Fantastic Beasts and Where to Find Them: ความน่ารักบนความแสบสันของเหล่าสัตว์มหัศจรรย์

หนังเกี่ยวกับอะไร

‘นิวท์ สคามันเดอร์’ (เอ็ดดี้ เรดเมย์น) พ่อมดที่สนใจศึกษาและปกป้องสัตว์มหัศจรรย์ได้เดินทางจากอังกฤษมายังอเมริกาด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ระหว่างทางนั้นเกิดทำสัตว์มหัศจรรย์บางตัวหลุดออกจากกระเป๋า จึงต้องออกตามจับก่อนที่พวกมันจะสร้างความเดือดร้อน โดยได้ความช่วยเหลือจาก ‘จาคอบ’ (แดน ฟอกเลอร์) no-maj/no magic/มักเกิ้ล, ‘ทีน่า’ (แคทเธอรีน วอลเตอร์สตัน) แม่มดอดีตมือปราบมารที่เพิ่งถูกริบตำแหน่ง, และ ‘ควินนี่’ (อลิสัน ซูดอล) แม่มดที่มีความสามารถในการอ่านใจคน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูหนัง

Fantastic Beasts and Where to Find Them ไม่ได้ดัดแปลงมาจากนิยายเหมือน แฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่เป็นการเขียนบทขึ้นมาใหม่ด้วยไอเดียของ เจ. เค. โรว์ลิง

ใครที่ไม่เคยดู แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ดู Fantastic Beasts and Where to Find Them รู้เรื่องได้ เพราะมันไม่ใช่ภาคต่อและตัวละครก็แทบไม่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันขนาดเป็นสาระสำคัญของเรื่อง

มักเกิ้ล คือคำเรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เกาะอังกฤษ แต่สำหรับ Fantastic Beasts and Where to Find Them นั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่นั่นเรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ว่า โนแมจ (no-maj/no magic)

สิ่งที่ชอบที่สุดจากหนัง

อย่างแรกคือ ชอบความสนุกที่หนังมอบให้ จริงๆ ไม่อยากเอา แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาเปรียบเทียบ แต่ขออ้างอิงนิดหนึ่งในแง่ที่ว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ มันเป็นหนังที่ดัดแปลงจากนิยายที่มีรายละเอียดพล็อตย่อยเยอะแยะมากมาย ทำให้มีความยากในการตัดทอนย่นย่อให้จบภายในสองชั่วโมงกว่าๆ แต่ Fantastic Beasts and Where to Find Them ไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว เพราะเป็นการเขียนบทขึ้นมาใหม่โดย เจ. เค. โรว์ลิง มันจึงมีความอิสระมากกว่า และเธอก็รู้จักการเขียนพล็อตย่อยของตัวละครต่างๆ ให้พุ่งเข้าไปหาแกนกลางของเรื่องได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเล่าเรื่องได้ลื่นไหล ทำให้เป็นหนังแฟนตาซีที่ดูสนุกมาก

อย่างที่สอง ขอมอบให้ความแสบ/น่ารักของเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ เราเชื่อว่าทุกคนที่ดูจะต้องหลงรักอย่างน้อยตัวใดตัวหนึ่งอย่างแน่นอน ถึงแม้พวกมันจะสร้างความปั่นป่วนชวนปวดหัวเสียเหลือเกิน แต่ทั้งนี้ที่หนังสนุกได้ก็ต้องยกเครดิตให้ความแสบของพวกมันเนี่ยแหละ ที่ทำให้ฉากไล่ตามจับแต่ละตัวกลับกระเป๋าช่างบันเทิงยิ่งนัก

สุดท้ายขอชมการสร้างสรรค์งานเทคนิคพิเศษ ข้ามเรื่องความเนียนและความสวยงาม เพราะมันควรจะเป็นมาตรฐานงานเทคนิคพิเศษหนังบล็อกบัสเตอร์ยุคปัจจุบันได้แล้ว ที่จะชมคือการออกแบบเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ชวนให้สัมผัสได้ถึงความมหัศจรรย์ของพวกมันจริงๆ งานฉากเวทมนตร์ต่างๆ ก็ทำออกมาดูดี เป็นหนังแฟนตาซีไม่กี่เรื่องที่ดึงเราเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์ได้

สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดจากหนัง

ไม่มีทรงผมดีๆ กว่านี้ให้ เอซรา มิลเลอร์ แล้วเหรอ เราพยายามไปเปิดหาอ้างอิงว่าคนปลายยุค 20’s เขาไว้ผมทรงนี้กันไหม ก็คิดว่าไม่นะ

เราเรียนรู้อะไรจากหนัง

อยากเปรียบเทียบสัตว์มหัศจรรย์ของนิวท์กับการเลี้ยงสัตว์ดุร้าย เพราะการครอบครองสัตว์ที่มีความอันตราย มันควรจะได้รับการดูแลเพื่อความปลอดภัยมากกว่าปกติ อย่างเหตุการณ์ใน Fantastic Beasts and Where to Find Them ส่วนหนึ่งก็เพราะนิวท์ดูแลกระเป๋าไม่ดีพอ จนทำให้สัตว์มหัศจรรย์หลุดไปสร้างความเดือดร้อน เทียบกับคนเลี้ยงสุนัขพันธุ์โหดๆ หน่อยเช่นร็อตต์ไวเลอร์นี่ก็ควรเพิ่มความระวังมากเป็นพิเศษ อย่าประมาทจนมันหลุดไปสร้างความเดือดร้อนนอกบ้าน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนัง

เอ็ดดี้ เรดเมย์น คือตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวของ เจ. เค. โรว์ลิง ที่จะให้มารับบท นิวท์ สคามันเดอร์ และหนังเรื่องนี้ยังถือเป็นการเขียนบทหนังครั้งแรกของ เจ. เค. โรว์ลิง อีกด้วย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

ปกติแล้วกลุ่มเป้าหมายของหนังครอบครัวคือ การตั้งใจทำให้เข้าถึงทุกเพศทุกวัย หรือเหมารวมหน่อยก็คือเหมาะกับทุกคน แต่ขอโฟกัสไปยังเหล่าคนรักหนังแฟนตาซีว่าไม่ควรพลาดจริงๆ ยิ่งคนชอบ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่ว่าจะฉบับนิยายหรือหนังนี่ขอใช้คำว่า หนังบังคับต้องดู เลยละกัน เป็นการขยายจักรวาลพ่อมดของ เจ. เค. โรว์ลิง ที่มั่นใจว่าเปรี้ยงแน่นอน

ควรชวนใครไปดู

คนอ่าน แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือพวกชอบหนังแฟนตาซีพ่อมดแม่มดนี่เขาคงดูหนังกันอยู่แล้วแหละ งั้นลองชวนหนุ่มสาวรักสัตว์ไปดูละกัน เอาความแสบน่ารักของเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ไปล่อเนี่ยแหละ เวิร์กแน่นอนฟันธง

ความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป

ในบรรดาหนังครอบครัว (ดูได้ทุกเพศทุกวัย) เราว่าเรื่องนี้ควรค่าที่จะพาคนทั้งบ้าน รวมถึงพาญาติพี่น้องไปเพลิดเพลินบันเทิงใจในโรงหนังกันให้เต็มที่ เชื่อว่าทุกคนจะมีความสุขอย่างแน่นอน

ขอ 3 พยางค์จากหนังเรื่องนี้

รัก นิฟ เฟลอร์