หากพูดถึงนักแสดงไทย ชื่อของ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล ถือเป็นอีกหนึ่ง ‘สายเลือดใหม่ของวงการบันเทิงไทย’ ที่น่าจับตามอง กับการมีเป้าหมายเป็นนักแสดงระดับโลก

เพราะหลังจากแจ้งเกิดกับ Hormones 3 The Final Season (2558) และสร้างชื่อกับ ฉลาดเกมส์โกง (2560) เขาก็มีโอกาสได้ไปเล่นซีรีส์ที่จีนในเวลาต่อมา ราวกับว่าเขากำลังก้าวสู่การเป็นนักแสดงระดับโกอินเตอร์ ไม่ได้ติดกับคำว่านักแสดงไทยอีกต่อไป 

แม้หลังจากนั้นไม่นานสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การรับงานต่างประเทศซบเซาลง แต่วันนี้นนกุลยังคงเชื่อมั่นและมีเป้าหมายเช่นเดิมอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรอโอกาสที่กำลังจะเข้ามาถึง

The Momentum พูดคุยกับนนกุลในช่วงที่กำลังมีหนังเรื่องใหม่เข้าฉายซึ่งก็คือ Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป ถึงเรื่องราวด้านการแสดงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเป้าหมาย ความฝัน และความสนใจด้านต่างๆ ว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง จากวันแรกที่ผู้ชมได้รู้จักเขา

ในวันนี้หากให้จัดอันดับความสนใจ 3 อย่างแรกของคุณ จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง

การแสดง การดูแลสุขภาพ และเกม ผมเรียงแบบนี้ก็แล้วกัน 

ผมอยากพูดเรื่องสุขภาพก่อน วันนี้เป้าหมายคงเป็นเรื่องการดูแลร่างกายโดยทั่วไปแล้ว ถ้าใครเคยตามผมมาก่อนหน้า คงจะได้เห็นว่าผมมีเป้าหมายเรื่องการเพิ่มส่วนสูงอยู่พักหนึ่ง แต่วันนี้ผมเริ่มเข้าใจและยอมรับแล้วว่ามันคงไม่สำเร็จ

คือผมเข้าใจถึงคำว่า ‘ขีดจำกัดของมนุษย์’ ที่มันไปต่อไม่ได้ ทำให้ผมต้องยอมรับสภาพมัน คือถ้ายังไปดันทุรัง ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ มันอาจส่งผลเสียกับเราเสียมากกว่า ดังนั้นตอนนี้เราเลยให้ความสำคัญกับการเล่น Weight Training เข้าฟิตเนส รักษารูปร่างและกล้ามเนื้อประมาณนี้ก่อน เป้าหมายเรื่องการเพิ่มหรือลดขนาดคงยังไม่มี เพราะตอนนี้เราพอใจกับรูปร่างที่ตัวเองเป็นอยู่ 

มีกีฬาที่สนใจบ้างไหม

ไม่มีเลย นอกจากอเมริกันฟุตบอล ที่ผมเล่นมาตั้งแต่ช่วงมัธยม มีช่วงหนึ่งได้ลองเล่น American Flag Football อยู่ แต่สำหรับผมมันก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น ผมชอบการชน ผมชอบการปะทะมากกว่า

แล้วเรื่องเกมล่ะ คุณจริงจังขนาดไหน

เป็นกิจกรรมที่ทำอยู่บ่อยๆ ก็แล้วกัน ผมคงไม่ใช้คำว่าเป็นแพสชันหลัก เพราะคิดว่าตัวเองยังคงสู้คนอื่นไม่ได้ขนาดนั้น เล่นแล้วหัวร้อนก็ยังมีอยู่บ่อยๆ เลยยอมรับว่าคงไม่ไปเอาจริงเอาจังขนาดเป็นโปรเพลเยอร์อะไรแบบนั้น

ดังนั้นการแสดงคงเป็นสิ่งที่ชอบและเอาจริงเอาจังกับมันมากที่สุด

ใช่

ครั้งหนึ่งคุณเคยมีเป้าหมายอยากเป็นนักแสดงระดับฮอลลีวูด วันนี้เป็นอย่างไร

วันนี้ก็ยังคงใช้คำว่าไม่ได้ใกล้เคียงขึ้นสักเท่าไร แต่ก็มีพัฒนาการอยู่บ้าง มีบางช่วงที่โตขึ้นเร็วมากๆ แล้วก็มีบางช่วงที่ชะลอเหมือนกัน 

แต่สำหรับในตอนนี้เท่าที่ผมดู ด้วยเทรนด์ของโลก ด้วยเทคโนโลยี คิดว่าการเป็นนักแสดงในระดับ Global มันไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมแบบเมื่อก่อนแล้ว มันก็ยังมีโอกาสให้เราก้าวไปตรงนั้นอยู่

ทว่าวันนี้ผมเองก็มีแนวทางที่ตัวเองทำและตั้งใจกับมันมาตลอด ดังนั้นเป้าหมายตอนนี้คงอยู่กับเส้นทางที่ตัวเองกำลังเดินอยู่ก่อน แล้วค่อยคิดถึงเรื่องการไปฮอลลีวูดอีกครั้งในอนาคต

ช่วงที่คิดว่าตัวเองเติบโตด้านการแสดงมากที่สุดคือช่วงไหน

คิดว่าเป็นช่วงที่เล่นหนังเรื่องฉลาดเกมส์โกง แต่เอาเข้าจริงก็เริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้วก่อนหน้า เช่นการได้ไปแคสต์โฆษณาต่างๆ ได้เล่นหนังสั้น เล่นภาพยนตร์คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ จนทำให้พี่ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) เห็นงานของเรา และชวนมาเล่น Hormones 3 The Final Season ต่อยอดมาฉลาดเกมส์โกง แล้วก็ได้ไปทำงานที่จีนต่อ

แต่หลังจากนั้นพอเจอโควิด-19 ทุกอย่างมันหายไปหมดเลย เพียงแค่เปรี้ยงเดียว งานที่จีนหายไป ทำให้ผมต้องอยู่ไทยยาว แต่ก็ยังโชคดีที่ผู้ใหญ่เห็นความสามารถของเราอยู่ เลยยังมีงานให้ทำอยู่เรื่อยๆ 

ถามว่าท้อกับเรื่องนี้ไหม สำหรับผมไม่ขนาดนั้น เพราะเข้าใจว่ามันเกิดกับทุกคน เราเองยังดีด้วยซ้ำที่ยังมีเงินเก็บอยู่ เลยพอเอาตัวรอดไปได้ 

แต่ในมุมหนึ่งก็ฟังดูเป็นเรื่องน่าเสียดาย กับโอกาสที่จะได้เป็นนักแสดงระดับ Global ในตอนนั้น มันไม่เกิดขึ้น

อาชีพนี้มันแปลกนะ มีฝีมืออย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ต้องมีโอกาสด้วย ผมเจอมากับตัวเลย รวมถึงจากการทำงานกับหลายๆ คน ผมก็ได้เห็นเลยว่า ในวงการมีนักแสดงที่เก่งกว่าผม เหนือชั้นกว่าผมอยู่เยอะมากๆ เพียงแต่บางคนโอกาสมันไม่มา จังหวะมันไม่ได้ เลยทำให้เราไม่ได้ก้าวมาสู่จุดที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้เท่านั้นเอง

แล้วยังมีไฟกับการเป็นนักแสดงโกอินเตอร์อยู่บ้างไหม

ก็ยังมีอยู่ในใจ แต่พอเราโตขึ้น เรามีสิ่งที่เราก่อร่างสร้างตัวมาก มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบ มันเลยทำให้เราไม่ได้พุ่งแรงเหมือนแต่ก่อน ที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง 

ดังนั้นตอนนี้ก็ยังมีแผนแบบเดิมอยู่ เพียงแต่ว่ามีเป้าหมายอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น การทำเบื้องหลัง ได้เขียนบท ได้เป็นผู้กำกับ 

เพราะสุดท้ายอย่างที่เล่า อาชีพนักแสดงมันมีหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องจังหวะและโอกาส บางคนเป็นนักแสดงมาสิบปี แต่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรอยู่ กลับกันบางคนเขาเข้ามาในจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา เล่นหนัง ได้รับบทที่เหมาะกับเขาเพียงเรื่องเดียวก็ดังได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่มีใครผิดและถูก 

ดังนั้นเรื่องการตั้งเป้าว่า ต้องอยู่ตรงนั้นตรงนี้ มันเลยเป็นสิ่งที่ต้องดูกันยาวๆ แล้วต้องปล่อยวางบ้าง ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ สิ่งที่ทุกวันนี้เราในฐานะนักแสดงทำได้ คือการรักษาฝีมือและมาตรฐานไม่ให้มันขึ้นสนิม

คิดว่านักแสดงที่ดีต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง 

ผมว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องมองมันแบบกีฬา คือเราต้องมองว่า สิ่งที่ทำอยู่คือการฝึกฝนเพื่อนำไปลงสนามหรือวันถ่ายทำ ไม่เอาตัวเองจมอยู่กับมัน จนเกิดภาวะที่จิตใจอ่อนแอ ไม่มั่นคง ซึ่งถ้าเรามองด้วยเลนส์นี้ มันจะทำให้เราตระหนักรู้ว่า เราเวิร์กช็อปไปทำไม เราควรเอามาใช้ตอนไหน แล้วเราจะสลัดมันออกหลังจากเสร็จภารกิจได้อย่างไร 

ดังนั้นการแสดงสำหรับผมมันคือการฝึกฝน คือการทำซ้ำ ทำให้เข้าใจ ให้เกิด Muscle Memory ให้เรากลายเป็นนักกีฬาทางอารมณ์ เป็นนักกีฬาทางไดอะล็อก เป็นนักกีฬาทาง Characterization

สำหรับคนที่อยากฝึกฝนเรื่องนี้ต้องทำอย่างไร

ไปเรียนสอนการแสดง และสอบถามฟีดแบ็กจากครู ว่าเราเหมาะกับบทและทิศทางการแสดงแบบไหน เพื่อหาจุดแข็ง จุดด้อยของตัวเอง จากนั้นก็ฝึกฝน ทำซ้ำ และวางเป้าหมายว่า อยากพัฒนาไปทางไหนเป็นพิเศษ

ถ้าทำอย่างต่อเนื่องผมมองว่า อย่างน้อยก็ต้องมีพัฒนาการ ผมเป็นคนที่เชื่อว่า ไม่มีสิ่งไหนไม่พัฒนา ถ้าเราทำมันบ่อยและซ้ำมากพอ 

สำหรับ Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป เป็นภาพยนตร์คอเมดี เกิดขึ้นจากการจับมือร่วมทุนกันของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ไทย-จีน คือ บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอสเอ็มจี พิคเจอร์ส แอนด์ วิงส์มีเดีย จำกัด นำแสดงโดย นนกุล-ชานน สันตินธรกุล, ‘โจ๊ก โซคูล’ กรภพ จันทร์เจริญ, ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ, เซิ่ง อี้หลุน, ตู้ ซี่ยี่ และตง ฟ่างฉือ มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ในโรงภาพยนตร์

Tags: , , , ,