ไม่ว่าจะตามห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ หรือบนโลกโซเชียล เชื่อว่านักฟังเพลงชาวไทยน่าจะเคยได้ยินทำนองดนตรีกับเสียงร้องหวานใสกลิ่นอาย T-POP ยุคปีสองพันต้นๆ กับท่อนฮุกสุดติดหูว่า “เขารักเธอเท่าไหร่ ฉันรักเธอมากกว่า” ที่ถูกเปิดไม่ขาดสายจนต้องไปตามสืบค้นว่าเจ้าของซิงเกิลดังกล่าวเป็นใคร และเชื่อว่าเวลานี้หลายคนน่าจะทราบดีแล้วว่าเจ้าของเสียงร้องดังกล่าวนั้นเป็นของวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่นามว่า ‘4EVE’
นับตั้งแต่เดบิวต์อย่างเป็นทางการกับสังกัด XOXO ENTERTAINMENT เมื่อเดือนมกราคม 2564 ซิงเกิล วัดป่ะล่ะ (TEST ME) จาก 7 สาว 4EVE (อ๊ะอาย, มายด์, ตาออม, แฮนน่า, ฝ้าย, โจริญ และ พั้นช์) กลายเป็นที่ฮิตติดชาร์ตทั่วบ้านทั่วเมือง มียอดวิวในยูทูบพุ่งทะยานไปแล้วถึง 66 ล้านวิว พร้อมปลุกกระแสแนวเพลง T-POP ให้กลับมาเฟื่องฟูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ความนิยมในตัวพวกเธอก็มากขึ้นทุกวี่วัน ด้วยเสน่ห์ความน่ารักและความสามารถด้านร้อง เต้น ตามแบบฉบับของแต่ละคน ในคอนเซ็ปต์ ‘Girl Crush’
หลังปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ The First Album ได้ไม่นาน ล่าสุด 7 สาว 4EVE ได้ปล่อยสเปเชียลอัลบั้ม ‘TRICK OR TREAT’ มาเขย่าวงการ T-POP และนักฟังเพลงให้ได้ตาลุกวาวอีกครั้ง ด้วยคาแรกเตอร์ที่จัดจ้านโตขึ้นกว่าเดิม พร้อมความพิเศษกับการได้บรรดาศิลปินชื่อดังมาร่วมฟีเจอริง The Momentum จึงไม่รอช้า ขอนัดพูดคุยกับพวกเธอถึงสเปเชียลอัลบั้มที่ว่า รวมถึงรับฟังทัศนคติการเติบโตท่ามกลางกระแสความนิยมเพลง T-POP ในประเทศไทย แม้จะน่าเสียดายที่ต้องขาดอ๊ะอาย หนึ่งในสมาชิกของวง เพราะติดภารกิจด่วนก็ตาม
และคุณอาจจะโดนเสน่ห์ความน่ารักของพวกเธอ ‘ตก’ โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
เป็นอย่างไรบ้างหลังซิงเกิล วัดป่ะล่ะ ที่ปล่อยไปเมื่อช่วงต้นปีได้รับความนิยม จนมียอดวิวในยูทูบสูงถึง 66 ล้านวิวเข้าไปแล้ว
โจริญ: ดีใจมากๆ เลยค่ะ (ยิ้ม) พวกเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเพลงฮิตเป็นของตัวเองและยอดวิวแตะถึงหกสิบกว่าล้าน ถือว่าเกินความคาดหมายไปเยอะมาก ต้องขอบคุณแฟนเพลงทุกๆ คนจากใจ ที่สนับสนุนและชอบเพลงของพวกเรา
เดบิวต์เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปแล้วชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะแค่ไหน ฝึกหนักมากขึ้นกว่าเดิมไหม
มายด์: หลังเดบิวต์พวกเราค่อนข้างมีคนรู้จักเยอะขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ เพราะฉะนั้นบางครั้งเวลาไปไหนมาไหน หรือทำธุระส่วนตัวก็จะมีคนเข้ามาทักทายบ่อย แรกๆ ก็ตกใจค่ะ (หัวเราะ) และอีกสิ่งที่พ่วงมาด้วยคือการวางตัว ยิ่งมีคนรู้จักเรามากก็ยิ่งต้องวางตัวให้ดูเหมาะสม เพราะเชื่อว่ามีแฟนที่ติดตามเราหลากหลายวัย โตกว่า เท่าเรา หรือเด็กกว่า เราเลยอยากให้เขาได้ซึมซับสิ่งดีๆ จากเราไป
ตาออม: ตอนที่เรายังเป็นเด็กฝึกและยังแข่งขันอยู่ในรายการ 4EVE Girl Group Star ต้องบอกว่าเราฝึกกันค่อนข้างหนักค่ะ ทั้งร้อง ทั้งเต้น เหมือนเราต้องใช้หลักสูตรเร่งรัดนิดนึง ด้วยความที่เป็นรายการแข่ง ทำให้เราไม่มีเวลาเทรนกันมากเท่าไหร่ แต่ก็เพราะการแข่งที่เข้มข้นนี่แหละค่ะ ที่มีส่วนทำให้พวกเราเก่งขึ้นจนมาเป็น 4EVE แบบที่เห็น
ส่วนถ้าถามว่าพอเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวเราฝึกหนักมากขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าการทำงานนี่แหละ คือการฝึกของเรา ซ้อมเต้น ทำเพลง ทุกๆ อย่าง ทุกๆ ขั้นตอน หมั่นเก็บประสบการณ์และทำความเข้าใจจากการขึ้นเวทีหนึ่งไปอีกเวทีหนึ่ง ไต่ระดับไปเรื่อยๆ เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ
มายด์: ขอนิยามว่าการฝึกของเราคือความหมายเดียวกับการเอาจริง (หน้าตามุ่งมั่น) ทั้งสองเวลาที่เราพูดถึงไม่ว่าจะก่อนเดบิวต์หรือหลังเดบิวต์ เวลาของเรากระชั้นชิดมากจนไม่มีเวลามากพอมานั่งฝึกฝนกัน เพราะฉะนั้นการขึ้นเวทีเลยเป็นหนทางที่จะช่วยพัฒนาให้เราเก่งขึ้นได้ พวกเราทุกคนเลยต้องเอาจริงอยู่เสมอ แต่ก็คุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับกลับมา
อย่างนี้แสดงว่าต้องเครียดและกดดันกันมากกว่าเดิมแน่ๆ
4EVE: โอ้ว (พร้อมกัน)
ฝ้าย: ด้วยความที่การแข่งขันมัน Rush Hours เข้มข้น และมีเวลาให้จำกัดมากๆ ทำให้ไม่มีทางเลยค่ะที่จะหลีกหนีความเครียดได้พ้น การแข่งขันที่ว่าไม่ได้หมายถึงต้องไปแข่งกับคนอื่นนะคะ แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเอง หนูรู้สึกว่าถ้าเราไม่กระตือรือร้น ผลักดันตัวเอง เราก็จะไม่สามารถจำท่าเต้น จำเนื้อร้อง หรือจำโชว์ที่ต้องแสดงได้เลย ค่อนข้างโหดอยู่เหมือนกันค่ะ หลายอย่างถูกอัดเข้ามาทีเดียว แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นทั้งประสบการณ์และแรงผลักดันที่ทำให้เราเก่งยิ่งขึ้น
แล้วทุกคนในวงช่วยซัพพอร์ตกันอย่างไรบ้าง
พันช์: หนูรู้สึกว่าพอทุกคนในวงอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่ตอนยังแข่งขัน 4EVE Girl Group Star ได้ฝึกฝนร้องเต้นไปด้วยกัน ทำให้เราสามารถเปิดใจพร้อมที่จะพูดคุยให้คำปรึกษา ช่วยเหลือกันได้ในทุกๆเรื่อง แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ในชีวิตประจำวัน ต้องบอกว่าเวลาเกือบปีทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์เหมือนเป็นพี่น้อง ครอบครัวเดียวกันจริงๆ
ได้ข่าวว่ากำลังจะปล่อยสเปเชียลอัลบั้มที่มีชื่อว่า TRICK OR TREAT
โจริญ: ใช่ค่ะ สำหรับสเปเชียลอัลบั้ม TRICK OR TREAT ตอนนี้ก็ปล่อยออกมาแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในอัลบั้มก็จะมีทั้งหมด 4 เพลง ได้แก่ Booty Bomb, Trick or Treat, ภาพหลอน (Reels) และ Nobody’s Perfect ซึ่งปล่อยเป็น MV ออกมาแล้วทั้งหมด 2 เพลงด้วยกัน คือ Booty Bomb กับ ภาพหลอน (Reels) ส่วนอีก 2 เพลงที่เหลือสามารถรับฟังได้ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ ได้ค่ะ
ช่วยเล่าหน่อยว่าสเปเชียลอัลบั้ม TRICK OR TREAT มีความพิเศษอย่างไรบ้าง
แฮนน่า: ตรงตามชื่อเลยค่ะ ด้วยความที่เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งเทศกาลฮาโลวีน พวกเราเลยคิดอยากจะทำเพลงใหม่ในอัลบั้มที่เป็นธีมฮาโลวีน หลอนๆ มีผี มีแคนดี้หวานๆ และปล่อยออกมาในช่วงเวลาประมาณนี้
ส่วนเนื้อหาในอัลบั้มต้องบอกว่ามีครบทุกรสชาติ มีทั้งเพลงช้า เศร้า อกหัก เพลงเร็วเเดนซ์สนุก หรือแนวน่ารักสดใสฟังเพลิงๆ ตามแบบฉบับ 4EVE
อยากแนะนำซิงเกิลไหนให้แฟนเพลงได้ฟังเป็นพิเศษ
ฝ้าย: จริงๆ อยากให้ทุกเพลงเลยค่ะ เพราะว่าดีทุกเพลง (หัวเราะ) อย่างที่พี่แฮนน่าบอกค่ะว่าอัลบั้มนี้รวมแนวเพลงไว้หลากหลายสไตล์มาก พวกเราเลยเชื่อว่าไม่ว่าคนฟังจะเป็นไทป์ไหนก็สามารถเข้าถึงและเปิดฟังได้เรื่อยๆ
มายด์: อีกหนึ่งความพิเศษของอัลบั้มนี้ คือ เพลง ภาพหลอน (Reels) ซึ่งเป็นเพลงช้าเพลงแรก ในเนื้อหาเศร้าอารมณ์อกหัก คนฟังก็จะได้ฟังน้ำเสียงของเมมเบอร์แต่ละคนชัดมากยิ่งขึ้น ต่างจากอัลบั้มก่อนที่เน้นการร้องแบบสไตล์แร็ปเร็วๆ อยากให้ได้ลองฟังกันมากๆ ค่ะ
4EVE ใช้เวลาลงมือทำสเปเชียลอัลบั้ม TRICK OR TREAT นานแค่ไหน
ตาออม: สำหรับสเปเชียลอัลบั้ม TRICK OR TREAT เราเริ่มลงมือทำกันตั้งแต่ปลายๆในการโปรโมตตัว The First Album ก็เริ่มอัดเสียงเพลง Booty Bomb เป็นซิงเกิลแรก แต่การทำงานตอนนั้นก็ค่อนข้างยากค่ะ เพราะตอนนั้นอยู่ในช่วงล็อกดาวน์จากโควิด รวมๆ แล้วกว่าจะสำเร็จก็ใช้เวลา 2 เดือน
ทราบมาว่าสเปเชียลอัลบั้มนี้ได้ศิลปินชื่อดัง อาทิ มิลลิ (MILLI) กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ (F.HERO) ปั้น LUSS มาร่วมโปรดิวซ์และฟีเจอริงในอัลบั้มด้วย
ฝ้าย: ต้องบอกว่าโปรดิวเซอร์หลายๆ คน ที่มาร่วมทำเพลงกับเราในสเปเชียลอัลบั้ม ก่อนหน้านั้นเราก็เคยทำงานกับเขามาก่อนแล้วใน The First Album พอต้องมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ก็เลยทำให้เราสบายใจ เข้าขากันง่าย เพราะพวกพี่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องไกด์ยังไงให้เราทำผลงานออกมาได้ดี
พันช์: บรรยากาศการทำงานไม่ตึงเครียดเลยค่ะ พี่ๆ แต่ละคนน่ารักเป็นกันเองมากๆ เขาจะรู้เลยว่าพวกหนูแต่ละคนเหมาะกับตรงไหนบ้าง เวลาไม่มั่นใจตรงท่อนไหน พี่เขาก็พร้อมให้คำปรึกษา อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน จนกลายเป็นเหมือนครอบครัวไปแล้ว อย่างการทำงานกับพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เขาก็จะมีไรม์คมๆ คำพูดคมๆ มาแนะนำให้เราลองคิดตาม ร้องตามตลอด แถมยังมีเสบียงขนมติดมาฝากตลอด เลี้ยงดีจนเหมือนเป็นคุณพ่อพวกเราไปแล้ว (หัวเราะ)
การได้ทำงานกับคนที่มีวุฒิภาวะหรือประสบการณ์มากกว่า สอนให้เรารู้จักกับอะไรบ้าง
ตาออม: การได้ร่วมงานกับพี่ๆ โปรดิวเซอร์หลายคนที่ส่วนใหญ่เป็นระดับซีเนียร์ในวงการเพลงทำให้เราได้เห็นมุมมองของการทำงานแบบมืออาชีพ รวมถึงพวกเทคนิคที่เข้ามาเสนอแนะเรา เหมือนที่พันช์ยกตัวอย่างในรายของพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เขาก็จะมาแนะนำวิธีการแร็ป พร้อมสอนทัศนคติการทำงานให้เราไปด้วย หรืออย่างพี่ปั้น LUSS ที่เป็นคนร้องเพลงเก่ง เขาก็จะสอนเทคนิคการร้อง เช่น เปิดคอร้องให้กว้างขึ้นกว่านี้ไหมอะไรแบบนี้ เรียกว่าพวกหนูได้ซึมซับเทคนิคหลายๆ อย่างมาเยอะมากเลยค่ะ
ความจริง ก่อนจะได้มาร่วมทำงานกับพวกพี่ๆ โปรดิวเซอร์ก็มีกดดันอยู่บ้างค่ะ เพราะเราเป็นเด็กตัวเล็กๆ แถมประสบการณ์ยังน้อย แต่ต้องมาแสดงความสามารถให้พวกพี่เขาดู เราก็รู้สึกกลัวว่าเขาจะโอเคไหมที่ต้องมาทำงานกับเรา จะหนักใจตรงไหนหรือเปล่า แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับเอ็นดูพวกเรามากๆ น่ารักกับพวกเราตลอดการทำงาน ต้องขอบคุณพวกพี่เขามากๆเลยค่ะสำหรับทุกอย่าง
ย้อนกลับไปถึงการทำใน The First Album ที่ได้ URBOYTJ มาเป็นโปรดิวเซอร์หลัก ช่วยเล่าหน่อยว่าการทำงานกับเขาเป็นอย่างไรบ้าง เชื่อว่าแฟนคลับหลายคนน่าจะอยากทราบ
แฮนน่า: อันที่จริงเราอยู่กับพี่ทีเจมาตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กฝึกในรายการ 4EVE Girl Group Star ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็ไม่ได้พูดคุยหรือสนิทกันมากเท่าไหร่ แต่พอได้เดบิวต์เต็มตัว และออก The First Album ซึ่งได้พี่เขามาโปรดิวซ์ซิงเกิล วัดป่ะล่ะ (TESTME) พี่เขาก็นำประสบการณ์และกลิ่นอายแนวเพลงแบบกามิกาเซ่ (KAMIKAZE) มาปรับใช้ตามที่พี่เขาตั้งใจอยากจะลองทำงานกับคนเจนแบบพวกหนู สุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาราบลื่นเป็นผลงานแบบที่เห็น พี่ทีเจเขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง น่ารักต่างจากคาแรกเตอร์ที่ดูเป็นคนดุๆ
รู้สึกอย่างไรบ้างเวลาออกไปข้างนอกแล้วได้ยินเพลงของตัวเองถูกเปิดฟังเกือบทุกๆ ที่
แฮนน่า: ก็มีเขินบ้างค่ะ (ยิ้ม) เวลาไปเดินห้างหรือไปนั่งตามร้านอาหารปิ้งย่าง พอเพลงเปิดมาทีก็เริ่มเลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวา (หัวเราะ) แต่ส่วนมากหลายคนจะจำเพลงได้ แต่ยังไม่รู้ว่านักร้องเป็นใคร ถึงอย่างนั้นก็ดีใจค่ะ ที่ให้ความสนใจกับพวกเราและให้ความสนใจกับเเนวเพลง T-POP มากขึ้น เพราะเราเองยังเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ ก็หวังว่าจะผลักดันแนวเพลงนี้ให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
ในมุมมองของวง 4EVE คิดว่าวงการเพลง T-POP ตอนนี้อยู่ในจุดไหน
โจริญ: หนูคิดว่าตอนนี้ศิลปินแนว T-POP เริ่มเกิดขึ้นใหม่มาเรื่อยๆ คนไทยมีตัวเลือกการฟังเพลง T-POP เพิ่มกว่าแต่ก่อน แล้วแต่ละคนความสามารถจัดเต็มมาก เรียกว่ากำลังเป็นช่วงคึกคัก และเด็กรุ่นใหม่หลายๆ คนกล้าที่จะปล่อยของออกมา
แฮนน่า: ถึงเวลาของ T-POP แล้วค่ะ (หัวเราะ) ที่ประเทศไทยมีศิลปินเก่งๆ มากความสามารถให้รอปล่อยของ แถมผู้ใหญ่ในวงการก็พร้อมผลักดันสนับสนุนตลอด
แสดงว่าอยากให้มีเวทีคอยผลักดันศิลปินแนวเพลง T-POP ให้มากขึ้นกว่าเดิม
โจริญ: ใช่ค่ะ ด้วยความที่ธรรมชาติของแนวเพลง T-POP ต้องมีเวทีแข่งขัน ไว้ให้ศิลปินได้โชว์ ได้แสดงออก ซึ่งหนูคิดว่าถ้ายุคนี้คือยุคที่แนวเพลง T-POP กลับมาจริงๆ ก็คงจะดีถ้ามีผู้ใหญ่คอยสนับสนุนให้มีเวทีการแข่งขันคนดูจะได้เห็นความสามารถของศิลปิน เพื่อที่ความฝันเขาจะไปได้ไกลมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเด็กไทยตอนนี้เก่งกันมากๆ
มองตัวตนของวง 4EVE ตอนนี้เป็นแบบไหน
พันช์: น่าจะเหมือนที่อ๊ะอายเคยพูดไว้ว่า 4EVE คือนิยามของความแตกต่างที่ลงตัว คาแรกเตอร์ของพวกเราทั้ง 7 คน มีความชัดเจนเป็นของตัวเอง อาจมีคนเคยตั้งคำถามก่อนรู้จักกับพวกเราว่าจะแต่ละคนเข้ากันได้ไหม จะทำงานร่วมกันได้จริงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราเข้ากันได้ว่ะพี่ (หัวเราะ) และด้วยความที่พวกเรามีหลากหลายคาเเรกเตอร์ หลากหลายมู้ด ยิ่งทำให้หลายคนมาสนใจติดตาม หันมาเป็นแฟนคลับของเรา
ย้อนกลับมาเรื่องของสเปเชียลอัลบั้ม จะปล่อยออกมาเป็น MV ทุกเพลงเลยไหม
แฮนน่า: มาเรื่อยๆค่ะ (หัวเราะ) เพราะอย่างที่หลายคนรู้ดีว่า 4EVE เราทำงานกันทุกวัน เชื่อว่าไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปวงไหนเดบิวต์แล้วมีอัลบั้มเป็นของตัวเองทันที แถมไม่กี่เดือนยังมีสเปเชียลอัลบั้มเป็นของตัวเอง เราไม่อยากปล่อยให้แฟนเพลงเหงาค่ะ ระหว่างที่ไม่ได้เจอกันก็พยายามหาชาเลนจ์ คอนเทนต์สนุกๆ มาชวนร่วมสนุกกัน เพราะฉะนั้น อย่าลืมติดตามพวกเรานะคะ
วงมองเป้าหมายในอนาคตไว้ถึงตรงไหน
โจริญ: มองไปเรื่อยๆ ค่ะ อย่างปล่อยเพลงนี้ เพลงถัดไปเราก็จะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อย่างตอนนี้เรามีซิงเกิลระดับ 60 ล้านวิวแล้ว สักวันเราจะต้องมีซิงเกิลระดับ 100 ล้านวิวให้ได้
มายด์: เวลาใครถามถึงเป้าหมายของวง 4EVE เราก็จะบอกเสมอว่าเรามีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตลอด เราจะคอยมองย้อนมาดูตลอดว่าเรามาถึงจุดไหน ถ้าถึงแล้วก็ต้องก้าวไปต่อสิ เราไม่ค่อยซีเรียสเรื่องของลิมิตเท่าไหร่ ทำให้เต็มที่มากกว่าจะได้ไม่กดดันเกินไป เพราะความสำเร็จบางอย่างเราก็ได้มาแบบเซอร์ไพรส์เหมือนกัน
แล้วในอนาคตอยากทำอะไรเป้นพิเศษไหม
โจริญ: อยากจัดงานอะไรก็ได้ที่จะได้เจอกับแฟนเพลงชาว FOR AYE (ชื่อเรียกแฟนคลับ) แบบต่อหน้า ที่เขาซัพพอร์ตเรามาตลอดเสียที เพราะตั้งแต่เดบิวต์มาก็เจอโควิดมาตลอด เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่เราหวังมาโดยตลอด
สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรกับแฟนเพลงที่คอยติดตามและสนับสนุนวง 4EVE มาตลอดตั้งแต่ต้น
พันช์: ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ติดตามพวกเรามาโดยตลอด สนับสนุนพวกเรา ฟังเพลงของพวกเรา พวกคุณเป็นกำลังใจ เป็นแรงผลักดันที่ทำให้พวกเราฮึดสู้ และพวกเราสัญญาค่ะว่าจะพัฒนาตัวเองให้เก่งมากขึ้นกว่าเดิม ไม่หยุดสร้างผลงานดีๆ ออกมาให้แฟนเพลงได้ติดตามฟังกัน พวกเรา 4EVE จะต้องไปไกลกว่านี้อย่างแน่นอน
Fact Box
- สเปเชียลอัลบั้ม TRICK OR TREAT ประกอบด้วยลิสต์เพลงทั้งหมด 4 ซิงเกิล ได้แก่ 1. Booty Bomb (Prod. By Nino) 2. Trick or Treat 3. ภาพหลอน (Reels) 4. Nobody’s Perfect โดยมีสเปเชียลแทร็กเป็นซิงเกิลสุดฮิตอย่าง วัดปะหล่ะ? (Test Me) (All Member Version) ในแบบที่หาฟังทั่วไปไม่ได้ (มีเฉพาะใน CD Boxset Album เท่านั้น) นอกจากนี้ความพิเศษ คือ ซิงเกิลภาพหลอน ที่เป็นเพลงช้าสไตล์เศร้าเพลงแรกของวงและเน้นไปที่การโชว์พลังเสียงร้องเป็นหลัก
- สมาชิกวง 4EVE ทั้ง 7 ล้วนเต็มไปด้วยดีกรีความสามารถและประวัติที่ไม่ธรรมดา อาทิ อ๊ะอาย (กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ) มีโอกาสได้ไปออดิชั่นกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีอย่าง YG Entertainment , แฮนน่า (แฮนน่า โรสเซ็นบรูม) มีดีกรีเป็นถึง มิสทีน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยก่อนเธอจะเข้าสู่การแข่งขันคัดเลือกเป็นสมาชิกวง เธอได้เข้าสู่วงการบันเทิง สปป.ลาว ตั้งแต่อายุ 15 ปี มีผลงานซีรีย์มาแล้วทั้งสิ้น 4 เรื่อง และมายด์ (อาทิตยา ตรีบุดารักษ์) เคยผ่านการแสดงละครเวทีรัชดาลัย 2 เรื่อง คือ บัลลังก์เมฆ และ สี่แผ่นดิน รวมถึงแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง เกมรักเอาคืน โดยแฟนคลับที่อยากทราบประวัติพวกเธอมากกว่านี้สามารถติดตามผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ ด้วยการเสิร์ชค้นหา @4eve_official