวลาที่จะสร้างความเชื่อมั่นอยู่เพื่อให้คนเห็นว่าท่านเป็นกลางอย่างแท้จริง และควรักษาเกียรติประวัติของตัวเองมากกว่าเป็นเครื่องมือของใคร วันนี้คะแนนดิบมาถึงแล้ว ทำไมยังไม่ประกาศ ท่านรออะไร ไม่จำเป็นต้องรอประกาศผลวันที่ 9 พ.ค.”

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า “เรามาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย เราก็ต้องยืนยันในกระบวนการประชาธิปไตย เราอยากจะเห็นการตั้งรัฐบาลขอให้ทำตามหลักสากล คือเสียงส่วนใหญ่ ใครก็แล้วแต่คิดจะใช้เล่ห์กลอุบายต่างๆ ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยมัยไม่ถูกต้อง อยากให้ประชาชนไตร่ตรองให้ดีว่าคุณประยุทธ์จะเข้ามาสลายความแตกแยกหรือกลับเข้ามาสร้างความแตกแยกกันแน่ และสุดท้ายฝากถึง กกต. ให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของประเทศไทยด้วย ถ้าท่านทำดีก็เป็นศักดิ์ศรีของท่านและประเทศด้วย”

นิคม บุญวิเศษ พรรคพลังปวงชนไทย ระบุว่า “เรามีอุดมการณ์มาตั้งแต่ต้นว่าเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด ถึงแม้เราจะเป็นพรรคน้องใหม่ มีเพียงหนึ่งคะแนน แต่เรามั่นใจว่าเราตัดสินใจถูกต้อง เราต้องการอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ประเทศไทยช้าหรือเร็วก็ต้องเป็นประชาธิปไตย ทำไมเราไม่สร้างประชาธิปไตยตั้งแต่วันนี้ และขอสนับสนุนพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามหลักสากล และฝากเรียน กกต. หวังว่าคะแนนของเราจะไม่ลดลงหลังจากนี้”

ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคที่ 7 ที่จะมาร่วมคือพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ได้มาวันนี้ ได้เคยยืนยันคำกล่าวว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ แต่วันนี้ติดภารกิจไม่สามารถมาได้ พร้อมยืนยันยังไม่เคยเสนออนุทินเป็นนายกฯ

“พรรคเพื่อไทยยังไม่เคยเสนอให้คุณอนุทิน (ภูมิใจไทย) เป็นนายกรัฐมนตรี นี่ไม่ใช่เงื่อนไขที่เราใช้ต่อรองกับใคร เงื่อนไขคือทุกพรรคการเมืองต้องยืนยันเจตนารมณ์ไม่สืบทอดอำนาจ ไม่ใช่ใช้การเมืองเป็นเครื่องมือตอบสนองความทะยานอยากของใครบางคน”

หลังร่วมกันลงนามสัตยาบัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์กล่าวปิดท้ายว่า วิธีการเดิมๆ แบบงูเห่า หรือการย้ายค่ายเบอร์เดิม แบบนี้เราจะไม่ทำ และถ้าเราไม่ร่วมมือกันในวันนี้ จะเป็นตราบาปให้ลูกหลานไปอีกยาวไกล

ต่อคำถามว่า จำนวน ส.ส. ว่าในตอนนี้ มีจำนวนเท่าไร นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ในตอนนี้อ้างอิงจากคะแนนของ กกต. เพื่อไทยมี 137+ ที่นั่ง(อาจจะเพิ่มได้) อนาคตใหม่ 88 ที่นั่ง เสรีรวมไทย 12 ที่นั่ง เศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง ประชาชาติ 7 ที่นั่ง เพื่อชาติ 5 ที่นั่ง และพลังปวงชนไทย 1+ ที่นั่ง(อาจจะเพิ่มได้)

ส่วนในประเด็นเรื่อง ‘งูเห่า’ ซึ่งนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ตอบด้วยการอ้างมาตรา 46 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง  กำหนดว่า ใครเรียกรับผลประโยชน์ให้ดำรงตำแหน่ง มีความผิด โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย แนวร่วมทั้ง 7 พรรค จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องให้เปิดเผยคะแนนทั้งหมด พร้อมทั้งกดดันให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสทุกกรณีที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามา เพื่อแสดงความเป็นกลาง และสร้างบรรทัดฐานการเลือกตั้งที่ดีต่อไปในอนาคต

Tags: