นาฬิกาพกสีทองของกระต่ายขาว กระดานหมากรุกของชายช่างทำหมวกจอมเพี้ยน ดอกเห็ดที่กินดอกหนึ่งตัวเล็กอีกดอกหนึ่งตัวใหญ่ ดอกไม้พูดได้ ฯลฯ ก็กลายมาเป็นของหวานชิ้นอร่อยที่รอให้เรากัดกินทีละชิ้นๆ ในปาร์ตี้น้ำชากับช่างทำหมวกและกระต่ายเดือนสาม ในดินแดนมหัศจรรย์ที่อลิซพาเราหลุดเข้าไปในบ่ายวันหนึ่ง

จากนิทานเล่มของลูอิส แคร์รอล อลิซในแดนมหัศจรรย์กลายมาเป็นแอนิเมชั่นระดับคลาสสิก กลายมาเป็นภาพยนตร์สุดหฤหรรษ์โดยการกำกับฯ ของทิม เบอร์ตัน ที่มีจอห์นนี่ เด็ปป์รับบทเป็นแมด แฮตเตอร์ หรือช่างทำหมวกสุดเพี้ยน และวันนี้โลกอันน่าพิศวงที่อลิซได้เดินทาง ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งกว่าสนุกของเชฟเพนนี จิรายุวัฒนา ที่หยิบสิ่งละอันพันละน้อยในโพรงกระต่าย สร้างสรรค์เป็นเมนูคาวและหวาน ใน The Mad Hatter’s Afternoon Tea หรืองานเลี้ยงน้ำชายามบ่ายของแมดแฮตเตอร์ ที่ห้องอาหารบางกอก เทรดดิ้ง โพสต์ บิสโตร แอนด์ เดลี โรงแรม 137 Pillars Suites & Residence ในซอยสุขุมวิท 39 ระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนมีนาคมนี้  

ในห้องซึ่งสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในดินแดนของอลิซ นกฟลามิงโกขายาวคือไม้ตีบอลลอดห่วงที่มีเม่นเป็นลูกบอล ไพ่แยกสำรับ นาฬิกาพก กระต่ายขาว ฯลฯ แมดแฮตเตอร์ในชุดดำสวมหมวกทรงสูงพาเราไปนั่งที่โต๊ะ ขวดเครื่องดื่มจิ๋วติดคำว่า ‘Drink Me’ วางอยู่บนถาดพ่นไอขาวพวยพุ่งเชิญชวนให้ยกขึ้นดื่ม และเมื่อเราดื่มเครื่องดื่มขวดนั้น ตัวเราจะเล็กลง…เล็กลง

เชฟเพนนี จิรายุวัฒนา

นิทานของแคร์รอลบอกเราว่าอย่างนั้น แต่เครื่องดื่มโยเกิร์ตขวดนี้ก็อร่อยเหลือใจแบบจิบไปเพียงครู่เดียวก็เผลอหมด เราจินตนาการแก้คำสาปนี้ด้วยการกินเห็ดที่มีอยู่สองดอกตามคำแนะนำของหนอนผีเสื้อที่อลิซไปเจอ ดอกที่อยู่ด้านหนึ่งกินแล้วเราจะเตี้ยลงไปอีก แต่ถ้ากินอีกดอกตัวเราก็จะสูงขึ้น ความขี้เล่นของเชฟเพนนี คือหยิบเอาเรื่องราวในตอนนี้มาทำเป็น ‘Which Side of the Mushroom’ ดับเบิลเลมอนทาร์ต ซึ่งมีด้านบนเป็นเนื้อเค้ก ส่วนเห็ดคือวานิลลามาร์ชเมลโลครีม ที่หลอกล่อให้เราตัดสินใจว่าจะเลือกกินด้านไหนก่อนดี หลังจากที่ได้ละเลียด ‘Tick Tock Gold Clock Macaroon’ หรือมาการองบลูเบอร์รี่ชีสเค้กอาบสีเหลืองทองไปแล้ว

เค้กแครอต

เค้กแครอตชิ้นจิ๋ว พรางตัวอยู่ในกระถางที่แต่งด้านบนด้วยผงช็อกโกแลตครัมเบิลให้ดูเหมือนดิน ต้นอ่อนแครอตในกระถางนั้นเราสามารถกินได้หากอยากรู้ว่ารสชาติที่กระต่ายผู้ร่วมโต๊ะของเราและช่างทำหมวกกินแล้วรู้สึกอย่างไร ส่วนเนื้อเค้กและครีมที่อยู่ภายใน เชฟดัดแปลงให้เป็นโยเกิร์ตแทนครีมชีสแบบปกติ ถัดมาคือกระดานหมากรุกของช่างทำหมวก ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคือ Opera Cake หรือเค้กเจ็ดชั้นฉ่ำด้วยช็อกโกแลตเวโรนา อีกชิ้นที่น่ารักและยกให้ถูกใจเราที่สุด คือ ‘The Talking Flowers’ หรือวิลเลียมแพร์มูส ซึ่งเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่อลิซเดินไปเจอกับดอกไม้พูดได้ และดอกไม้คิดว่าอลิซเป็นวัชพืชเพราะตัวเธอไม่มีกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้

ของหวานทั้งห้า เสิร์ฟมาพร้อมกับแซนด์วิชห้าอย่าง โดยแต่ละอย่างจะมีความเป็นอังกฤษแฝงอยู่ เริ่มจากมินิครัวซองต์แฮมชีส มินิเบอร์เกอร์สโมกแซลมอน แซนด์วิชกุ้งกับซอสแมรี่โรส ซึ่งเป็นซอสค็อกเทลสีชมพู แซนด์วิชไข่ฉาบผิวด้วยยอดกะหล่ำปลีแดงสับละเอียดในขนมปังชาร์โคล ส่วนเมนูสุดท้ายซึ่งเป็นเมนูที่พบทั่วไปในอังกฤษแต่กลับไม่พบหรืออาจหารับประทานได้ยากในเมืองไทย คือโคโรเนชั่น ชิกเก้น เมนูนี้ถูกคิดขึ้นมาครั้งแรกคราวที่อังกฤษจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการครองราชย์ของควีนอลิซาเบธที่ 2 ส่วนประกอบหลักในการปรุงรสไก่คือเครื่องเทศ เพื่อต้อนรับชาวแขกที่มาร่วมงานในครั้งนั้น และที่จะขาดไปไม่ได้บนโต๊ะชายามบ่ายวันนี้ คือสโคนขึ้นชื่อของเชฟเพนนี ที่เสิร์ฟมากรุ่นๆ พร้อมกับครีมและแยมผลไม้โฮมเมดที่เธอทำเอง

เมนูหวานและคาวที่บรรจงสร้างสรรค์จะทำให้บ่ายวันนั้นสมบูรณ์ไม่ได้เสียทีเดียวหากขาดชารสดี ในฉากบนโต๊ะน้ำชาของแมดแฮตเตอร์ เราขำขันไปกับการจิบชาในถ้วยชาที่กลวงเปล่าของกระต่ายเดือนสาม แต่บ่ายนี้เรามีชาดีๆ จาก Monsoon ให้เลือกหลายรสชาติจากสามคอลเล็กชั่น ทั้งชารสคลาสสิกอย่าง Jungle Oolong Tea, Jasmine Green Tea และ Siam Blend Black Tea ชาอินฟิวส์อโรมาติก อย่างชา Lychee Oolong Tea, Coconut Green Tea  และ Mango Black Tea ชาสมุนไพรปราศจากคาเฟอีน อย่าง Herbal Digestive, Herbal Relax และยังมีชาเบลนด์พิเศษของ 137 Pillars อย่าง Mangosteen Anchan Oolong Tea พร้อมเสิร์ฟด้วย

แม้จะมีช่วงเวลาจิบน้ำชาใน The Mad Hatter’s Afternoon Tea อยู่ราวครึ่งเดือน แต่ชามื้อพิเศษไม่ได้จัดขึ้นทุกวัน โดยจะเริ่มต้นวันแรกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง  17:30 น. จากนั้นจะมีขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ถัดไป คือ วันที่ 16-17, 23-25 กุมภาพันธ์ และ 2-3 มีนาคม ในเวลาเดียวกัน ราคา 950++ บาทต่อคน หรือที่ราคา 1,550++ บาทต่อคน พร้อมแชมเปญโมเอต โรเซ่ อิมพีเรียลขวดเล็ก 1 ขวด

ไปผ่อนคลายกับของหวานและเติมความฝันวัยเด็ก ที่เคยจินตนาการว่าตัวเองเป็นอลิซดูสักครั้งเป็นไร

Tags: , ,