ในอดีต ผู้บริโภคอาจให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการของอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าบรรจุภัณฑ์ แต่ในปัจจุบัน ผู้บริโภครุ่นใหม่ใส่ใจกับบรรจุภัณฑ์มากขึ้น ดังนั้น นอกจากความสวยงาม ผู้บริโภคจึงต้องมั่นใจได้ว่าอาหารและเครื่องดื่มมีความปลอดภัย และสะดวกต่อการหยิบจับใช้งาน
เราอาจไม่คุ้นกับชื่อ ‘เต็ดตรา แพ้ค’ (Tetra Pak) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลกที่ทำหน้าที่ปกป้องคุณค่าของอาหารและเครื่องดื่มมานานเกือบ 70 ปี แต่จริงๆ แล้วเต็ดตรา แพ้ค ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี โดยมีแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มถึง 40 แบรนด์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค
ด้วยความต้องการสื่อสารกับผู้บริโภครุ่นใหม่ให้เข้าใจว่าบรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค มีดีอย่างไร แคมเปญ ‘มองตรา’ จึงเปิดตัวผ่านวิดีโอแคมเปญตามแนวคิด ‘การปกป้องคุณค่า’ (Protects what’s Good) โดยชูสามประโยชน์หลักของบรรจุภัณฑ์เต็ดตรา แพ้ค นั่นคือ สิ่งแวดล้อม (Environment) อาหารปลอดภัย (Food Safety) และความสะดวกสบาย (Convenience)
เพียงแค่มองหาสัญลักษณ์ของเต็ดตรา แพ้ค ที่ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์ ผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม
ใช้ป่าปลูก อาหารปลอดภัย และใช้งานง่าย
มร. เบิร์ท ยาน โพสท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจกับความปลอดภัยของอาหาร เต็ดตรา แพ้ค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน จึงอยากสื่อสารกับผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ว่าบรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค มีประโยชน์อย่างไร ผ่านแคมเปญ ‘มองตรา’ ที่ชวนให้มองหาโลโก้ของเต็ดตรา แพ้ค ที่ข้างกล่อง
สำหรับจุดเด่นของบรรจุภัณฑ์เต็ดตรา แพ้ค ที่อยากจะสื่อสารกับผู้บริโภค มีอยู่ 3 ด้าน ได้แก่
การเลือกใช้วัตถุดิบกระดาษและเยื่อไม้จากแหล่งป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่ได้การรับรองจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ Forest Stewardship Council™ (FSC™) ซึ่งมีการติดฉลาก FSC บนกล่องบรรจุภัณฑ์มาตั้งแต่ปี 2550 โดยจนถึงปี 2560 มีบรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค ที่มีฉลาก FSC ถึง 3 แสนล้านกล่อง
อาหารปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เต็ดตรา แพ้ค เป็นผู้คิดค้นระบบการผลิตและบรรจุแบบยูเอชที (Ultra High Temperature Treatment: UHT) และเป็นผู้นำในนวัตกรรมดังกล่าวมากว่า 60 ปี โดยจุดเด่นคือการใช้ความร้อนสูงถึง 135 องศาเซลเซียสในการฆ่าเชื้อเป็นเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที จากนั้นจึงนำผลิตภัณฑ์มาบรรจุและปิดผนึกภายใต้สภาวะแวดล้อมที่สะอาดและปราศจากเชื้อ
ที่สำคัญคือกล่องบรรจุภัณฑ์แบบยูเอชทีมีถึงหกชั้น โดยมีชั้นที่เป็นกระดาษ 75 เปอร์เซ็นต์ พลาสติกและอลูมิเนียมฟอยล์อีก 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นวัสดุทึบแสง ช่วยปกป้องวิตามินต่างๆ ที่ไวต่อแสง เช่น วิตามิน A, B2, B6, B12, C และ K จึงช่วยรักษารสชาติและความสะอาดของเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องใส่สารกันบูด
ในด้านความสะดวกสบาย กล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค มีรูปทรง ขนาด และดีไซน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์ โดยใช้งานได้สะดวก ถือจับก็กระชับ พกพาได้ง่าย จะเปิดปิดฝาก็ไม่ยุ่งยาก
กระตุ้นตลาด สร้างความแตกต่าง และเน้นคนรุ่นใหม่
ปัจจุบัน เต็ดตรา แพ้ค มีลูกค้าในประเทศไทย 40 ราย โดยในปี 2560 เต็ดตรา แพ้ค ผลิตกล่องเครื่องดื่มไปแล้วกว่า 6,800 ล้านกล่อง หรือคิดเป็นจำนวน 1,500 ล้านลิตร ซึ่ง มร. เบิร์ท ยาน โพสท์ ยอมรับว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างทรงตัว ทำให้ปีนี้คาดหวังว่าจะมีการเติบโตมากกว่าเดิม 2-3 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1,700 ล้านลิตร
แคมเปญ ‘มองตรา’ จึงได้รับการคาดหวังว่าจะกระตุ้นตลาดเครื่องดื่มให้คึกคัก และสร้างความแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจกับความปลอดภัยด้านอาหารและสุขภาพ จึงทำการสื่อสารผ่านสองนักแสดงรุ่นใหม่อย่างมิว-นิษฐา จิรยั่งยืน และกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ในช่องทางออนไลน์ เพื่อเน้นสามประโยชน์หลักของกล่องเครื่องดื่ม นั่นคือสิ่งแวดล้อม อาหารปลอดภัย และความสะดวกสบายใช้งานง่าย
Fact Box
เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทชั้นนำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารระดับโลก ดำเนินธุรกิจใน 170 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานมากกว่า 24,000 คน โดยมีสโลแกนว่า ‘ปกป้องทุกคุณค่า’ (Protects what’s Good) ซึ่งสะท้อนปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกที่ทั่วโลก