สำนักข่าว The Sydney Morning Herald ของออสเตรเลีย รายงานข่าวภายใต้พาดหัวว่า ‘Thai minister jailed in Sydney for heroin importation finally ousted’ หรือ ‘ในที่สุด รัฐมนตรีไทยซึ่งเคยถูกจำคุกในซิดนีย์จากการนำเข้าเฮโรอีน ก็พ้นจากตำแหน่ง’
ทั้งนี้ เนื้อข่าวระบุว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีไทยที่เคยถูกคำพิพากษาให้จำคุกในออสเตรเลียจากการนำเข้าเฮโรอีน ถูกกดดันให้ออกจากคณะรัฐมนตรีแล้ว หลังจากเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในพรรครัฐบาล
พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า ร้อยเอกธรรมนัส รัฐมนตรี ‘เฮฟวีเวท’ ในรัฐบาลผสม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็ทหารราชองครักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกไม่สบายใจในข่าวลือว่าเขาวางแผนล้มพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัสจับมือกับ ‘พรรคฝ่ายค้าน’ และพรรคของเขาเองในการล้มพลเอกประยุทธ์ผ่านการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ แต่ในที่สุด พลเอกประยุทธ์ก็รอดพ้น โดยมีข่าวลือที่พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธภายหลังว่า นายกฯ จ่ายให้ ส.ส. ราว 2 แสนเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 5 ล้านบาท) ต่อคน
The Sydney Morning Herald ยังรายงานด้วยว่า มีการประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา โดยอ้างเนื้อความว่า ร้อยเอกธรรมนัสสมควรพ้นจากตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ
นอกจากนี้ ยังอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของร้อยเอกธรรมนัสว่า ตัวเขาไม่สบายใจกับสภาพการเมืองแบบนี้ และพร้อมกลับไปทำประโยชน์ที่จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
สื่อออสเตรเลียรายนี้ระบุอีกด้วยว่า จนถึงขณะนี้ นับเป็นเวลา 2 ปีพอดี หลังจาก The Sydney Morning Herald และ The Age หนังสือพิมพ์อีกฉบับ เปิดเผยเอกสารจากเรือนจำซิดนีย์ ในช่วงทศวรรษที่ 1990 ว่าร้อยเอกธรรมนัสต้องโทษจากการขนเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมเข้ามายังออสเตรเลีย ซึ่งร้อยเอกธรรมนัสยอมรับผิด และถูก ‘เนรเทศ’ ภายหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำปาร์กลีย์ (Parkley Prison)
กระนั้นเอง The Sydney Morning Herald บอกว่า สิ่งที่ร้อยเอกธรรมนัสพูดกับสื่อไทยเป็น ‘คนละเรื่อง’ โดยสิ้นเชิง โดยอภิปรายกลางสภาว่าเขาเป็นพยาน และเพียงแค่รู้เห็นกับการส่งออกเฮโรอีนเท่านั้น ส่วนเฮโรอีนที่ถูกตำรวจออสเตรเลียจับได้ก็เป็น ‘แป้ง’ ไม่ใช่ยาเสพติด ทั้งที่เอกสารจากศาลออสเตรเลียระบุชัดว่า ของกลางที่จับกุมได้ในโรงแรมที่หาดบอนไดวันนั้น เป็น ‘เฮโรอีนบริสุทธิ์’ 74% เป็นเหตุให้ร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งวันนั้นเป็นทหารหนุ่ม ใช้ชื่อว่า มนัส โบพรหม ต้องถูกจับกุม-ดำเนินคดี
สำนักข่าวนี้ยังรายงานว่า หลังจากได้รับการปล่อยตัว และกลับมายังประเทศไทย ร้อยเอกธรรมนัสกลับมาประจำการที่กองทัพบกอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ-นามสกุลที่เปลี่ยนไป โดยเขาเปลี่ยนชื่ออย่างน้อย 4 ครั้ง และมีชีวิตที่ ‘มีสีสัน’ ทั้งในกองทัพและโลกธุรกิจ ก่อนที่จะเข้าสู่แวดวงการเมือง
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัสเองยังถูกตั้งคำถามจากทั้ง The Sydney Morning Herald และ The Age เกี่ยวกับ ‘วุฒิปริญญาเอก’ ว่ามาจากมหาวิทยาลัยปลอมหรือไม่ และวิทยานิพนธ์ของเขาก็เป็นไปได้ที่จะมาจากการ ‘คัดลอก’ แต่ในเวลานั้นพลเอกประยุทธ์ได้ออกมาปกป้อง รวมถึงบอกด้วยว่าการที่ร้อยเอกธรรมนัสติดคุกในออสเตรเลียนั้นเป็นเรื่องเล็ก ในช่วงเวลาฝุ่นตลบดังกล่าว ร้อยเอกธรรมนัสได้ขู่จะฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เขามากกว่า 100 คน
เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีของร้อยเอกธรรมนัสไปถึง ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ แต่ในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญก็ระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย ที่ร้อยเอกธรรมนัสถูกจำคุก 4 ปีนั้น ไม่ขัดกับคุณสมบัติรัฐมนตรีของร้อยเอกธรรมนัสตามรัฐธรรมนูญ และเรื่องที่เกิดขึ้นในศาลต่างประเทศไม่เกี่ยวกับศาลไทย
The Sydney Morning Herald สรุปอีกว่า ก่อนที่ร้อยเอกธรรมนัสจะถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนั้น เขาถือเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูงภายในรัฐบาลผสม และเป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างสูงในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ที่มา: https://www.smh.com.au/…/thai-minister-jailed-in-sydney…
ภาพ: รัฐบาลไทย, Sydney Morning Herald