เมลาเนีย ทรัมป์ ‘The First Model’
เสื้อคลุมเคปจากโคลเอ ชุดเดรสจากโดลเช & กาบบานา รองเท้าส้นสูงจากคริสติอ็อง ลูบูแตง เธอชื่นชอบเสื้อผ้าเครื่องใช้ราคาแพง สะดุดตา และมักตกเป็นข่าวเกี่ยวกับรสนิยมด้านแฟชั่นหรู บ่อยครั้งลุคของเธอก็ถูกตีความว่าเป็นภาพลักษณ์ของสตรีหมายเลขหนึ่ง หรือตีความชุดลายทางของเธอเสมือนสัญญาณบอกว่าเธอกำลังรู้สึกคล้ายถูกกักขัง พอๆ กับสูทกางเกงที่บอกว่าชีวิตคู่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่มีนัยอะไรซ่อนเร้น หากเป็นแค่รสนิยมส่วนตัวของสามีเธอเท่านั้น
เมลาเนีย ทรัมป์ หรือชื่อเดิมคือ เมลานียา คเนาส์ (Melanija Knavs) เกิดเมื่อปี 1970 ในเมืองโนโว เมสโตของสโลวีเนีย เธอร่ำเรียนด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบในเมืองหลวงลุบยานา แต่ต้องยุติกลางคัน และหันมาทำงานเป็นนางแบบ คว่ำหวอดกับแคตวอล์กของปารีส มิลาน และต่อมานิวยอร์กก็กลายเป็นบ้านหลังใหม่ของเธอ เธอโยกย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา และได้วีซ่าอยู่อย่างถาวรในปี 2001 ต่อมาในปี 2006 เธอก็ได้รับสัญชาติอเมริกัน
วินัย ความทะเยอทะยาน และโมเดลลิงที่ดีช่วยให้เธอหลุดพ้นจากแวดวงนางแบบแคตตาล็อกชั้นกลาง และไต่เต้าขึ้นเป็นนางแบบแถวหน้า เธอได้ถ่ายแบบนิตยสารชื่อดัง ไม่ว่า GQ, Sports Illustrated หรือ Vogue
ปี 1998 ระหว่างไปร่วมงานปาร์ตี้แฟชั่นวีคที่นิวยอร์ก เมลาเนียได้พบกับหนุ่มเพลย์บอยเนื้อหอม โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเริ่มคบหากันนั้น ทรัมป์เพิ่งเลิกร้างกับมาร์ลา เมเปิลส์ (Marla Maples) ภรรยาคนที่สอง
ปี 2005 ทั้งสองเข้าพิธีสมรส ตอนนั้นเมลาเนียเผยรสนิยมความชอบเครื่องแต่งกายราคาแพงให้เห็น ด้วยชุดเจ้าสาวราคาสองแสนดอลลาร์จากห้องเสื้อดิออร์ ปีถัดมาเธอก็ให้กำเนิดลูกชาย–บาร์รอน วิลเลียม (Barron William) และนับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2017 เธอจึงได้ครองตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง พร้อมภาระหน้าที่ซึ่งเธอไม่เคยคุ้น
ความผิดพลาดของเมลาเนีย ทรัมป์มักตกเป็นที่วิพากษณ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลบ่อยครั้ง ในจำนวนนั้นมีทั้งประเด็นเกี่ยวกับการเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม การไม่ออกความเห็นของเธอเรื่องข่าวความสัมพันธ์ของสามีเธอกับหญิงอื่น หรือเมื่อปลายปีที่แล้วก็มีคลิปเสียงพูดทางโทรศัพท์ของเธอกับเพื่อน–สเตฟานี วินสตัน วอลคอฟฟ์ (Stephanie Winston Wolkoff) หลุดออกมา ในสายเธอพูดบ่นเรื่องการทำหน้าที่ประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสของสตรีหมายเลขหนึ่ง
เมลาเนียมักอยู่เคียงข้างสามีอย่างนิ่งเงียบ ถ่อมตัว แต่เมื่อใดที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบาร์รอน–ลูกชายของเธอละก็ เธอจะพูด และกางปีกออกปกป้อง “เด็กที่วัยยังไม่บรรลุนิติภาวะควรได้รับการปกป้องจากการคุกคามทางการเมือง หรือแม้กระทั่งการถูกบูลลี”
ขณะเป็นนางแบบ บ้านของเธออยู่บนแคตวอล์ก แต่เมื่อกลายมาเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เธอต้องใช้ชีวิตคล้ายเก็บตัว ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในระยะเวลาร่วมหนึ่งปีที่ผ่านมา เมลาเนียคล้ายพยายามถอยออกจากฉากการหาเสียง และสามีวัย 74 ของเธอเองก็รู้ และยังแสดงบทผู้นำของเขาต่อไป
ภาพลักษณ์ชีวิตคู่ของทรัมป์ในสายตาของสาธารณชนดูแตกต่างจากคู่ของโอบามา ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ที่ดูกลมเกลียวเป็นทีมเดียวกัน อีกทั้งข่าวลือเรื่องแยกเตียงของทรัมป์ยังทำให้ดูเหมือนชีวิตคู่ของทั้งสองสั่นคลอน และข่าวเรื่องการนอกใจของเขาดูเป็นเรื่องจริง
หนึ่งในจำนวนน้อยครั้งที่เมลาเนียพูดระหว่างการหาเสียง เป็นเทปบันทึกที่เปิดฉายในวันประชุมพรรครีพับริกันเมื่อเดือนสิงหาคม ความยาว 25 นาที ฉากหลังเป็นสวนกุหลาบที่เธอเพิ่งจัดแต่ง
“สิ่งที่คุณ ในฐานะประชาชน สมควรได้รับจากประธานาธิบดีของเราก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะถูกใจใครหรือไม่ ไม่มีใครล่วงรู้ถึงสิ่งที่เขาคิดได้ นั่นเพราะเขาเป็นคนจริงจังคนหนึ่งที่รักประเทศนี้ และรักประชาชน”
……
จิลล์ ไบเดน ‘The First Teacher’
อดีตสตรีหมายเลขสองในยุคสมัยของบารัก โอบามา เกิดเมื่อปี 1951 ในนิวเจอร์ซีย์ ชื่อเดิมของเธอคือ จิลล์ เทรซี จาค็อบส์ (Jill Tracy Jacobs) เธอใช้ชีวิตวัยเด็กในเพนน์ซิลเวเนีย ในฐานะพี่สาวคนโตของน้องสาวสี่คน เลือกเรียนด้านการตลาดแฟชั่น แต่ต้องล้มเลิกกลางคัน เพื่อไปเรียนต่อภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยในเดลาแวร์ เธอแต่งงานตั้งแต่ตอนอายุสิบเก้ากับนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัย แต่ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันได้เพียงสี่ปี ก่อนเลิกร้างกันไป
ปี 1975 เธอมีโอกาสได้รู้จักกับโจ ไบเดน (Joe Biden) ผ่านการนัดบอดที่แฟรงก์–น้องชายของโจเป็นคนจัดการ หลังจากพบกันครั้งแรกจิลล์รู้สึกประทับใจวุฒิสภาชิกวัยแก่กว่า 9 ปีผู้นี้ ถึงกับรายงานให้แม่ของเธอฟังว่า “ในที่สุดหนูก็เจอสุภาพบุรุษเสียที”
เคมีของทั้งสองดูเหมือนจะตรงกัน จิลล์ผู้มองโลกในแง่ดีได้ช่วยฉุดดึงโจให้หลุดพ้นจากห้วงความโศกเศร้า จากโศกนาฏกรรมเมื่อปี 1972 ที่ภรรยาคนแรกของเขา–นีเลีย (Neilia) และลูกสาวประสบอุบัติเหตุรถยนต์ ส่วนลูกชายทั้งสองคน–โบ (Beau) และฮันเตอร์ (Hunter) รอดชีวิตแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จิลล์โผล่เข้าไปท่ามกลางครอบครัวที่เพิ่งสูญเสียด้วยความยากลำบาก แต่เธอก็ชนะใจทุกคนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับลูกชายทั้งสองคนของโจ เธอยอมพักงานสอนภาษาอังกฤษไว้ชั่วคราวเพื่อใช้เวลาเลี้ยงดูเด็กทั้งสอง จนกระทั่งเธอกับโจมีลูกสาว–แอชลีย์ (Ashley) ด้วยกันอีกคนในปี 1981
ระหว่างการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งในปี 1988 และ 2008 จิลล์ยังคงทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับการช่วยสามีหาเสียง และในการเลือกตั้งปีนี้เธอมีบทบาทมากขึ้น กับอีกภาระหนึ่งที่เพิ่มขึ้นคือ การเป็นบอดี้การ์ดให้กับโจ
“ผมน่าจะเป็นผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีคนเดียวที่มีภรรยาทำหน้าที่เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้” โจ ไบเดนเคยให้สัมภาษณ์สื่ออย่างมีอารมณ์ขัน หลังจากเขาได้รับเลือกจากพรรคเดโมแครตให้เป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรค
และในเดือนมิถุนายน 2020 จิลล์ก็มีผลงานหนังสือเด็ก Joey: The Story of Joe Biden ออกมา ในเล่มเล่าถึงเรื่องเด็กผู้ชายที่พูดติดอ่างและถูกรังแก
เมื่อครั้งที่โจ ไบเดนได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดี เคียงข้างบารัก โอบามาในปี 2008 ตอนนั้น ดร.จิลล์ ไบเดนก็ได้ชื่อว่าเป็นสตรีหมายเลขสองของสหรัฐอเมริกา ด้วยบุคลิกที่อบอุ่น เปี่ยมไปด้วยพลัง พูดจาคมคาย อีกทั้งยังชื่นชอบเสื้อผ้าสีสันสดใส สวมรองเท้าบูตยาว และเครื่องประดับมุก เธอสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระอย่างมืออาชีพ แม้จะเป็นภริยาของรองประธานาธิบดี แต่ด็อกเตอร์หญิงคนนี้ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสาทวิชาให้กับวิทยาลัยชุมชน หรือระดับชั้นการศึกษาระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย
ชีวิตคู่ของไบเดน ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กับเมืองวิลมิงตัน ในรัฐเดลาแวร์ แตกต่างจากคู่ของทรัมป์อีกเช่นกัน ทั้งสองมักแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดและความรักใคร่ให้สาธารณชนเห็นอยู่เสมอ
“ผมคือโจ ไบเดน และผมเป็นสามีของจิลล์” ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมักกล่าวแนะนำตัวแบบนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ตามแบบฉบับสุภาพบุรุษยุคเก่าก่อน
อ้างอิง:
https://www.stern.de/lifestyle/leute/melania-trump–vom-model-zur-first-lady-der-usa-9239376.html
https://www.dw.com/de/enth%C3%BCllungsbuch-%C3%BCber-melania-trump/a-53959789
https://www.luzernerzeitung.ch/international/um-sie-dreht-sich-joe-bidens-welt-ld.1267350
Tags: จิลล์ ไบเดน, เมลาเนีย ทรัมป์