หากใครเป็นแฟนหนังภาพยนตร์แนว ไซ-ไฟ คงเคยได้ยินเทคโนโลยีที่เรียกว่า ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid) หรือหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนคนสำคัญที่คอยช่วยให้มนุษย์ดำเนินชีวิตได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ถ้าลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนก็เช่น โดราเอมอน หุ่นยนต์แมวสีฟ้าตัวกลมแห่งศตวรรษที่ 22 หรือ C3PO หุ่นดรอยด์ ผู้ทำหน้าที่เชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต จากอภิมหากาพย์ภาพยนตร์สงครามอวกาศ สตาวอร์ส

แต่กระนั้น โลกปัจจุบันยังไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวได้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ อีลอน มัสก์ ซีอีโอคนดังแห่งเทสลา (Tesla) ได้ออกมาสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง โดยระบุว่าบริษัทของเขากำลังเดินหน้าพัฒนาโปรเจ็คฮิวแมนนอยด์แบบจริงๆ จังๆ

ความจริงแล้วประเด็นดังกล่าวอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะหากย้อนไปเมื่อ 5 เดือนก่อน ทางเทสลาเคยออกมาระบุกลายๆ แล้วว่า พวกเขากำลังวางแผนพัฒนาโปรเจ็คฮิวแมนนอยด์ โดยในเวลานั้นมีการใช้ชื่อชั่วคราวว่า Teslabot 

กระทั่งวันที่ 26 มกราคม 2022 พวกเขาได้หยิบโปรเจ็คต์นี้มาพูดถึงอีกครั้ง ในงาน Technoking เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้มาแค่โมเดลจำลอง แต่มาให้ยลโฉมหน้าตา พร้อมสัดส่วนสเกลสมบูรณ์ กับชื่อใหม่ว่า Optimus ท่ามกลางความตื่นเต้นของสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว และมีฤกษ์วางจำหน่ายรถยนตร์ Cybertruck หรือเทคโนโลยี EV Car รุ่นใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปี

สำหรับรายละเอียดโมเดลของฮิวแมนนอยด์ Optimus นั้น จะมีลักษณะรูปร่างถอดแบบมาจากมนุษย์เกือบทั้งหมด ยกเว้นใบหน้าที่ไม่มีจมูก ปาก หรือตา โดยมีความสูง  5 ฟุต 8 นิ้ว (ราว 170 เซนติเมตร) น้ำหนักราว 56 กิโลกรัม บังคับด้วยระบบ Auto Pilot แบบเดียวกับที่ใช้ในผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ยกน้ำหนักได้ถึง 68 กิโลกรัม เดินได้เร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงมีระบบจดจำสิ่งที่พบเห็น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นจุดสำคัญที่เจ้าของสามารถนำหุ่นไปใช้งานได้ตามความเหมาะสม เช่น ซ่อมแซมพาหนะ ล้างจาน ถือของ ขับรถ ฯลฯ

นอกเหนือจากข้อมูลระบบการทำงาน  อีลอน มัสก์ ยังเผยเพิ่มเติมอีกว่า เทสลากำลังวางแผนให้ผลิตภัณฑ์ ฮิวแมนนอยด์ กลายเป็นสายการผลิตที่สำคัญอันดับหนึ่งของบริษัท แม้ก่อนหน้าตนจะเคยออกมาต่อต้าน และมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่ตัดโอกาสผู้ใช้แรงงาน และกล่าวติดตลกว่าอนาคตหุ่นอาจพัฒนาจนมนุษย์ควบคุมไม่ได้และกลายเป็นนักฆ่าเหมือนในภาพยนตร์ก็ตาม

“รากฐานของเศรษฐกิจ คือ แรงงาน แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าหากแรงงานที่มีในอนาคตมีไม่พอ นั่นเป็นโจทย์ที่ Optimus จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหางานแต่ละวันที่ซ้ำซากน่าเบื่อหรืออันตราย เพื่อให้มนุษย์ปลอดภัยและมีเวลาไปทำอย่างอื่น” 

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าโปรเจ็คฮิวแมนนอยด์ Optimus ยังคงต้องใช้ระยะเวลาพัฒนาอยู่อีกพอสมควร โดยเฉพาะเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ ที่เป็นปัญหาใหญ่ให้เทสลาต้องขบคิด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดข้อผิดพลาดเหมือนกรณีของรถ EV Car ที่ระบบ  Auto Pilot ทำงานผิดพลาด จนมีผู้โดยสารประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทว่าหากมองในมุมธุรกิจ นี่อาจเป็นแผนการตลาดเพื่อกระตุ้นกราฟกระด้านหุ้นของ อีลอน มัสก์ อีกหนก็เป็นได้

ที่มา:

 

ภาพ: Tesla

 

Tags: , , , ,