5 ภาพยนตร์ไต้หวันย้อนวันวาน รักครั้งแรกติดจำฝังตรึง

รักครั้งแรกของคุณเกิดขึ้นตอนไหน มัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัย หรือช้านานจนล่วงเข้าวัยทำงาน แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณก็จำมันได้ใช่ไหม หน้าตาของเขา สิ่งที่เขาทำ และรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบเบิกบานนั่น

ถ้าให้เทียบกันแล้วรักแรกที่ไม่สมหวัง คงมีสัดส่วนมากกว่าที่สมหวัง เพราะแบบนั้นมันถึงมีไว้ให้เราได้คิดถึง

ขอชวนเข้าไปค้นความทรงจำรักแรกกับภาพยนตร์รักห้าเรื่องจากประเทศไต้หวัน ดำดิ่งไปในอดีตและปลุกวัยใสของเรากลับมา

Secret – รักเรา กัลปาวสาน (2007)

ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ เจย์ โชว นักร้องหนุ่มชาวไต้หวันที่ทั้งกำกับ เขียนบท และแสดงนำเอง ซึ่งเรื่องนี้ได้นางเอกสาวสวยที่มักปรากฏตัวในลุคผมสั้นอยู่เสมออย่าง ก๊วย หลุน เหม่ย มาแสดงคู่กัน หลังจากแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่อง Blue Gate Crossing ก๊วย หลุน เหม่ย ก็เป็นที่จดจำและเข้าไปอยู่ในใจใครหลายๆ คน เพราะด้วยบุคลิกที่สดใสร่าเริงนั่นเอง

ยี่เซียงหลุน เด็กหนุ่มผู้มีทักษะและฝีมือในการเล่นเปียโนอย่างหาตัวจับได้ยาก ทุกครั้งที่พรมนิ้วลงบรรเลง เขาได้แสดงถึงพลังและความอ่อนหวานที่มีต่อดนตรี หลุนเป็นลูกชายของครูสอนดนตรีที่โรงเรียนมัธยมทัมคัง โรงเรียนอันมีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยนักเรียนมากความสามารถด้านดนตรี แล้วหลุนก็ได้ย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ ในวันแรกที่ไปโรงเรียน ขณะที่เขาเดินผ่านอาคารเก่าหลังหนึ่ง เขาได้ยินเสียงเปียโนที่ไม่คุ้นหู แต่มีท่วงทำนองน่าสนใจ หลุนเดินตามไปจนเจอลูเสี่ยวยู หญิงสาวที่จะทำให้เขาตกหลุมรักในเวลาต่อมา หลุนกับยูได้พบกันและรู้จักกันมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปอย่างคลุมเครือ เพราะยูมักขาดเรียนหรือหายไปบ่อยๆ

หลุนยังจำได้ดีกับเพลงที่ยูเล่น เขาถามเธอว่า เพลงนั้นคือเพลงอะไร ยูเพียงตอบกลับมาว่า “เป็นความลับ” มีครั้งหนึ่งที่ยูเล่นเพลงๆ นี้ให้หลุนฟัง พร้อมบอกเขาว่าห้ามเล่นเพลงนี้กับเปียโนเก่าตัวที่เธอเคยเล่น แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไปปริศนาในตัวยูก็ยิ่งมากตาม ความลับของยูกับบทเพลงนั้นเชื่อมเข้าด้วยกัน ความรักครั้งนี้จึงดูไกลเกินกว่าหลุนจะเอื้อมมือคว้า แต่เขาก็ยังคงไล่ตามมันไป

ความสามารถทางดนตรีของ เจย์ โชว นั้นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกเครื่องมือยืนยันความมหัศจรรย์ของเขาที่บรรจุความสามารถอันหลากหลายไว้ในเวลาเดียวกัน เจย์ โชวจะพาเราท่องเวลาไปค้นหารักแท้และความโรแมนติกที่อยู่ในทุกตัวโน้ตของดนตรี

You Are the Apple of My Eye (2011)

รักแรกในวัยเรียนเป็นชิ้นส่วนของชีวิตที่หอมหวาน ยิ่งผ่านไปนานเท่าไรความทรงจำนั้นยิ่งมีสีสันสวยงาม กลิ่นหญ้าชื้นน้ำในฤดูร้อน กลิ่นฝนฉ่ำตามทางเดินในฤดูฝน และกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าในฤดูหนาว ทั้งหมดมีไว้ระลึกถึงเด็กชายหรือเด็กหญิงในตัวเรา

เกอจิ่งเถิง เด็กหนุ่มหัวโจกที่เอาแต่เล่นมากกว่าเรียน ชอบทำพฤติกรรมห่ามๆ ฮาๆ กับเพื่อนร่วมแก๊ง วันหนึ่งเขาโดนย้ายโต๊ะเรียนไปนั่งอยู่ข้างหน้า เฉินเจียอี๋ เด็กเรียนแสนเรียบร้อยหน้าตาน่ารักที่เป็นที่หมายปองของใครหลายคน อาจารย์มอบหมายให้เธอเป็นคนคอยดูเขา เป็นหูเป็นตาให้อาจารย์เผื่อว่าเขาไปทำอะไรเกเรอีก ทั้งสองจึงไม่ถูกกันไปโดยปริยาย

ด้วยความรับผิดชอบ เฉินเจียอี๋ ก็ทำตามหน้าที่เท่าที่ทำได้ ทั้งช่วยสอนบทเรียน ชวนอ่านหนังสือ จากที่ไม่ลงรอยกัน ความสัมพันธ์ก็เปลี่ยนไป พวกเขากลายมาเป็นคู่แข่งในการเรียนของกันและกัน แล้วด้วยรอยยิ้มบวกกับความใกล้ชิด ทั้งคู่จึงตกหลุมรักกันเข้าอย่างจัง ช่วงเวลาต่อจากนั้นจึงเปี่ยมไปด้วยความรัก มิตรภาพในผองเพื่อน และความหวังอันสวยงามในอนาคต แต่เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลาย พวกเขาก็ต้องไกลกัน เนื่องจากเข้าเรียนคนละมหาวิทยาลัย ด้วยวัยและความไม่ประสากับความรัก นั่นทำให้สุดท้ายเกอจิ่งเถิงกับเฉินเจียอี๋เลิกราและแยกทางกัน พวกเขากลับมารวมตัวและพบกันอีกครั้งในงานแต่งงานของใครคนใดคนหนึ่ง

ภาพเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายภายในหัวของเกอจิ่งเถิงจะตัดสลับไปมาระหว่างความจริงกับความฝัน ซึ่งมันไม่ได้ส่งผลกับแค่ตัวละคร แต่ยังดึงชีวิตเราเข้าไปซ้อนทับในนั้น กลายเป็นความยินดีผสมกับความเจ็บปวด และสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่คือความรักในความทรงจำเท่านั้น

Girlfriend Boyfriend – สัญญารัก 3 หัวใจ (2012)

เมื่อความรักเกิดขึ้นกับเพื่อนรัก เราก็ต้องเลือกระหว่างเก็บไว้เป็นความลับหรือบอกออกไป ถ้าเลือกพูดความจริง เราพร้อมแบกรับความเสี่ยงที่จะเสียเพื่อนรักไปตลอดกาลไหม ความสนิทใจที่มีให้กันมาก็คงจะสูญเสียไปทันที

ท่ามกลางการเมืองที่ผันผวนของไต้หวัน วันแต่ละวันก็ยังดำเนินไป เด็กทุกคนต้องเติบโต ผู้ใหญ่ทุกคนต้องก้าวเดิน เหม่ยเป๋า เด็กสาวก๋ากั่นปากกล้าประจำโรงเรียน มักเป็นแกนนำมีเรื่องกับก๊วนผู้ชายอยู่บ่อยๆ และสนิทสนมกันดีกับเพื่อนผู้ชายหลายๆ คน

และสองคนที่มีบทบาทในชีวิตของเธอมากที่สุดก็คือฉินเหยินกับจ้งเหลียง พวกเขาชอบไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เที่ยวด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน จับมือกันขบถต่ออำนาจของผู้ใหญ่และการปกครอง เหม่ยเป๋านั้นให้ความเป็นห่วงกับจ้งเหลียงเป็นพิเศษ แล้วเมื่อฉินเหยินถามว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันหรือเปล่า คำตอบที่ได้ก็คือไม่ ดังนั้น ฉินเหยินจึงขอเหม่ยเป๋าเป็นแฟน ทั้งสองตกลงคบกัน แต่ก็คงความเป็นเพื่อนของคนสามคนเอาไว้

ในเวลาต่อมาแต่ละคนต่างมุ่งหน้าเรียนต่อและไล่ตามความฝัน ความเป็นไปทางการเมืองก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่านักศึกษาลุกมาร่วมเรียกร้องอย่างล้นหลาม การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไป ไม่เว้นแม้แต่กับพวกเขา จุดเดือดได้ปะทุทุกหย่อมหญ้า รวมถึงในหัวใจ รักสามเส้าอันซับซ้อนถูกระเบิดออก มิตรภาพที่มีมายาวนานถูกสั่นคลอน การจากลากำลังเรียกหาพวกเขาอยู่

ความรักที่ผิดเพี้ยนไปจากความคาดหวังนั้นทำให้ร้าวราน ความอุ่นของน้ำตานั้นไม่อาจดีไปกว่าอุ่นจากอ้อมกอด สิ่งที่จ้งเหลียงทำ มันทำให้ซาบซึ้งว่า เราสามารถเลือกและออกแบบความรักได้ และอย่างน้อยจงแบ่งหัวใจไว้รักตัวเองบ้าง

When a Wolf Falls in Love with a Sheep – หนุ่มช่างฝัน กับสาวละเมอรัก (2012)

บ่อยครั้งจังหวะดีๆ ของชีวิตก็ได้มาเหมือนโชคช่วย ความรักดูจะเป็นเรื่องของพรหมลิขิตหรือปาฏิหาริย์ เพราะในหนึ่งวันเราจะพบคนใหม่ๆ มากหน้าหลายตา คนที่เคยเดินสวนกันเมื่อนานมาแล้วแต่ไม่เคยได้ทำความรู้จัก เมื่อพบกันอีกครั้งซึ่งๆ หน้า เขาหรือเธอก็สามารถทำให้เราตกหลุมรักได้เหมือนกัน

อาตง เด็กหนุ่มที่เพิ่งอกหักหมาดๆ เพราะจู่ๆ คนรักก็หายไปในเช้าวันหนึ่งโดยทิ้งโน้ตไว้สั้นๆ ว่า “จะไปเรียนกวดวิชา” เขาตัดสินใจตามหาเธอเพื่อขอคืนดี ด้วยความเชื่อมั่นว่าปาฏิหาริย์คงเกิดขึ้น อาตงเข้าทำงานในร้านเอกสารแห่งหนึ่งบนถนนหนานหยาง ถนนที่เต็มไปด้วยประชากรและโรงเรียนกวดวิชา เขาทำงานอย่างหนักทุกวัน อยู่กับกระดาษและเอกสารเป็นร้อยพัน แล้ววันหนึ่งเขาก็พบลูกแกะน้อยลายเส้นน่ารัก หน้าตาซื่อๆ ในเอกสารแผ่นหนึ่ง

ในตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไร แต่เมื่อหลายครั้งเข้า อาตงก็พบว่ามันมีเรื่องราวอยู่ในนั้น มีการดำเนินเรื่องให้ลูกแกะได้โลดแล่นบนเอกสารแต่ละแผ่น เขาจึงวาดรูปหมาป่าลงไปด้วย เรื่องราวของลูกแกะกับหมาป่าจึงเริ่มต้นขึ้น มันดำเนินไปจนปาฏิหาริย์เริ่มทำงาน อาตงพบกับเจ้าของลายเส้นลูกแกะ เธอชื่อเสี่ยวหยาง เด็กสาวผมสั้นท่าทางเงียบๆ ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยครูประจำโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งความจริงเธอช่างฝันและอยากเป็นนักวาดการ์ตูน แต่ไม่มีใครตอบรับผลงานของเธอเลย เสี่ยวหยางเองก็เพิ่งแยกทางกับคนรักเช่นกัน เธอเข้าทำงานที่นี่เพื่อรอคอยอะไรบางอย่างไม่ต่างจากอาตง และเมื่อทั้งสองได้พบกันเรื่องราวดีๆ ก็เริ่มก่อตัว แม้ไม่ใช่ในแบบที่คาดหวังเอาไว้ แต่ความสุขและความอบอุ่นใจได้เข้ามาทักทายพวกเขาแล้ว

บนถนนทุกสายนั้นมีเรื่องเล่าของแต่ละคนแอบแฝงอยู่ ทุกพื้นที่มักมีความหลัง สถานที่แต่ละแห่งมีความหมายกับแต่ละคนแตกต่างกัน เธอเลิกกับคนรักที่ตรงนี้ เขาจับมือแฟนครั้งแรกที่ตรงนั้น เราอาจเพิ่งพบกันเมื่อวานในร้านอาหารที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม โชคชะตาจะเล่นเกมกับหัวใจทุกๆ คน

Our Times (2015)

Our Times เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์รักใสๆ หัวใจสีชมพูที่พาเราย้อนกลับไปหารักครั้งแรก และสามารถเข้าไปครองหัวใจคนดูอย่างท่วมท้นไม่ต่างจาก You Are the Apple of My Eye มีกลิ่นอายคล้ายสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก แต่รายละเอียดชวนประทับใจแตกต่างกัน

ภาพยนตร์พาเราไปเจอกับหลินเจินซิน พนักงานสาวออฟฟิศหน้าตาธรรมดา เธอมีชีวิตการงานอันหนักหนา ไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านาย และลูกน้องในใต้บังคับบัญชาไม่ค่อยชอบหน้า ชีวิตเธอออกจะจืดชืดและไม่เป็นไปตามสิ่งที่วาดฝัน มันเลยทำให้เธอนึกไปถึงสมัยก่อน ในวัยที่ยังสดใส มากด้วยพลังงาน เต็มด้วยความฝันสวยงาม กล้าจะเสี่ยงและเปลี่ยนแปลงตัวเอง

แต่ก่อนหลินเจินซินเป็นเด็กผู้หญิงเปิ่นๆ นิสัยบวกกับหน้าตาโก๊ะๆ ไม่เป็นที่สนใจของเด็กผู้ชายคนไหน และมีหนุ่มในฝันเป็นหลิวเต๋อหัว แน่นอนเธอมีความรักแบบเด็กสาวทั่วๆ ไป แอบชอบหนุ่มหล่อที่เพอร์เฟ็กต์ทั้งเรื่องเรียนและกีฬา ปลื้มและติดตามเขาอยู่ห่างๆ

อยู่มาวันหนึ่งหลินเจินซินก็ได้รับจดหมายลูกโซ่ ใจความบอกว่าต้องส่งต่อจดหมายไปอีกห้าฉบับแล้วจะพบกับความโชคดี แต่ถ้าไม่ทำตามโชคร้ายจะตามราวีแทน หนึ่งในคนที่เธอส่งจดหมายไปให้คือ สวีไท่อวี่ เด็กเกเรติดอันดับอันธพาลของโรงเรียน เขาต้องรับเคราะห์แทนเธอ และทันทีที่เธอโดนจับได้ว่าเป็นตัวการของจดหมาย หลินเจินซินก็กลายมาเป็นเบ๊ของสวีไท่อวี่ หลายเรื่องหลายเหตุการณ์ทำให้ทั้งคู่พัวพันกันอย่างช่วยไม่ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุทำให้พวกเขาเห็นมุมดีๆ และความน่ารักของกันจนในใจหวั่นไหว หัวใจที่เคยมอบให้คนอื่นก็กลับมามอบให้กัน แต่ไม่มีใครเอ่ยมันออกมาจนแยกย้ายจากกันไป ความในใจยังคงอยู่แค่เพียงในใจ แล้วเมื่อภาพยนตร์ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน หลินเจินซินกับสวีไท่อวี่ก็ได้พบกันอีกครั้ง แต่พวกเขาจะจัดการกับเรื่องหัวใจในอดีตอย่างไรหรือไม่นั้น ลองไปลุ้นกันเอาเอง

ภาพยนตร์มีทั้งความตลก ผิดหวัง หวานซึ้ง และเจ็บช้ำ เนื้อหาอาจไม่ได้แปลกใหม่ ซ้ำยังเป็นไปตามสูตรสำเร็จ แต่เมื่อดูจบแล้วเราจะอยากกลับไปค้นดูรูปเก่าๆ ในอัลบั้ม เพื่อย้อนกลับไปในวันวานของตัวเองบ้าง เพราะความรักนั้นอุ่นและกรุ่นในหัวใจ