เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ! ถ้าพูดถึงวงการนักสืบคุณจะนึกถึงชื่อใครเป็นอย่างแรก เอโดงาวะ โคนัน, คินดะอิจิ ฮาจิเมะ, เชอร์ล็อค โฮล์มส์, แอร์กูล ปัวโรต์ หรือตี้เหรินเจี๋ย สำหรับเรา ชื่อแรกที่นึกถึงคงเป็นนักสืบพันทิป พื้นที่ที่บางครั้งคนในโลกโซเชียลพร้อมจะมุ่งหน้าไปกับการตามล่าอะไรบางอย่าง แต่การได้เห็นทุกคนลงมาร่วมคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก็สนุกอยู่เหมือนกัน หากมันไม่ใช่การคุกคามชีวิตคนอื่น หรือการลากใครมาเสียบประจาน เพราะเราจะได้เห็นมุมมองที่แต่ละคนมอง เห็นแง่คิดที่แต่ละคนคิด 

การนั่งลงชมภาพยนตร์สืบสวนสืบสวนเลยทำให้เราตื่นเต้นเสมอๆ ว่าใครจะพาเราไปพบกับอะไร ใครมองเห็นอะไร และใครมองไม่เห็นอะไร โดยเฉพาะการทุ่มเถียงกันกับคนที่นั่งชมอยู่ด้วยข้างๆ (แน่นอนว่าไม่ใช่ในโรงหนัง) ว่ามีความเห็นไปในทิศทางไหน เหมือนเรากำลังแข่งกันอยู่กลายๆ ว่าใครจะไขปริศนาได้ก่อนกัน และก่อนตัวละคร ซึ่งบางครั้งก็สำเร็จ แต่บางครั้งก็ไม่ ดังนั้นในวันนี้ เราอยากให้คุณมาลับคมดูหน่อยว่าเมื่อเรื่องราวดำเนินไปได้ประมาณหนึ่ง คุณพอจะเห็นทิศทางในตอนจบไหมว่าเป็นอย่างไร หรือชี้ตัวคนร้ายได้ไหมว่าเป็นใคร เพราะกับบางเรื่องเราก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนจบมันจะดีหรือร้าย เฉกเช่นชีวิตเรานั่นแหละ

Vertigo (1958)

Vertigo ภาพยนตร์จิตวิทยาสยองขวัญ ผลงานของผู้กำกับชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก โดยเรื่องราวในครั้งนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยาย D’entre les morts หรือ The Living and the Dead ครั้นตอนภาพยนตร์ออกฉาย มันยังไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของฮิตช์ค็อก ผิดกันกับตอนนี้ที่นักวิจารณ์ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ทั้งยังผงาดขึ้นมาครองอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับของนิตยสาร Sight and Sound ที่จะจัดทุกสิบปี ในปี 2012 เป็นครั้งแรกในรอบห้าสิบปีที่มีภาพยนตร์โค่น Citizen Kane (1941) ไปได้

ชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้มักทำให้คนเข้าใจผิดว่า Vertigo หมายถึงการกลัวความสูง ซึ่งหากอยากให้เข้ากับข้อเท็จจริง ชื่อที่เหมาะสมควรจะเป็น Acrophobia นั่นคืออาการวิงเวียนและสูญเสียความสมดุล เมื่อมองลงมาจากที่สูง

สก็อตตี เฟอร์กูสัน เป็นอดีตตำรวจที่เกษียณตัวเองออกจากงาน ด้วยเหตุผลที่ฝังใจจากการเห็นเพื่อนเสียชีวิต และกลายเป็นคนกลัวความสูงไปโดยปริยายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น วันหนึ่งเขาก็ได้รับการติดต่อจากเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน เกวิน เอลสเตอร์ ต้องการให้สก็อตตีสืบดูพฤติกรรมของภรรยา มาเดอไลน์ เอลสเตอร์ เพราะพักหลังเธอมีทีท่าแปลกๆ ทำตัวไม่ชอบมาพากล และชอบอ้างว่าจำอะไรไม่ค่อยได้

เมื่อติดตามเธอไปเรื่อยๆ สก็อตตีกลับเกิดความรู้สึกบางอย่างเพิ่มพูนเข้ามาในจิตใจ ซึ่งความรู้สึกนี้อาจย้อนกลับมาทำร้ายเขาได้ อยู่ที่ว่าจะมากหรือจะน้อยเท่านั้น แล้วเรื่องราวก็ส่อแววจะวุ่นวายมากกว่าเดิม เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ชะตาชีวิตของพวกเขาจะต้องจบลงด้วยอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ความรักก็ความตาย ถ้าไม่ความตายก็ความคลั่ง ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเลือกได้!

Fargo (1996)

จากพี่น้องสุดเนิร์ดกลายมาเป็นผู้กำกับที่มักทำให้เราหลงรักผลงานอยู่เรื่อยๆ พวกเขาจะเป็นใครไปได้นอกจากพี่น้องโคเอน Fargo เป็นผลงานที่ส่งผลให้พวกเขามีชื่อเสียงและคว้ารางวัลออสการ์มาครอง การถ่ายทำเกิดขึ้นในฤดูหนาวปี 1995 แต่พื้นที่กลับประสบฤดูหนาวที่อบอุ่นที่สุดเป็นอันดับสองในรอบ 100 ปี ดังนั้น พวกเขาจึงต้องถ่ายทำฉากกลางแจ้งโดยย้ายไปทั่วมินนิโซตา, นอร์ธดาโคตา และแคนาดา โดยมีหิมะส่วนใหญ่เป็นของปลอม

รถไถหิมะที่ขับผ่านห้องพักในตอนท้ายของภาพยนตร์ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบท พวกเขาตั้งสัญญาณเตือนไว้แล้วว่าไม่ให้ใครขับขี่รถอะไรผ่านไปมาขณะถ่ายทำ แต่พนักงานไม่ได้สนใจพวกเขาเลย

เรื่องราวตั้งอยู่ในปี 1987 ที่มินนิโซตา เมื่อเจอร์รี่ ลันดีการ์ด เซลล์แมนขายรถกำลังประสบปัญหาทางการเงินครั้งใหญ่ เขาจึงว่าจ้างอัธพาลสองคนเพื่อให้มาจับตัวภรรยาของตัวเองไปเรียกค่าไถ่จากพ่อตาจอมงก หากมันดำเนินไปตามแผนที่วางพวกเขาจะแบ่งเงินกันคนละครึ่ง แล้วแยกย้ายไปตามทาง

ทว่าเรื่องก็ไม่ง่ายดายตามนั้น เหตุการณ์เตลิดเปิดเปิงเมื่อโจรทั้งสองถูกเรียกรถให้จอดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากคุยกันอยู่สักพัก คาร์ลก็พลั้งมือฆ่าตำรวจตาย และตามมาด้วยอีกสองศพจากฝีมือเกรียร์ จนเช้าวันถัดมา มาร์จ ตำรวจหญิงท้องแก่ลงมามีส่วนร่วมในการสืบเหตุฆาตกรรม เธอไม่ใช่คนที่จะปล่อยคดีไปง่ายๆ ดังนั้นสิ่งที่เธอจะทำก็คือสืบหาความจริงทุกวิถีทาง และมันก็เข้าใกล้ตัวเจอร์รี่ขึ้นทุกขณะ นี่มันต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่เขาคิด แล้วกว่าเรื่องจะจบลง ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบด้วยดีหรือร้าย มันก็อาจมีจำนวนศพเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ แต่ละคนต่างพยายามดิ้นรนในที่ทางของตัวเอง มาดูกันว่ามาร์จจะหยุดเจ้าพวกบ้านี้ได้ไหม แล้วจะหยุดด้วยลูกกระสุนหรือการลงไปนอนอยู่ก้นตะราง

Memento (2000)

Memento ภาพยนตร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มหนังนีโอนัวร์ ผลงานของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน บทภาพยนตร์นี้มีพื้นฐานมาจากเรื่องราวของน้องชายเขา โจนาธาน โนแลน ในเรื่อง ‘Memento Mori’ อย่างไรก็ตามบทภาพยนตร์ถือว่าเป็นต้นฉบับ (แทนที่จะดัดแปลง) เพราะเรื่องของโจนาธานยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในขณะนั้น

ภาพยนตร์มีความโดดเด่นอย่างมากในแง่ของการดำเนินเรื่อง โนแลนทำให้มันซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยการย้อนกลับไปกลับมา แล้วให้ผู้ชมไปจัดระเบียบเอาเองในหัวว่าไทม์ไลน์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเรื่องนี้คือ ความจริงโนแลนอยากได้เพลง Paranoid Android ของเรดิโอเฮดมาใช้ในเครดิตจบมาก แต่เพราะสู้ค่าลิขสิทธิ์ไม่ไหวเลยทำให้ต้องปัดตกไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ซื้อเพลงอื่นมาใช้เป็นเพลงประกอบในเรื่องแทน

ลีโอนาร์ด เชลบี้ ชายที่ตกอยู่ในภาวะเสียความทรงจำ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทเสียความจำไปข้างหน้า นั่นหมายถึงเขาไม่สามารถจดจำอะไรได้นานๆ ไม่มีความทรงจำใหม่ๆ ภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือภรรยาถูกพรากชีวิตไปต่อหน้าต่อตา คดีความยังไม่ได้รับการแก้ไข และเชลบี้เชื่อว่านี่เป็นต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ

แต่เดิม เชลบี้ประกอบอาชีพเป็นนักสืบประกัน ทำให้เขามีสกิลการสืบหาความจริงอยู่ในตัว เขาใช้ข้อดีตรงนี้ในการตามล่าหาตัวคนร้ายเพื่อแก้แค้น แต่ปัญหาก็คือเขาไม่สามารถจำอะไรได้นานเลย ทางเดียวที่จะช่วยได้ก็คือเขาต้องบันทึกทุกอย่างไว้ และเพื่อให้มั่นใจว่าบางข้อมูลสำคัญจะไม่หายไปในไหน เขาจึงเลือกสักมันไว้ตามร่างกาย แล้วเราจะได้รู้กันว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความลวง ในเมื่อความทรงจำอาจกำลังเล่นตลกกับเราอยู่

The Girl with the Dragon Tattoo (2011)

The Girl with the Dragon Tattoo ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของสตีก ลาร์ซอน ซึ่งเป็นปฐมบทในชุดไตรภาค มิลเลนเนียน หนังสือได้รับการตีพิมพ์ในปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ผู้เขียนเสียชีวิตไปแล้ว เขาได้ฝากความมหัศจรรย์ของเรื่องราวเอาไว้ แม้จะไม่ได้เห็นความสำเร็จด้วยตาของตัวเอง

เมื่อเริ่มการคัดเลือกนักแสดง ทีแรกบทบาทของลิซเบ็ธ ซาลันเดอร์ ถูกเสนอให้นาตาลี พอร์ตแมน แต่เธอปฏิเสธบทนี้ไป สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน ก็ถูกพิจารณาในบทนี้เช่นกัน แต่เดวิด ฟินเชอร์ คิดว่าเธอดูเซ็กซี่ไปนิด และอีกคนได้แก่เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ แต่เธอก็สูงไปในความรู้สึกฟินเชอร์ จนที่สุดบทนี้ก็ตกมาอยู่ในมือ รูนีย์ มาร่า

รูนีย์ลงทุนเจาะคิ้ว จมูก รวมถึงหัวนมของเธอเองจริงๆ เพื่อบทลิซเบ็ธ เธอบอกว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด ส่วนรอยสักบทร่างกายเป็นเพียงแทททูที่ลอกออกได้เท่านั้น และแม้ว่าฟินเชอร์จะไม่ได้ร้องขอ แต่เธอก็ลดน้ำหนักเพื่อให้ตัวละครของเธอผอมและดูมีกระดูกมากขึ้น

การทำใจยอมรับความสูญเสียบางทีก็อาจใช้เวลาทั้งชีวิต และเฮนดริก วังเกอร์ ก็ดูจะเป็นคนประเภทนั้น เขาคือนักอุตสาหกรรมผู้ร่ำรวยในสวีเดน มีหน้ามีตา และเป็นเจ้าของวังเกอร์ อินดัสตรี ชายชราที่ดูมีชีวิตสมบูรณ์พร้อมนี้ ความจริงภายในใจของเขานั้นกลับมีรูโหว่อยู่ เรื่องค้างคาใจที่ต้องได้รับการแก้ไข ปริศนาการหายตัวไปของหลานสาวที่ผ่านมาแล้วเกือบสี่สิบปี เธออาจเป็นหรือตายไปแล้วไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครเคยเห็นศพของเธอ

เฮนดริกจ้างนักข่าว มิคาเอล บลอมค์วิสต์ มาโดยใช้ภารกิจเขียนหนังสือบังหน้า แท้ที่จริงเขาต้องการให้มิคาเอลมาขุดคุ้ยความจริง โดยแลกกับข้อมูลที่จะช่วยให้มิคาเอลกอบกู้ชื่อเสียงตัวเองกลับมา เนื่องจากเขาถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาท แต่งานนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะขนาดตำรวจยังไม่สามารถไขคดีได้ และเวลาก็ผ่านมานานมากแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจ ลิซเบ็ธ ซาลันเดอร์ ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยเขาไปโดยไม่รู้ตัว จากตอนแรกเธอได้รับคำสั่งมาให้แฮ็กคอมพิวเตอร์ของมิคาเอลเพื่อล้วงข้อมูลบางอย่าง แต่เมื่อสถานการณ์กลับตาลปัตร ทั้งสองจึงร่วมหัวจมท้ายในการปลดเงื่อนงำของคดีนี้ ขณะเดียวกัน ภาพชีวิตของลิซเบ็ธก็ถูกป้อนเข้ามาเรื่อยๆ ชะตากรรมของเธอนั้นเข้าขั้นบัดซบ และรุนแรงขนาดที่ถ้าเป็นเราคงกลั้นใจตายไปแล้ว!

Knives Out (2019)

Knives Out ภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนที่ลีลาแพรวพราวจนไม่อยากละสายตาไปไหน ซึ่งนอกจากจะเป็นปริศนาฆาตกรรมในวันรวมญาติแล้ว เรื่องนี้ก็ยังเป็นการรวมนักแสดงตัวท็อปมากมายเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ แดเนียล เคร็ก, คริส อีแวนส, อนา เดอ อาร์มาส, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ และอื่นๆ ที่เราคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี

ตัวละคร เบอร์นัวต์ บลองก์ พ่อนักสืบของเรานั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากแอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบหนวดงามชาวเบลเยียม ที่มักปรากฎตัวในนิยายนักสืบของอกาธา คริสตี้ ส่วนตัวละครอื่นๆ นั้น ไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับเลือกตั้งชื่อจากศิลปินที่มีผลงานในยุค 70 เช่น วอลต์และโดนัลด์จาก Steely Dan, โจนี จาก Joni Mitchell และลินดาและริชาร์ด จาก Linda and Richard Thompson

ไม่บ่อยนักที่ตระกูลธรอมบีย์จะมารวมตัวกันจนครบหน้าค่าตา แต่เนื่องจากเป็นงานฉลองวันเกิดครบ 85 ปีของฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นักเขียนนิยายชื่อดังที่มีผลงานตีพิมพ์ทั่วโลก ทั้งลูกและหลานจึงมาร่วมแสดงความยินดี แต่ยังไม่ทันข้ามวันงานฉลองวันเกิดก็กลับกลายเป็นวันตาย เมื่อฮาร์ลานสิ้นใจภายในห้องนอนของตัวเอง ทุกคนปักใจเชื่อว่านี่คือการอัตวินิบาตกรรม เพราะไม่มีอะไรน่าสงสัยในที่เกิดเหตุ

แต่ทุกคนก็เปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว เมื่อพินัยกรรมได้ถูกเปิดอ่าน คดีที่เกือบจะปิดลงว่าเป็นการฆ่าตัวตายถูกรื้อมาสอบสวนใหม่ โดยมีเบอนัวต์ บลองก์ นักสืบชื่อดังเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเขาเองก็ไม่ทราบได้ว่าผู้จ้างวานตัวเองคือใคร แล้วเมื่อการตามหาความจริงเริ่มขึ้น ปมความขัดแย้งภายในครอบครัวก็แย้มตัวออกมา ตอนนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ดูจะมีแรงจูงใจได้หมด ทุกคนจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัย คนร้ายอาจมีคนเดียวหรือมากกว่าหนึ่ง? หรือครอบครัวนี้จะมีแค่สายใยจอมปลอม และพร้อมจะหันมาฟาดฟันกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง!?

Tags: , ,