หลายเพลงเหลือเกินที่เอาแต่ตอกย้ำว่าผู้หญิงยังคงเป็นฝ่ายรอ เป็นผู้ถูกเลือก ตกเป็นเหยื่อ หรือกดทับผู้หญิงเอาไว้ในกรอบ ‘ผู้หญิงดี’ ห้ามมีราคี ห้ามนำเสนออารมณ์ทางเพศ ในวันสตรีสากลปีนี้ เราจึงอยากชวนไปค้นดูว่าในบรรดาเพลงไทย (เท่าที่เคยได้ยินได้ฟัง) มีเพลงไหนบ้างที่สามารถ empower woman แบบปังๆ เข้ายุคเข้าสมัย

เพลงตั้งแต่เกือบสามสิบปีก่อน ยังคงยืนหนึ่งเรื่องการสนับสนุนเสรีภาพในการแต่งกายของผู้หญิง ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะ “ฉันชอบอิสระเสรี” ส่วนเรื่องค่านิยมโบร่ำโบราณหรือการโทษเหยื่อต่างๆ อาจจะต้องพักก่อน

อีกหนึ่งตำนานของค่ายกามิกาเซ่ และเพลงนี้ของเธอก็แสดงให้เห็นถึงการมีสิทธิเป็นฝ่ายเลือก เป็นฝ่าย active ในความสัมพันธ์ รวมถึงการใช้เหตุผลประกอบการเลือกอย่างแน่วแน่ ที่นับว่าช่วยแหกกรอบสังคมที่ยังคงมีการมองว่าผู้หญิงเป็นมนุษย์ที่ใช้แต่อารมณ์ได้เป็นอย่างดี

เมื่อฟังไปทั้งเพลงก็รู้สึกได้ว่าคนในเนื้อเพลงกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ toxic และเพลงนี้ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่มีใครจำเป็นต้องทน การตัดสินใจอยู่คนเดียวควรเป็นสิทธิที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือกได้เช่นกัน

หากผู้หญิงที่เปลี่ยนใจจากคนรักมักจะถูกประณาม ซึ่งหลายครั้งก็โดนหนักกว่าผู้ชายที่ทำสิ่งเดียวกัน เพลงนี้ก็อาจช่วยอธิบายเหตุผลที่บางครั้งในความสัมพันธ์ผู้หญิงก็เป็นฝ่ายมีคนอื่น แม้จะยังมีจุดที่อาจโดนเฟมินิสต์ตัวกลั่นตีว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ‘ดูแล’ จนใจสับสน แต่เพลงนี้ก็ยังคงเสนอภาพการเป็นฝ่ายเลือกของผู้หญิงได้ดีไม่น้อย

หากสำหรับคุณแล้ว Playgirl ของ ส้ม อมรา ยัง empower ผู้หญิงชอบเที่ยวได้ไม่สุด เพราะยังคงมีกรอบเรื่องการเป็น ‘กุลสตรี’ ที่รักสนุก / ชอบเฮฮา แต่ ‘ไม่บ้าผู้ชาย’ / ‘คุณพ่อคุณแม่ท่านอยู่ในใจ ประเดี๋ยวกลับไปกราบรายงานตัว’ ลองไปสุดกับเพลง รักสนุก ของ จีน กษิดิศ 

ไม่ใช่แค่ตามผับตามบาร์ แต่หน้าเวทีหมอลำก็เป็นพื้นที่ของเพื่อนสาวเพื่อนเทยที่รักสนุก ไม่จมจ่อมอยู่กับความอกหักรักคุด นับเป็นเพลงที่ empower ให้ผู้หญิงเยียวยาตัวเองไปกับวัฒนธรรมพื้นบ้านสนุกๆ ได้แบบสุดฤทธิ์สุดเดช

ขั้นกว่าของการจีบผู้ชายก็คือการใช้เวทมนตร์ แถมแม่มดคนนี้ยังไม่ได้อยากเป็นฝ่ายที่ต้องถูกดูแลหรือถูกควบคุม แต่เธอต่างหากที่จะคอยดูแลคอยเกาคางเหมือนคนเป็นไอ้ต้าวแมวตัวน้อยๆ น่ารัก

ผู้หญิงไม่ได้ใสซื่อไร้เดียงสาจนดูผู้ชายไม่ออกไปเสียทุกคน หลายคนอย่างเช่นแม่ฮันนี่ ภัสสร เขาดูออกมาตั้งแต่ยุค 90s โน่นแล้ว

เพลงดังแห่งยุค 2010s ที่ต้องขอหยิบท่อนร้องของยัวร์บอยทีเจมาเล่านำ เพราะดูจะสะท้อนสถานการณ์ด้านก้าวหน้าเรื่องเสรีภาพในการแต่งกายได้ประมาณหนึ่งทีเดียว คราวนี้คงอยู่ที่ว่าสังคมจะก้าวข้ามเรื่อง อิสรภาพ vs โป๊เปลือย กันได้ในตอนไหน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คงไม่ใช่แค่ภาระของเพศหญิงอย่างเดียวอีกต่อไป